ผู้นำอดีตดาวตลกยูเครนประกาศว่าจะระดมพลอีก 5 แสนนาย เพื่อเตรียมทำสงครามกับรัสเซียรอบใหม่ แม้จะขาดแคลนอาวุธที่ต้องการจากสหรัฐฯ และกลุ่มนาโต
การฮึดสู้ครั้งนี้ของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ น่าจะเป็นรอบสุดท้ายและเป็นความพยายามที่จะอยู่ในอำนาจหลังจากประเทศอยู่ในสภาพพินาศย่อยยับ
การสู้รบกับรัสเซียเกือบสองปีทำให้ยูเครนเกือบจะสิ้นสภาพความเป็นชาติเพราะระบบสาธารณูปโภคทุกอย่างถูกทำลาย ประชาชนอยู่ในสภาวะอดอยากขาดแคลน
ชาวยูเครนมากกว่า 10 ล้านคนได้อพยพออกไปอยู่นอกประเทศ รวมทั้งคนหนุ่มสาวซึ่งไม่ต้องการถูกเกณฑ์ทหารเข้าไปตายในสมรภูมิ
ที่ผ่านมาผู้นำยูเครนอยู่ในสภาพลำบากไม่ได้รับความนิยมจากประเทศตะวันตกเหมือนแต่ก่อน เพราะไม่มีวี่แววว่าจะชนะสงครามกับรัสเซียได้
มีการประเมินว่ากองทัพยูเครนได้สูญเสียทหารไปประมาณ 3-5 แสนนาย และอยู่ในสภาพบาดเจ็บทุพพลภาพในจำนวนใกล้เคียงกัน
ที่ผ่านมา คนหนุ่มสาวได้หนีออกนอกประเทศเพราะไม่ต้องการถูกเกณฑ์ทหารเข้าไปรบเพราะรู้ดีว่าถึงอย่างไรก็ไม่สามารถเอาชนะรัสเซียซึ่งเหนือกว่าทุกด้านในแสนยานุภาพ
ผู้นำตัวตลกยูเครนได้เร่ร่อนหาเงินงบประมาณจากสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยุโรปแต่พบกับแรงต้านจากนักการเมืองอเมริกันและผู้นำประเทศยุโรปบางรายซึ่งสกัดไม่ให้จ่ายเงิน 50 ล้านยูโรให้ยูเครน
รัฐสภาสหรัฐฯ ก็ไม่อนุมัติงบประมาณก้อนใหญ่ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ขอเพราะนักการเมืองอเมริกันมองว่าเงินจำนวนมหาศาลควรใช้จ่ายสำหรับชีวิตความเป็นอยู่ของคนอเมริกันมากกว่า
การที่ผู้นำยูเครนประกาศจะระดมกองทหารมากถึงครึ่งล้านคน ยังมีความสงสัยอยู่ว่าจะไปเอาคนมาจากไหนเพราะทหารที่มีอยู่ซึ่งอ้างว่าเหลือประมาณ 5 แสนนายนั้นไม่เต็มใจที่จะสู้รบเพราะขาดแคลนทุกอย่าง
ถ้าจะระดมพลมากขนาดนั้นต้องถามว่าจะเอางบประมาณมาจากไหน แล้วจะเอาคนหนุ่มมาจากไหนมีข่าวว่ารัฐบาลยูเครนจะลดอายุระดับการเกณฑ์ทหารต่ำเหลือ 17 ปีด้วยก่อนหน้านี้ไปกวาดเอากลุ่มวัยรุ่นตามร้านอาหารและข้างถนนมาฝึกเป็นทหาร
เป็นที่น่าเศร้าใจว่าการเข้าสู่สงครามโดยผู้นำตัวตลกทำให้ยูเครนแทบจะสิ้นความเป็นชาติเพียงเพราะต้องการเอาใจสหรัฐฯ และต้องการเป็นสมาชิกนาโต
การที่นักการเมืองอเมริกันและยุโรปเริ่มตีตัวออกห่างจากผู้นำยูเครนเพราะเห็นแล้วว่าการสนับสนุนด้วยเงินและอาวุธไม่มีประโยชน์อันใด
