กองทัพเรือสหรัฐฯ และอังกฤษโจมตีเยเมนหลายจุดเพื่อลงโทษหลังจากที่กองทัพฮูตี ได้ โจมตีเรือสินค้าของโลกตะวันตกและอิสราเอลเป็นการปิดอ่าวเอเดนและทะเลแดง
เครื่องบินรบของสหรัฐฯ และอังกฤษอ้างว่าประสบผลสำเร็จในการเล่นงานเป้าหมายในเยเมน แต่ไม่ระบุว่ามีความเสียหายอย่างไรบ้างและเยเมนจะสิ้นสภาพความสามารถในการโจมตีเรือสินค้าอีกหรือไม่
สิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้นประธานาธิบดีโจ ไบเดนซึ่งกำลังอยู่ในสภาพร่อแร่ในความเป็นผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้ดูดีขึ้นเลยเพราะสมาชิกสภาคองเกรส อ้างว่าไม่ได้ขออนุมัติก่อนโจมตีเยเมน
ถ้าจะมองอีกมุมก็คือสภาสามารถปัดความรับผิดชอบไม่ต้องผูกพันกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการโจมตีเยเมน ซึ่งไม่ได้รับอนุมัติจากองค์การสหประชาชาติ
โจ ไบเดนอ้างว่าการกระทำของกองทัพเยเมนเป็นการก่อการร้ายแต่กลุ่มฮูตีไม่ได้ถูกตราว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายในยุคของโจ ไบเดน ดังนั้นสิ่งที่กระทำไปจึงเป็นการขัดต่อกฎบัตรของสหประชาชาติ
อังกฤษเข้าร่วมด้วยเพราะเป็นลูกไล่ของสหรัฐฯ อยู่แล้วและต้องการมีบทบาทไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียก็ตาม และสิ่งที่ทำก็เป็นการหวังพึ่งการปกป้องจากภัยต่างๆ
แต่ถ้าจะดูอีกมุม สหรัฐฯ ได้ลดตัวลงมาทำสงครามกับประเทศที่ยากจนไม่ต่างจากอัฟกานิสถานถือว่าเป็นการหาเรื่องประเทศที่แสนยานุภาพด้อยกว่า
แต่ต้องไม่ลืมว่ากองทัพของเยเมนได้ต่อสู้กับกองกำลังผสม 10 ประเทศ นำโดยซาอุดีอาระเบียในสงครามยาวนาน 8 ปีซึ่งเยเมนสามารถยืนหยัดอยู่ได้โดยมีอิหร่านหนุนหลัง
ดังนั้นจะหวังว่าสหรัฐฯ และอังกฤษ จะสามารถพิชิตกองทัพเยเมนซึ่งมีมากถึง 400,000 คนจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะสามารถต่อสู้กับกองกำลังผสมนำโดยซาอุดีอาระเบียได้โดยไม่เสียหาย
เยเมนยังมีกองทัพอากาศและกองทัพเรือ เป็นรูปแบบ
และมีอาวุธมากมายในคลังแสงโดยเฉพาะจรวดและขีปนาวุธ
ยิ่งตอนนี้เยเมนได้ใช้โดรนและจรวดราคาถูกไม่กี่ 1,000 ดอลลาร์โจมตีเรือสินค้าแต่สหรัฐฯ ใช้จรวดราคาแพงประมาณหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์ เข้าสกัดกั้นจึงเป็นการลงทุนที่แพงเกินความจำเป็น
เมื่อกองทัพเยเมนใช้อาวุธราคาถูกล่อให้สหรัฐฯ เสียของแพงจึงทำให้การสิ้นเปลืองและเรือรบของสหรัฐฯ ต้องออกจากพื้นที่ไปเพื่อเติมกระสุนและจรวดรอบใหม่
จรวดและกระสุนประจำเรือสหรัฐฯ ไม่ใช่ว่าจะผลิตได้ง่าย ใช้เวลา ดังนั้นเยเมนจึงอยู่ในสภาพที่ได้เปรียบเพราะมีสำรองมากมายนับตั้งแต่สงครามสงบลง
ดังนั้นเยเมนจึงประกาศว่าจะไม่กลัวการโจมตีของสหรัฐฯ และอังกฤษ พร้อมจะตอบโต้เอาคืนสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นและจะไม่เลิกโจมตีเรือสินค้าที่เข้าไปในทะเลแดง
สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทำให้อิสราเอลเสียหายอย่างหนักด้านเศรษฐกิจโดยเรือไม่สามารถผ่านทะเลแดงเข้าไปยังอิสราเอลได้ ทั้งยังสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวเพราะภาวะสงครามซึ่งยังไม่มีใครกำหนดว่าจะจบลงเมื่อไหร่
ทฤษฎีพ่ายแพ้สงครามด้านข่าวสารข้อมูลและการประชาสัมพันธ์ งานโฆษณาชวนเชื่อที่เคยมีพลังมหาศาลก็สูญสลายด้วยเหตุที่การสังหารชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเกินกว่า 24,000 รายแล้ว
ยิ่งมีคดีในศาลโลกโดยมีแอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพด้วยข้อกล่าวหาสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และละเมิดกฎบัตรเจนีวา เรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทำให้อิสราเอลและสหรัฐฯ ถูกโดดเดี่ยวโดยประชาคมโลก
สงครามในทะเลแดงจึงเป็นการขยายวงจากฉนวนกาซาระหว่างกลุ่มติดอาวุธฮามาส ซึ่งอิสราเอลไม่สามารถเอาชนะได้หลังจากสงครามผ่านไป 100 วัน
สหรัฐฯ จึงเป็นผู้ที่เสียหายด้านความเป็นผู้นำเพราะลดตัวลงมารบกับเยเมนเพียงเพื่อต้องการช่วยเหลืออิสราเอลซึ่งเท่ากับเป็นการสมรู้ร่วมคิดในการทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์
นอกจากสหรัฐฯ และอังกฤษแล้ว เยอรมนียังส่งเรือรบเข้าไปในทะเลแดงอีกด้วย ซึ่งเท่ากับว่าจะมีประเทศเพิ่มขึ้นในการทำศึกกับเยเมนและจะทำให้การสู้รบขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ
กองกำลังอิสลามในอิรักและซีเรียเริ่มโจมตีเป้าหมายซึ่งเป็นที่ตั้งของทหารสหรัฐฯ และอิหร่านยังได้โจมตีกลุ่มที่มีเครือข่ายสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ด้วยแม้จะอยู่ในอิรักก็ตาม
ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในทะเลแดงและฉนวนกาซาอาจจะลามไปพื้นที่อื่นๆ ถ้าชาวปาเลสไตน์ต้องสูญเสียชีวิตมากกว่าเดิมและศาลโลกต้องใช้เวลาในการตัดสินคดี
ถึงวันนั้นจะมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกี่ 10,000 คนก็ยังยากที่จะประเมินเพราะอิสราเอลยังไม่ยอมฟังคำสั่งใครทั้งนั้นแม้แต่สหรัฐอเมริกา
มาถึงบัดนี้สหรัฐฯ กำลังจะพ่ายแพ้สงครามในยูเครนและในอิสราเอลกับปาเลสไตน์และความเป็นหนึ่งชาติมหาอำนาจของโลกกำลังเสื่อมถอยทางด้านแสนยานุภาพและอำนาจเงินดอลลาร์
รอดูการเปลี่ยนแปลงว่าจะเกิดขึ้นก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ช่วงสิ้นปีนี้หรือไม่