xs
xsm
sm
md
lg

มอง “ป่าทั้งป่า” ผ่านกลุ่มประเทศ “BRICS”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


กลุ่มบริกส์จัดประชุม “The Russia-Arab Cooperation Forum” ณ เมืองมาราเกซ ประเทศโมร็อกโก เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตไปสำรวจตรวจสอบ บทบาท-ความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศ “BRICS” เอาไว้สักเล็กน้อย เพราะนอกจากตั้งแต่ช่วงต้นปี หรือนับจากวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2024 ที่ผ่านมา บรรดาประเทศสมาชิกกลุ่ม “BRICS” เขาไม่ใช่แค่ประกอบไปด้วย 5 ประเทศสมาชิก อย่างบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้เท่านั้น แต่ยังเพิ่มพรวดๆ พราดๆ ขึ้นไปเป็น 10 ประเทศ มีทั้งอียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และอาร์เจนตินาได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ แม้ว่าสำหรับอาร์เจนตินายังไม่ถึงกับแน่ชัดว่าผู้นำรายใหม่ที่ออกจะหลุดกรอบ หลุดเฟรม หรือ บ้าเสียยิ่งกว่า “ทรัมป์บ้า” อย่าง “นายJavier Milei” ยังคิดจะอยู่ จะไป กับกลุ่มประเทศดังกล่าวหรือไม่? อย่างไร? ก็ยังไม่ถึงกับเป็นที่ชัดเจน...

แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ด้วยสถานะของความเป็นกลุ่มประเทศที่ใหญ่ที่สุด ไม่ว่าในแง่ขนาดพื้นที่ จำนวนประชากร ไปจนถึงมูลค่าโดยรวมของจีดีพี ยิ่งเมื่อมีประเทศเศรษฐีน้ำมันในตะวันออกกลางเข้ามาร่วมหัวจมท้ายด้วยแล้ว ก็กลายเป็นกลุ่มประเทศที่ถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันไม่ต่ำกว่า 42 เปอร์เซ็นต์ของโลก แถมยังเป็นแหล่งสำรองแก๊สธรรมชาติอีก 55 เปอร์เซ็นต์เท่าที่มีอยู่ในโลก ฯลฯ อีกทั้งในช่วงปี ค.ศ. 2023 ที่ผ่านมา ว่ากันว่า...บรรดาประเทศต่างๆ ที่เข้าคิว รอคิว จ่อจะเป็นสมาชิกกลุ่ม “BRICS” ยังมีจำนวนไม่น้อยไปกว่า 40 ประเทศ บทบาทความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศดังกล่าวจึงเป็นอะไรที่ต้องจับตาอย่างมิอาจกะพริบตาเป็นอันขาด...

และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น...ก็คือว่า ตำแหน่ง “ประธานกลุ่ม BRICS” ในปีนี้ ได้ตกเป็นของหมีขาวรัสเซีย ผู้ซึ่งกำลัง “เยิ่น” อยู่กับคุณพ่ออเมริกาและโลกตะวันตกโดยมีประเทศยูเครนเป็นสมรภูมินั่นเอง การก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม “BRICS” ของรัสเซีย ประเทศที่ถูกอเมริกาและชาติยุโรปรวมหัวกัน “แซงชั่น” แบบหนักหนา-สาหัสอย่างชนิดไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ มันเลยอาจถือเป็น “ข้อพิสูจน์” ว่าสุดท้ายแล้ว...ใครจะใหญ่ ใครจะอยู่ ใครจะกู่ไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มีกันแน่!!! โดยถ้าดูจากช่วงปี-สองปีที่ผ่านมา หรือขณะคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรพรมเช็ดเท้าอียู-อีย้วย ร่วมกันรุมเหยียบ รุมกระทืบหมีขาวตัวนี้ อย่างชนิดมันส์ส์ส์มือ มันส์ส์ส์ตีน แต่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า โลกแทบจะทั้งโลกต่างไม่เอาด้วย หรือไม่เห็นควรด้วยกับอเมริกาและยุโรป อย่างเห็นได้ถนัดชัดเจน ไม่ว่าจะถูกกด ถูกดัน เพียงใดก็แล้วแต่...

แถมสายสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับบรรดาชาติต่างๆ ในแอฟริกา ละตินอเมริกา ตะวันออกกลางและเอเชีย กลับแสดงให้เห็นถึงการขยายตัว ความผูกพันที่แน่นเหนียว รัดรึงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าในทางการเมือง เศรษฐกิจ ไปจนถึงการทหาร หรือในด้านความมั่นคง ฯลฯ โน่นเลย โดยเฉพาะในโลกอาหรับ ที่ได้จัดเวทีประชุม “The Russia-Arab Cooperation Forum” ณ เมือง “Marrakech” ประเทศโมร็อกโก เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา แถลงการณ์ร่วมหรือคำประกาศที่เรียกว่า “Marrakech Declaration” ระหว่างรัสเซียกับชาติอาหรับทั้งหลาย ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงการไม่เอาด้วย ไม่เห็นควรด้วย ต่อการ “แซงชั่นรัสเซีย” ของโลกตะวันตกเท่านั้น แต่ยังอาจถือเป็นการแสดงออกถึงความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย ที่หวังสร้างสรรค์ “ระเบียบโลกแบบใหม่” ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความถูกต้อง-เป็นธรรม อย่างจริงๆ จังๆ เอาเลยก็ว่าได้...

แน่ล่ะว่า...โดย “ระเบียบโลก” แบบที่ว่า ย่อมตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเห็นพ้อง ต้องกัน ว่าโลกยุคนี้-สมัยนี้ ได้กลายสภาพเป็น “โลกหลายขั้วอำนาจ” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่โลกที่อยู่ภายใต้การควบคุม บังคับ ของ “ประมุขโลก” อย่างคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรยุโรป หรือพวก “โลกขั้วอำนาจเดียว” อีกต่อไป อันเป็นสิ่งที่บรรดากลุ่มประเทศ “BRICS” ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที ต่างมุ่งมั่นและเพียรพยายามที่จะให้สิ่งที่ว่านี้เป็นจริง-เป็นจังขึ้นมาให้จงได้ หรืออย่างที่อดีตทูตอินเดียผู้ก่อตั้งมูลนิธิ “The Kalinga International Foundation” และผู้อำนวยทั่วไป “ICWA” (The Indian Council World Affairs) อย่าง “นายRajiv Bhatia” ได้สรุปไว้ว่า ความเป็น “โลกหลายขั้วอำนาจ” นั้น...ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ “ความปรารถนา” ของชาติต่างๆ เท่านั้น แต่ยังคือ “เนื้อแท้” หรือสิ่งที่เป็น “ปัจจัยพื้นฐาน” ของบรรดาสมาชิกกลุ่มประเทศ “BRICS” แต่ดั้งเดิมอีกด้วย...

ดังนั้น...การก้าวขึ้นมาเป็น “ประธานกลุ่ม BRICS” ของคุณน้ารัสเซียผู้ที่กำลังไล่บด ไล่บี้ กับคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรยุโรปในคราวนี้ ย่อมน่าจะเป็นอะไรที่ “ระเบิดเถิดเทิง” เป็นอย่างยิ่ง!!! โดยเฉพาะการกำหนดวาระเร่งด่วน ที่มีความสำคัญต่อบรรดาชาติสมาชิกทั้งหลาย เอาไว้อย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจน ไม่ว่าการละทิ้งเงินดอลลาร์ (De-dollarization) การมุ่งให้ชาติสมาชิกประกอบธุรกรรมทางการเงินด้วยเงินตราสกุลท้องถิ่น การส่งผ่านเทคโนโลยีอย่างยุติธรรม การกระจายความเสี่ยงของธุรกิจห่วงโซ่อุปทาน ฯลฯ ส่วนจะไปไกลถึงขั้นผลักดันให้เกิดสกุลเงินตราชนิดใหม่ (BRICS currency) หรือไม่? อย่างไร? นั้น ยังถือเป็น “ทางเลือก” ที่มี “ทางออก” หลายต่อหลายทาง เพราะแค่การผลักดันให้มวลสมาชิกหันมาซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนด้วยเงินตราสกุลท้องถิ่นแต่เพียงเท่านั้น ก็แทบทำให้ “เผด็จการยูเอสดอลลาร์” ถึงกับไปไม่เป็น กู่ไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี อย่างเห็นได้โดยชัดเจน หรืออย่างที่ “The Wall Street Journal” หยิบเอารายงานของ “Natasha Kaneva” ที่นำเสนอต่อบริษัท “JPMorgan Chase” มารายงานเป็นข่าวไปเมื่อวัน-สองวันมานี้นั่นแหละว่า การซื้อ-ขายน้ำมันโดยเงินตราสกุลอื่นที่ไม่ใช่ “ยูเอสดอลลาร์” เพิ่มพรวดๆ พราดๆ ขึ้นไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์ นั่นยังไม่รวมไปถึงรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ “IMF” ที่สรุปไว้ว่าประมาณช่วงไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา บรรดาธนาคารกลางทั่วโลกได้ลดการใช้เงินยูเอสดอลลาร์ลงไปถึง 59.2 เปอร์เซ็นต์...

