การเป็นหนี้กับความจนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นคู่กันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีความจนเป็นเหตุและการเป็นผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้นอกระบบที่คนจนจำเป็นต้องกู้ และจำใจต้องจ่ายดอกเบี้ยตามที่นายทุนเงินกู้ตามกำหนด และยอมจำนนต่อเงื่อนไขในการปล่อยกู้โดยไม่มีข้อต่อรองใดๆ ทั้งนี้ด้วยเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
1. ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบได้แก่ คนจนหรือผู้มีรายได้น้อยไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้ เนื่องจากไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือพอจะมีแต่การดำเนินการกู้มีขั้นตอนยุ่งยากต้องใช้เวลา ในขณะที่ผู้กู้ต้องการเงินเร่งด่วนเพื่อนำมากินมาใช้ และในบรรดาผู้กู้เงินนอกระบบมีอยู่ไม่น้อยที่กู้หนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่าวนเวียนไปเป็นดินพอกหางหมู
2. ในปัจจุบันธุรกิจการปล่อยเงินกู้นอกระบบได้มีการพัฒนารูปแบบหลากหลาย มีตั้งแต่เดินหาลูกค้าในตลาดปล่อยกู้รายวันคิดอัตราดอกเบี้ยแพงมหาโหดร้อยละ 20 และลูกหนี้ส่วนใหญ่ได้แก่ พ่อค้า แม่ค้ารายย่อยขายของมีรายได้เลี้ยงครอบครัววันต่อวัน วันไหนขายของไม่ได้ก็ค้างดอกเบี้ย และถูกเจ้าหนี้ตามทวง บางรายถึงกับถูกทำร้ายร่างกายก็มี
นอกจากพ่อค้า แม่ค้ารายย่อยแล้ว ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบส่วนหนึ่งและอาจเป็นส่วนใหญ่ด้วยได้แก่ เกษตรกรรายย่อย และผู้ใช้แรงงานระดับล่าง ซึ่งเป็นแรงงานไร้ฝีมือได้รับค่าจ้างรายวันในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ ปีแล้วปีเล่ายากที่จะปลดปล่อยให้ตนเองเป็นไท ภายใต้การบริหารประเทศรัฐบาลที่ด้อยประสิทธิภาพ และมุ่งใช้คนจนเป็นเครื่องมือแสวงหาอำนาจทางการเมือง ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และที่อนุมานเช่นนี้ก็ด้วยเหตุปัจจัยในทางสังคมและในทางการเมืองดังต่อไปนี้
1. คนจนหรือผู้มีรายได้น้อยในประเทศไทยแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ
1.1 เกษตรกรรายย่อย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง ต้องเช่าที่ดินของนายทุนทำกินหรือมีที่ดินเป็นของตนเองบ้าง แต่ไม่เพียงพอในการทำเกษตรเพื่อให้มีรายได้พอต่อการเลี้ยงชีพ ประกอบกับต้นทุนการผลิตสูงและราคาขายต่ำกว่าทุน ทำให้ต้องเป็นหนี้
1.2 ผู้ใช้แรงงานในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แรงงานไร้ฝีมือ มีรายได้เป็นค่าจ้างในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เมื่อเทียบกับราคาสินค้าแล้วไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ จึงต้องเป็นหนี้
1.3 ผู้มีอาชีพอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อค้า แม่ค้ารายย่อยขายของมีรายได้วันต่อวันไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ จึงต้องเป็นหนี้
2. พรรคการเมืองได้ความยากจนเป็นเครื่องมือในการแสวงหาอำนาจทางการเมือง โดยการออกนโยบายขายฝันรูปแบบต่างๆ และหนึ่งในจำนวนนี้คือการแก้ปัญหาหนี้ของคนจน ด้วยมาตรการต่างๆ เช่น การพักหนี้ และการเปลี่ยนหนี้นอกระบบมาเป็นหนี้ในระบบ เฉกเช่นที่พรรคเพื่อไทยกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่มีทางทำให้การเป็นหนี้ของคนจนหมดไปโดยสิ้นเชิง เพราะสาเหตุแห่งการเป็นหนี้คือ ความจนยังคงอยู่ตราบเท่าที่เขาไม่มีงานทำ ไม่มีอาชีพที่มีรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ และมีเงินเหลือเป็นเงินออมไว้ใช้ในการลงทุน และใช้ในคราวจำเป็นเช่น การเจ็บป่วย เป็นต้น
อีกประการหนึ่ง สาเหตุที่ทำให้คนไทยยากจนในปัจจุบันมิได้มีแค่ไม่มีงานหรือมีงานทำแต่รายได้ไม่พอใช้เพียงอย่างเดียว แต่ความจนเกิดจากการเล่นการพนัน แต่เกิดการติดสิ่งเสพติดก็มีอยู่ไม่น้อย
ดังนั้น การพักหนี้และการแจกเงินมิได้ทำให้การเป็นหนี้ลดลงและหมดไปโดยสิ้นเชิง ตรงกันข้ามจะเป็นมูลเหตุจูงใจให้ก่อหนี้เพิ่มเพราะมีรัฐบาลช่วยแก้ปัญหาให้
ด้วยเหตุนี้ การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุดังกล่าวแล้ว จะมีประโยชน์แก่คนจนก็เพียงเฉพาะหน้าในระยะสั้นๆ เท่านั้น
แต่จะได้ผลทางการเมืองระยะยาวไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อเป็นเช่นนี้จึงพูดได้ว่านโยบายทำนองนี้มิได้เป็นประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนโดยตรง แต่เป็นประโยชน์กับพรรคการเมือง และนักการเมืองเท่านั้น