ที่สำคัญไม่มีใครต้องการรับผิดชอบกับความพ่ายแพ้ของยูเครนแม้จะได้รับการสนับสนุน ทั้งด้านเงินงบประมาณและอาวุธจากสหรัฐฯ และกลุ่มยุโรปซึ่งเป็นสมาชิกนาโต
ชาวยูเครนจึงอยู่ในสภาพน่าสงสารมีเหลือเพียงประมาณ 20 กว่าล้านคนในประเทศซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนและไม่มีเงินเพียงพอที่จะไปอยู่ต่างประเทศ
รัสเซียมีแสนยานุภาพด้านอาวุธและกำลังพลเหนือกว่ายูเครนและยุทธศาสตร์ ซึ่งได้รับการปรับใหม่ทำให้ทหารรัสเซียมีขวัญและกำลังใจเหนือกว่า
โดยสภาพก็เป็นไปได้ยากอยู่แล้วที่ประเทศที่มีประชากรเพียงแค่ 20 ล้านคน จะสู้รบเอาชนะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 130 ล้านคน และโครงสร้างประเทศยังแข็งแกร่ง
ทหารยูเครนซึ่งไม่เต็มใจสู้รบทำให้บรรดานายทหารไม่มั่นใจทั้งยังมีข่าวเป็นระยะว่าผู้นำตัวตลกอาจจะโดนรัฐประหารหรือสังหารให้พ้นจากการเป็นผู้นำ
มีทางเลือกคือต้องการเจรจาสงบศึกกับรัสเซียเท่านั้น แต่ว่าผู้นำสหรัฐฯ และยุโรปต่างก็ไม่อยากถูกมองว่าเป็นผู้พ่ายแพ้สงครามเพราะก่อนหน้านี้ได้แสดงความอวดเก่งในแสนยานุภาพด้วยการคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซีย
ตามแผนที่ว่ารัสเซียจะล่มสลายเพราะเศรษฐกิจพินาศนั้นไม่เป็นความจริง ตรงกันข้ามรัสเซียมีสภาพแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมาและได้ยึดพื้นที่ของยูเครนไปประมาณ 25% ซึ่งเป็นพื้นที่สมบูรณ์สำหรับการเกษตรและแร่หายาก
เป็นการยากที่จะคาดเดาได้ว่าอนาคตของยูเครนจะดีขึ้นได้อย่างไร เมื่อไม่มีเงินฟื้นฟูบูรณะประเทศหลังจากสงครามซึ่งก็ยังไม่มีใครกำหนดได้ว่าจะจบสิ้นเมื่อไหร่
การที่ผู้นำตัวตลกยูเครนยังฮึดสู้เพราะตัวเองไม่มีทางเลือก นอกจากหนีออกนอกประเทศไปเสวยสุขพร้อมเงินก้อนใหญ่จะทำให้ประชาชนยูเครนโกรธแค้นและตามล่าผู้ที่รับผิดชอบ ที่ทำให้บ้านเมืองพินาศย่อยยับ
มองย้อนกลับไปถ้ายูเครนวางตัวเป็นกลางไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโต ไม่เชื่อฟังสหรัฐฯ และยุโรปก็คงไม่ล่มสลายเหมือนวันนี้
หรือถ้ายอมเจรจาสงบศึกหนึ่งเดือนหลังจากการสู้รบในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 ยูเครนก็ยังอยู่ในสภาพที่ดีกว่าและไม่สูญเสียพื้นที่โดยถูกผนวกโดยรัสเซีย
การตัดสินใจผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้ยูเครนใกล้จะสิ้นความเป็นชาติประชาชนหลาย 10 ล้าน ต้องลำบากในต่างประเทศและในแผ่นดินเกิดตนเองโดยไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นอย่างไร