ขณะที่ปั่นต้นฉบับชิ้นนี้...ก็ยังไม่มีโอกาสรู้ว่า “เลือกตั้งไต้หวัน” จะออกหัว ออกก้อย หรือออกกลางกันแน่!!! เห็นแค่ข่าวแวบๆ ว่าคุณพ่ออเมริกา ท่านกำลังเตรียมจะจัดส่ง “ตัวแทน” หรือ “ดาวยั่ว” อันประกอบไปด้วยอดีตรองรัฐมนตรีต่างประเทศ “นายJames Steinberg” และอดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งพรรครีพับลิกัน “นายStephen Hadley” เดินทางไปเยือนไต้หวัน หลังช่วงการเลือกตั้งวันที่ 13 ม.ค.เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ คล้ายๆ ค่อนข้าง “ชัวร์” ว่ายังไงๆ...ตัวแทนพรรครัฐบาล “DPP” อย่าง “นายLai Ching-te” น่าจะนอนมาโดยไม่ต้องมีพระสวดนำหน้า ผงาดขึ้นเป็นประธานาธิบดีไต้หวันได้แบบม้วนเดียวจบ...
ทั้งที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน ได้อุบัติขึ้นมาในระหว่างที่อเมริกากับจีนกำลังร่วมหาทางเจรจาหาฟื้นฟูสัมพันธภาพระหว่างประเทศทั้งสองในแต่ละด้าน ณ นครซานฟรานซิสโก เมื่อช่วงวันที่ 8-9 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยฝ่ายจีนเขาได้ตั้งคำถามตัวโตๆ เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น นั่นคือเรื่อง “ไต้หวัน” นั่นเอง!!! ที่จะทำให้สัมพันธภาพระหว่างมหาอำนาจอันดับ 1 กับมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลก เป็นไปในแบบขึ้นสวรรค์ หรือลงนรก ได้ด้วยกันทั้งนั้น แต่ก็อย่างว่า...ขึ้นชื่อว่าคุณพ่ออเมริกาในฐานะ “ประธานสมาคมเสือกกิตติมศักดิ์” ซะอย่าง ไม่เพียงแต่การตัดสินใจผ่านกฎหมาย “US National Defense Authorization Act” เพื่อสนับสนุนส่งเสริมการขายอาวุธและการฝึกอบรมทางทหารให้กับกองทัพไต้หวัน ก่อนหน้าการเลือกตั้งไต้หวันแค่ไม่กี่วัน การเตรียมจะส่ง “ตัวแทน” หรือ “ดาวยั่ว” ไปฉลองตำแหน่งให้กับประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่หวังจะยุยง ส่งเสริมให้ไต้หวันแยกตัวเป็นเอกราชไปจากแผ่นดินจีน ย่อมต้องถือเป็นภาระหน้าที่โดยตรงของสมาชิกสมาคม “เสือก” อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...
ด้วยเหตุนี้...จึงถือเป็นเรื่องไม่แปลก ที่เมื่อวัน-สองวันก่อน หรือช่วงย่ำค่ำยามเย็นของวันพฤหัสฯ ที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา กองกำลังเรือรบ เรือดำน้ำ และเครื่องบินโจมตีของคุณพ่ออเมริกาและสุนัขพูเดิลอังกฤษ ได้ร่วมหัว รวมตัวยิงจรวด ทิ้งระเบิด ถล่มเป้าหมาย 60-73 เป้าหมาย ในอาณาเขตประเทศเยเมน ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวง Sanaa เมืองท่า Hudaydah และพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่คาดว่าเป็นฐานบัญชาการของพวก “นักรบฮูตี” (Houthi) หรือ “Ansar Allah” แบบชนิดไม่ได้คิดสนใจอธิปไตยและบูรณาภาพเหนือดินแดนของประเทศเล็กๆ ที่ถือเป็นประเทศยากจนที่สุดในโลกแห่งนี้เอาเลยแม้แต่น้อย อันเนื่องมาจากบรรดาพวกนักรบฮูตีทั้งหลาย เขาอดรนทนไม่ได้ ไม่คิดจะเอามือซุกหีบอีกต่อไป ในการสังหาร การเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของกองทัพอิสราเอลต่อบรรดาชาวปาเลสไตน์ในเขตฉนวนกาซา จนผู้คนพลเรือนไม่ว่า เด็ก ผู้หญิง คนชรา เด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ไปแล้ว ไม่ต่ำกว่า 23,400 ราย และยังไม่คิดจะหยุดฆ่า หยุดล้างเผ่าพันธุ์ แม้จนตราบเท่าทุกวันนี้...
