xs
xsm
sm
md
lg

มฤตยูและราหู : สัญญาณหายนะทางด้านการเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง


เศรษฐา ทวีสิน
ในขณะนี้ดาวมฤตยูได้โคจรทับอังคาร ซึ่งดาวเจ้าเรือนตนุในเรื่องการเงินของดวงเมือง ส่วนราหูโคจรทับพุธ ศุกร์ และราหูเดิมในเรือนวินาศของดวงเมือง

ดังนั้น จากวันที่ 17 ต.ค.เป็นต้นไป เป็นเวลา 18 เดือนจะยังสถิตอยู่ในเรือนนี้ ประเทศไทยจะเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจโดยรวม เมื่อหนี้ของประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบถึงค่าเงินบาท และภาวะเงินเฟ้อ สินค้าราคาแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่ต้องอาศัยปัจจัยการผลิตที่นำเข้าจากต่างประเทศ และปัจจัยการผลิตที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนเกือบทุกชนิดคือ น้ำมัน

นอกจากต้นทุนสูงขึ้นเพราะราคาน้ำมันที่แพงขึ้นแล้ว การปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นด้วยส่วนหนึ่ง

จากภาวะทางเศรษฐกิจที่เป็นไปตามกลไกราคาของตลาดโลกแล้ว ประเทศไทยยังมีปัจจัยภายในอันเกิดจากนโยบายทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายประชานิยมรูปแบบต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล และเงินส่วนนี้ส่วนใหญ่จะต้องกู้มา จึงเป็นการเพิ่มภาระหนี้สาธารณะให้แก่ประเทศ ทั้งๆ ที่ในทางนโยบายไม่จำเป็นต้องดำเนินการ เมื่อเปรียบเทียบผลได้และผลเสียแล้วเช่น การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทต่อคน เป็นต้น

แต่ยังไม่ทันลงมือแจก เพียงแค่ประกาศออกมาว่าจะกู้เท่านั้น ก็ได้มีผู้รู้ทางด้านการเงิน การคลังทั้งหลายออกมาแสดงความคิดเห็นคัดค้าน โดยให้เหตุผลพร้อมยกตัวอย่างประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งเคยดำเนินนโยบายแจกเงินแบบนี้ และทำประเทศล่มจมมาแล้ว และประเทศกรีซซึ่งกำลังประสบปัญหาในทำนองเดียวกันอยู่ในขณะนี้

ดังนั้น ถ้าประเทศเดินตามโดยใช้นโยบายประชานิยมในทำนองเดียวกัน ก็คงจะเป็นประเทศต่อไปที่จะล่มจม เนื่องจากหนี้ล้นพ้นตัวไม่ต่างไปจาก 2 ประเทศที่ว่ามานี้

ไม่ว่าใครจะคัดค้านอย่างไร และเอาตัวอย่างประเทศไหนมาให้ดู ผู้เขียนเชื่อว่า ถ้าดูจากดวงเมืองแล้วด้วยอิทธิพลของราหู รัฐบาลนี้จะต้องกู้เพื่อสนองนโยบายของตนเอง ส่วนว่าเหตุใดรัฐบาลไม่หยุด ทั้งๆ กระแสต่อต้านเริ่มขยายวงกว้างออกไปแล้ว แนวโน้มจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็คงตอบได้ว่าด้วยความดื้อรั้นอันเป็นอิทธิพลของราหู และประเทศไทยคงจะต้องประสบปัญหาเกี่ยวกับค่าเงินบาทอ่อนค่า และการขาดดุลชำระเงินอันเกิดจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจะต้องเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอน

เพราะฉะนั้น เอกชนรายใดที่เป็นหนี้ต่างประเทศรีบใช้หนี้หรือรีบประกันอัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่างหน้า จะได้ไม่ล่มจมเหมือนผู้ประกอบการบางรายเคยประสบมาแล้วในกรณีต้มยำกุ้งที่ผ่านมา

นอกจากปัญหาเศรษฐกิจที่ประเทศไทยต้องเจอแล้ว ถ้าดำเนินนโยบายประชานิยมในรูปแบบอื่นเช่น ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ก็จะทำให้ผู้ประกอบการแบกรับต้นทุนสูงขึ้น และถ้าแบกไม่ไหวก็ต้องปิดกิจการหรือย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นที่ค่าแรงถูกกว่า เพื่อความอยู่รอดของตนเอง ถ้าเป็นเช่นนี้ปัญหาว่างงานก็จะตามมา เนื่องจากคนงานถูกปลดออกจากงานหรือบอกเลิกการจ้าง ทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้ใช้แรงงาน และยังตัดโอกาสในการหางานของผู้ที่จบการศึกษาออกมาใหม่ เมื่อเกิดปัญหาสังคมสิ่งที่ตามมาก็คือ ปัญหาการเมือง เมื่อคนว่างงานมากขึ้นการเดินขบวนขับไล่รัฐบาลก็จะเกิดขึ้นตามมา และสุดท้ายรัฐบาลก็อยู่ได้ยากไม่ยุบสภาฯ ก็ลาออก ก็อาจมีคนมาไล่ออกเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา


กำลังโหลดความคิดเห็น