นี่...โอกาสที่คุณพ่ออเมริกาผู้สามารถดลบันดาลให้ “แบงก์กงเต๊ก” กลายเป็น “เงินยูเอสดอลลาร์” ย่อมต้องเหงื่อไหลไคลย้อยเหงื่อตกกีบ หรือต้องรอวันเวลา “เจ๊ง...กับ...เจ๊ง” ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ หรืออย่างที่นักวิเคราะห์ชาวรัสเซีย “นายTimur Fomenko” ได้ตั้งคำถาม ข้อสังเกต ไว้ในข้อเขียน-บทความเรื่อง “Will 2023 be known as the last year of global US hegemony” ว่าปีที่ผ่านมาจะถือเป็น “ปีสุดท้าย” แห่งการดำรงตำแหน่งประมุขโลกของคุณพ่ออเมริกาหรือไม่? อย่างไร? โดยได้ฟันธง-ฟันเฟิร์มไว้ในข้อเขียนดังกล่าวประมาณว่า “โลกเก่า...ที่เคยสร้างความสะดวกสบายให้กับสิทธิพิเศษของอเมริกากำลังจะสูญสลาย และเป็นไปได้ที่ชาติต่างๆ จะมีโอกาสได้เจอกับโลกอันเป็นที่หวังที่ปรารถนา” หรือโลกที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “ความถูกต้อง-เป็นธรรม” (A fair World Oder) นั่นเอง...

หรือพูดง่ายๆ ว่า...การ “รวมตัว” และ “ขยายตัว” ของบรรดาประเทศสมาชิกกลุ่ม “BRICS” นับตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงบัดนี้กำลังนำไปสู่การสร้างสรรค์ “ระเบียบโลกแบบใหม่” ให้เริ่มเป็นวุ้น เป็นรูป เป็นร่าง ชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที ยิ่งเมื่อผู้นำรัสเซียประธานาธิบดี “ปูติน” ได้ป่าวประกาศเอาไว้ล่วงหน้า ณ การประชุมสุดยอด “Kazan BRICS summit” เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ว่าในฐานะประธานกลุ่ม “BRICS” นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2024 เป็นต้นไป รัสเซียจะทุ่มเทให้กับการสร้างสรรค์ระเบียบโลกที่บริสุทธิ์ยุติธรรมและมุ่งสู่ความเป็น “โลกหลายขั้วอำนาจ” เพื่อเพิ่มความเท่าเทียมในการพัฒนาและความมั่นคง ปลอดภัยของโลก ส่วนเรื่องยูเครน หรือเรื่องอิสราเอลกับฮามาสนั้น...คงไม่ต่างอะไรไปจาก “ใบไม้” ในแต่ละใบ โดยที่ใครจะพลิกซ้าย-พลิกขวา ใครจะเชียร์ จะลุ้น ใครจะถือหางข้างไหนต่อข้างไหน คงต้องขึ้นอยู่กับ “รสนิยม” ของใคร-ของมันจะไปว่ากันเอง แต่ยังไงๆ...ย่อมไม่ใช่ “ป่าทั้งป่า” โดยเด็ดขาด!!! เพราะโดยขนาดเนื้อที่ โดยจำนวนประชากร โดยมวลรวมจีดีพีและโดยความเป็นแหล่งทรัพยากร ฯลฯ มีแต่ต้องหันไปสำรวจตรวจสอบ หันไปมองกลุ่มประเทศ “BRICS” เขานั่นแหละ ถึงจะพอมีโอกาสรับรู้ “ป่าทั้งป่า” ได้อย่างถนัดชัดเจน...


กำลังโหลดความคิดเห็น