การสร้างแรงกดดันให้กับอิสราเอล ด้วยการยึดเรือ ยิงเรือ ที่สัญจรไป-มาในทะเลแดง หรืออาณาบริเวณช่องแคบ “Bab-el-Mandeb” ของพวกนักรบฮูตี จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่มีที่มา-ที่ไป หรือไม่มีต้นสายปลายเหตุ เพราะโดย “เจตนา” หรือโดยวัตถุประสงค์ ความปรารถนา ความต้องการ ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากบรรดาประเทศต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 153 ประเทศในองค์การสหประชาชาติ ที่ต่างปรารถนาและต้องการให้เกิดการ “หยุดยิง” ในสงครามอิสราเอล-ฮามาส แบบฉับพลัน-ทันทีนั่นเอง!!! การคิดจะสร้าง “สันติภาพ” สร้างบรรยากาศการเดินเรือโดยเสรีในน่านน้ำทะเลแดง จึงมีแต่ต้องหันไปดูที่ต้นสายปลายเหตุ หรือ “เหตุปัจจัย” ต่างๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติดังกล่าวขึ้นมา ไม่ใช่การหันไปปกป้อง อุ้มชู ฟูฟัก พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองอย่างอิสราเอลปานประดุจไข่ในหิน หรือหันไปถล่มประเทศเล็กๆ อย่างเยเมน ที่เพิ่งกำลังเริ่มฟื้นตัวจากสงครามอันยาวนานมาแค่ไม่กี่วัน กี่เดือน เท่านั้นเอง...
การตัดสินใจถล่มประเทศเยเมนของคุณพ่ออเมริกาและสุนัขพูเดิลอังกฤษคราวนี้...เลยนอกจากไม่ได้เป็นการ “แก้ปัญหา” แต่ดูจะกลับกลายเป็นการ “เพิ่มปัญหา” ให้ยิ่งดุเดือด รุนแรง และสลับซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก เพราะไม่เพียงแต่บรรดาพวกนักรบฮูตีในแต่ละระดับ จะประกาศล้างแค้น-เอาคืน ชนิดถือเอา “ผลประโยชน์” ใดๆ ของอเมริกา-อังกฤษเป็น “เป้าหมายอันชอบธรรม” ไปโดยตลอด บรรดาประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางไม่ว่าจอร์แดน โอมาน ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน ฯลฯ ต่างออกมาแสดงความไม่เห็นควรด้วยกับการลงมือ ลงตีน ของกองทัพสหรัฐฯ ต่อประเทศเล็กๆ แห่งนี้เอาเลยแม้แต่น้อย รวมทั้งมหาอำนาจคู่แข่งอย่างรัสเซีย จีน ไปจนถึงประเทศสมาชิก “NATO” อย่างตุรกีก็ตาม ฯลฯ อีกทั้งแม้แต่บรรดานักการเมืองในสหรัฐฯ ไม่ว่ารีพับลิกันหรือเดโมแครต ต่างก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ การตัดสินใจของประธานาธิบดีอเมริกันในการเปิดศึกกับเยเมน ไปตามความคิด-ความเห็นของใคร-ของมัน เช่น สส. “Rashida Tlaib” แห่งพรรคเดโมแครต “Matt Gaetz” และ “Marjorie Taylor Greene” แห่งพรรครีพับลิกัน ฯลฯ เป็นต้น โดยเฉพาะในประเด็นการเปิดฉากสงครามโดยไม่ได้ขออนุมัติรัฐสภาอย่างเป็นระบบและกิจการ...
