เรื่องของ “ปรัชญาตะวันตก” (ตอนยี่สิบเจ็ด) “คาร์ล มาร์กซ” ผู้ก่อเกิดลัทธิ “คอมมิวนิสต์”?!

“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

 “อดัม สมิธ” หนึ่งในผู้นำความคิด “ทุนนิยม” ที่ต่อสู้กับแนวทาง “คอมมิวนิสต์” ของ “คาร์ล มาร์กซ”!

“อดัม สมิธ” หนึ่งในผู้นำ “ปรัชญาทุนนิยม” ซึ่งแพร่สู่สังคมมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว และถูกนำไปใช้ในชีวิตจริง ที่มีการปกครองโดย “รัฐ” มากมายในอดีตจรดปัจจุบัน ด้วยรูปแบบการเมือง “ประชาธิปไตยเลือกตั้ง” ซึ่งผ่านวิวัฒนาการหลายหลากมาอย่างยาวนาน..

“รัฐทุนนิยม” รุ่งเรืองบน “ความเห็นแก่ตัว” ขาดความเอื้ออาทร ยึดแต่ “กำไรสูงสุด” ทำให้รัฐในโลกเป็นสังคม “มือใครยาวสาวได้สาวเอา” เป็น “สังคมคนกินคน” ที่มากด้วย“ความเหลื่อมล้ำ” เพราะ“คนส่วนน้อยรวย และรวยยิ่งขึ้น” แต่ “คนส่วนมากจน และยิ่งจนลง” กลายเป็นปัญหาใหญ่ดุจ “มะเร็งมนุษย์” ระบาดไปทั่วโลก ฯลฯ

“กลุ่มรัฐทุนนิยม” ยังคงพัฒนาขยายตัว ออกไล่ล่าบังคับ “ชาติที่อ่อนแอกว่า” ให้ต้องเป็น “ชาติเมืองขึ้น” หรือ “อาณานิคม” ดัง “ชาติอังกฤษ” และหลายชาติในยุโรป ที่ส่ง “กองทัพ” พร้อม “ทหาร อาวุธทันสมัย” ตระเวนยึดครองชาติที่อ่อนแอกว่า ด้วยการส่งออก “ลัทธิทุนนิยมเสรี” กับการเมือง“ ประชาธิปไตยเลือกตั้ง” ซึ่งเอื้อต่อ “ชาติทุนนิยมพวกตน” กดดันบังคับให้ “ชาติอื่นๆ” นำไปใช้ปฏิบัติ ตามความต้องการของพวกตน เพื่อให้ได้มาซึ่งการกอบโกย “ทรัพยากรอันล้ำค่า” สารพัดของชาติอื่น กลับสู่ “ชาติของพวกตน” จนยุโรปตะวันตกร่ำรวยมหาศาล ขณะที่ “ชาติ” กับ “ประชาชน” ในชาติที่อ่อนแอและด้อยกว่า ต้องยากจนยากเข็ญ..

“ทุนนิยมเสรี” ได้พัฒนาเป็น “ทุนนิยมผูกขาด” และวิวัฒนาการเป็น “ทุนนิยมสามานย์”?!

“รัฐประชาธิปไตยเลือกตั้ง” ที่เป็น “มหาอำนาจ” มักทำโฆษณาชวนเชื่อ พูดกรอกหูชาวโลกให้หลงเชื่อว่า แม้ “ประชาธิปไตยไม่ใช่การเมืองดีที่สุด”! แต่ก็เป็น “การเมืองเลวน้อยที่สุดในขณะนี้”! ที่สำคัญ “ประชาชนมีส่วนร่วมกับการเลือกตั้ง” นะเฟ้ย..!

แต่ไม่เคยพูดเรื่อง “การเลือกตั้งสกปรก” ที่ย่อมไร้ “หลักประกัน” ว่า ชาติจะได้ “คนดี-คนเก่ง-คนซื่อสัตย์-คนมีคุณธรรม” มาเป็น “สมาชิกส่วนใหญ่ในสภา” กับเป็น “รัฐบาล” ในระบอบ “ประชาธิปไตยเลือกตั้ง”?

“ชาติไทย” นั้น เลือก “สมาชิกสภาผู้แทนฯ (ส.ส.)”! โดย “ส.ส.”จะใช้เสียงข้างมากเลือก “นายกฯ”! และ “นายกฯ” จะเลือก “รัฐมนตรี” ตั้งเป็น “คณะรัฐมนตรี”! ปฏิบัติหน้าที่ “รัฐบาล” บริหารชาติบ้านเมืองต่อไป! เป้าหมายเพื่อทำให้ชาติเจริญก้าวหน้า และ “ประชาชน” มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่เย็นเป็นสุข ฯลฯ

แต่การเมือง “ทุนนิยมสามานย์ไทย” ภายใต้ “ประชาธิปไตยเลือกตั้งสกปรก” ได้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีการ “ซื้อเสียงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง” กับ “ซื้อตัวอดีต ส.ส.” อีกทั้ง “ซื้อผู้ให้คุณและโทษ” ฯลฯ

เลือกตั้งจึงเป็นการ “แข่งกันแจกเงิน” ด้วยนโยบาย “ประชานิยม” ซึ่งทำได้กับทำไม่ได้ หวังเพียงเอาชนะกันในสนามการเลือกตั้ง!