ด้วยเหตุนี้...โดยสีสัน บรรยากาศ มันก็เลยออกไปในแนวอย่างที่บทบรรณาธิการ “Global Times” ของจีน เขาได้สรุปไว้ในข้อเขียน บทความ เมื่อช่วงวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมานั่นแหละว่า “Impossible to restore peace to the Red Sea via military means” หรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฟื้นฟูสันติภาพการเดินเรือในทะเลแดง โดยอาศัย “กรรมวิธีทางทหาร” อันถือเป็นกรรมวิธีที่คุณพ่ออเมริกาคุ้นชิน เคยชิน มาโดยตลอด ไม่ว่าจะในกรณีการถล่มประเทศอิรัก อัฟกานิสถาน ลิเบีย ซีเรีย ฯลฯ หรือการอาศัย “สงคราม” เป็นทางออก ไม่ว่าต่อประเทศอื่นๆ หรือกระทั่งประเทศตัวเอง จนถูกเรียกขานกันในนาม “Military Keynesianism” หรือ “ลัทธิเคนเนเชียนทางทหาร” นั่นแล คืออาศัยความตาย ความขัดแย้ง การทะเลาะเบาะแว้ง ความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาท-ริษยาระหว่างมวลมนุษย์ด้วยกัน เป็น “เครื่องมือ” ในการสร้างความอยู่รอดปลอดภัย ให้กับ “ตัวกูเอง” หวังจะให้ “American First” ด้วยการยื่นบัตรสมาชิกสมาคม “เสือก” ไปในทุกเรื่อง ทุกกรณี จนทำให้โลกทั้งโลกเต็มไปด้วย “อัตราเสี่ยง” และเป็นโลกที่ “อันตราย” ยิ่งเข้าไปทุกที...
ดังที่กลุ่มนักคิด-นักวิชาการผู้ให้คำปรึกษาเรื่องความเสี่ยงทางการเมือง อย่าง “Eurasia Group” เขาถึงกับต้องเรียกขานเอาไว้ในรายงานชิ้นล่าสุด ว่าปี ค.ศ. 2024 ถือเป็นปี “Voldemort of years” หรือปีแห่งพ่อมดอันชั่วร้าย เช่นเดียวกับตัวละครในนวนิยาย “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เอาเลยถึงขั้นนั้น อันเนื่องมาจากการเข้าไป “เสือก” ของคุณพ่ออเมริกาในเรื่องราวต่างๆ จนนำมาซึ่ง “สงคราม” ถึง 3 สมรภูมิด้วยกัน คือ 1. สงครามรัสเซีย-ยูเครน 2. สงครามอิสราเอล-ฮามาส และ 3. สงครามกับตัวกูเอง หรือสงครามความขัดแย้งระหว่างชาวอเมริกันด้วยกันเอง ในสมรภูมิเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้ ที่ค่อนข้างจะดุเดือด รุนแรง ไม่น้อยกว่าสมรภูมิอื่นๆ หรือพูดง่ายๆ ว่า...ด้วยตัวของ “รัฐบาลอเมริกัน” เองนั่นแหละ ที่เป็นต้นเหตุ ต้นตอแห่ง “ความเสี่ยง” ที่แท้จริงของโลกทั้งโลก อย่างมิอาจปฏิเสธได้ อันเป็นข้อสรุปที่ไม่ได้แตกต่างไปจากที่นักคิด นักวิเคราะห์ชาวอเมริกันหลายต่อหลายราย ไม่ว่า “Marc Faber” หรือ “Gerald Celente” ฯลฯ ที่เคยสรุปเอาไว้ก่อนหน้านั้นหลายต่อหลายสิบปีมาแล้วว่า “ศัตรูที่แท้จริง...ของจักรวรรดิยุคใหม่อย่างอเมริกานั้น ก็คือตัวตนของอเมริกา หรือคือระบบการเมือง-เศษฐกิจแบบจักรวรรดินิยมนั่นเอง...”
ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน จะออกมาในแบบไหน? รูปไหน? การปิดฉาก ปิดกล่องสงครามยูเครน-รัสเซีย จะจบลงไปในตอนไหน? เมื่อไหร่? การเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ที่ทำให้หนังสือพิมพ์อิสราเอลอย่าง “Jerusalem Post” ถึงกับต้องพาดหัวไว้ว่า “South Africa goes to war against Israel at the ICJ” หรือทำให้ประเทศกลางๆ ที่อดรนทนไม่ไหวอย่างแอฟริกาใต้ต้อง “เข้าสู่สงครามกับอิสราเอล” ในศาลอาญาระหว่างประเทศเอาเลยถึงขั้นนั้น จะต้องสะดุด หยุดยั้ง ลงไปหรือไม่? อย่างไร? ทุกสิ่งทุกอย่าง...ย่อมต้องขึ้นอยู่กับความ “เจ๊ง...ไม่เจ๊ง!!!” ของคุณพ่ออเมริกานั่นแหละเป็นสำคัญ หรือขึ้นอยู่กับ “ลอร์ด โวลเดอมอร์” ตัวโกง ตัวร้าย ในนิยาย “แฮร์รี่ พอตเตอร์” จะหมดฤทธิ์ หมดเดช เพราะถูก “คำสาปพิฆาต” สะท้อนกลับมาเล่นงานตัวเองกันในตอนไหน? เมื่อไหร่? นั่นแล...