“การเลือกตั้งสกปรก” ได้ส่งผลต่อเนื่อง ทำให้ “ชาติ” กับ “ชาวไทย” ได้ “นักการเมือง” โดยส่วนใหญ่ “ไม่ซื่อสัตย์” ซ้ำร้าย “ด้อยคุณภาพ” กับ “ไร้คุณธรรม” การเมืองไทยจึงมักมีการ “โกงชาติ” ไม่รู้จักพอ ทำให้คุณภาพชีวิต “ประชาชน” ไม่ดีขึ้น รวมทั้ง “ชาติ” ก็ไม่เจริญก้าวหน้าดังควร ฯลฯ

ทุกวันนี้.. “รัฐทุนนิยม” เอื้อทุกมิติให้กับ “ทุนใหญ่” และ “ทุนยักษ์” เป็นหลัก “ธุรกิจยักษ์ใหญ่” เติบโตไม่หยุดยั้ง! ธุรกิจขนาดกลาง-ขนาดเล็ก-ขนาดย่อย ฯลฯ ดำรงอยู่อย่างยากเย็นในโลกธุรกิจ “ทุนนิยม”! ธุรกิจที่สายป่านไม่ยาวพอ ต้องล้มลงอย่างต่อเนื่อง!
“คนจน” กับ “ผู้มีรายได้น้อย” อีกทั้ง “ผู้ใช้แรงงาน” ภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม ทั้งที่อยู่ในเมืองและชนบท มักถูก “กลุ่มนายทุน” เอารัดเอาเปรียบเกินควร ต้องอดอยากยากไร้ไม่มีอนาคต ฯลฯ

สภาพการณ์ของ “รัฐทุนนิยม” ซึ่งมีทั้งเรื่อง “ดี” และเรื่อง “เลวร้าย” เกิดขึ้นอย่างมากมาย รวมทั้งเรื่อง “ชั่วช้าสามานย์” เกิดขึ้นอย่างมหาศาล ถึงขั้นเกิดเรื่อง “มนุษย์ฆ่ามนุษย์” อย่างโหดเหี้ยมป่าเถื่อน ใน “สงครามใหญ่น้อย” กระทั่งบานปลายเป็น “สงครามโลก 2 ครั้ง” เพียงเพื่อ “อำนาจ-ผลประโยชน์” ของ “ชาติตน” กับ “กลุ่มชาติพวกตน”..

“มนุษย์ในสังคมโลก” จึงขาด “ความเอื้ออาทร” ไร้ “ศานติสุข” อันเป็นสิ่งที่ “สังคมมนุษย์พึงมี”!

เหตุการณ์เลวร้าย และเรื่องราวอยุติธรรมในระบอบ “ทุนนิยม” ที่เกิดขึ้นมายาวนาน ได้ทำให้ “ชาวเยอรมันผู้หนึ่ง” ที่ศึกษาค้นคว้าวิถีสังคมโลก เกิดแนวคิด “เชิดชูผู้ใช้แรงงาน” ที่รู้จักกันในนาม “ลัทธิคอมมิวนิสต์”! ซึ่งยืนตรงกันข้ามกับระบอบ “ทุนนิยม” ของ “กลุ่มรัฐทุนนิยม” ในยุคนั้น

เอาล่ะ! มาดูประวัติชีวิตกับผลงานคร่าวๆ ของนาย “คาร์ล มาร์กซ” กัน..

“คาร์ล ไฮน์ริช มาร์กซ” เกิดวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ.1818 ณ เมือง “เทียเออร์” เยอรมนี เป็นลูกคนที่สาม ในบรรดาพี่น้องเก้าคน บิดามารดามีบรรพบุรุษเป็น “ยิว” แต่ได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนท์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับบิดาของ “มาร์กซ” ที่ทำงานเป็นนักกฎหมายของรัฐบาลเยอรมัน

“มาร์กซ” เป็นนักปรัชญาที่ต่างไปจากผู้อื่น ไม่ใช่นักเรียนตัวอย่างสำหรับใคร เพราะในช่วงเวลาที่เรียนที่มหาวิทยาลัยบอนน์ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการดื่มเหล้าและร้องเพลงในผับ แต่ท้ายที่สุด “มาร์กซ” ก็ได้เปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง แล้วหันมาสนใจการเรียนอย่างจริงจัง จนได้ปริญญาเอกด้านปรัชญาจากมหาวิทยาลัยเยนา

ด้วยความคิดทางการเมืองที่เป็น “ฝ่ายซ้าย” ทำให้ “มาร์กซ” หางานยาก เขาจึงย้ายไปอยู่ที่โคโลญน์ และประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ในฐานะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ จากนั้น “มาร์กซ ”ก็ย้ายไปปารีส และคบหากับนักสังคมนิยมอื่นๆ ที่ปารีสเขาได้พบกับ “เฟดเดอริก แองเกล” ผู้ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน ผู้สนับสนุนทางการเงิน และเป็นเพื่อนรัก “มาร์กซ” ไปตลอดชีวิต

“แองเกล” เป็นผู้จัดพิมพ์งานเขียนให้กับ “มาร์กซ” ข้อเขียนแนวคิดอันเลื่องชื่อ จุลสาร “แถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ และทุน” จำนวน 3 เล่ม ซึ่งถือเป็น “ความคิดการเมืองและปรัชญาของมาร์กซ” ที่มีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อปัญญาชนรุ่นหลัง สาขาวิชาประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ และประวัติศาสตร์การเมือง ฯลฯ

ทว่า.. สุดท้าย “มาร์กซ” ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่ลอนดอน และต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อการดำรงชีพ เนื่องจากเขาบริหารการเงินได้ค่อนข้างแย่มากๆ โดยมี “สหายแองเกล” คอยให้การช่วยเหลือ แม้ในบั้นปลายชีวิตของ “มาร์กซ” จะมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น แต่เขากลับต้องทนทุกข์ทรมานกับแผลพุพองที่เกิดขึ้นตามผิวหนัง จนเขาต้องใช้ “สารหนู” และ “ฝิ่น” รักษาตัว ซึ่งก็ไม่ได้ผลแต่อย่างไร!

กว่า “ผลงาน” ของ “คาร์ล มาร์กซ”จะเป็นที่ยอมรับของ “ผู้ใช้แรงงาน” กับ “ปัญญาชน” และ “นักการเมือง” ในฐานะนักปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ นักทฤษฎีการเมือง นักสังคมวิทยา นักหนังสือพิมพ์ นักสังคมนิยมปฏิวัติ
หนทางของ “คาร์ล มาร์กซ” ไม่ได้ “โรยด้วยกลีบกุหลาบ” ทุกก้าวย่างของชีวิตทุกข์เข็ญกับภัยสารพัด กว่าจะ “ทำคลอด” แนวคิดการเมือง “สังคมนิยม” หรือ “คอมมิวนิสต์” ให้เป็นระบอบ “การเมืองอีกทางเลือกหนึ่ง” อันเป็นที่รักกับเป็นที่หวาดกลัวและเกลียดไปทั่วโลก

 “คาร์ล มาร์กซ” เสียชีวิตด้วยโรคหลอดลมอักเสบ ด้วยวัย 65 ปี ใน ค.ศ. 1883!

ก่อนจะเดินหน้าเรื่องของ “ผู้วางรากฐานลัทธิคอมมิวนิสต์” อย่าง “คาร์ล มาร์กซ” มีเกร็ดเล็กๆ เกี่ยวกับ “ภรรยา” ของ “มาร์กซ” เพราะส่วนใหญ่ชาวโลกไม่ค่อยได้รู้จักภรรยาของบุคคลสำคัญของโลกกันเท่าใด..

“มาร์กซ” แต่งงานกับ “เจ็นนี ฟ็อน เว็สท์ฟาเลิน” ผู้มาจากครอบครัวข้าราชการ ลุงของ “เจ็นนี” คือ “ไลออน ฟิลิปส์” เครือญาติของเธอเป็นผู้ก่อตั้ ง“บริษัทฟิลิปส์” ในปี ค.ศ.1891

ครอบครัวของ “มาร์กซ” มีลูกหลายคน แต่ก็มีหลายคนที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก “เอลินอร์ มาร์กซ” คือลูกสาวของพวกเขา ซึ่งเกิดในกรุงลอนดอน

“เอลินอร์” เป็นนักสังคมนิยมที่ทุ่มเท และช่วยแก้ไขงานของ “มาร์กซ-ผู้พ่อ” เจ็นนีเสียชีวิตในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1881

 บทความหน้า จะมาคลี่ความคิด“คาร์ล มาร์กซ”! จะได้รู้ว่า ทำไม “รัฐทุนนิยม” และ “กลุ่มทุนใหญ่ยักษ์” จึงกลัวนักหนา!!!