ปิดท้ายสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตไปเสริม-เพิ่มเติม ความคิด-ความเห็นของคุณพี่ “โสภณ องค์การณ์” ที่ได้หยิบเอาเรื่องแนวโน้มฉากสถานการณ์ความเป็นไปของประเทศยูเครน มาเล่าสู่กันฟังในคอลัมน์ “มองต่างแดน” เมื่อช่วงวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา คือโดยปกติ...คุณพี่ “โสภณ” ท่านค่อนข้างสุภาพ-เรียบร้อยอยู่พอประมาณ ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องไม่แปลกที่ท่านใช้ชื่อเรื่องว่า “ยูเครน...เจอแรงต้าน-แรงเท” แม้ว่าถ้าว่ากันแบบชาวบ้านๆ แล้ว สิ่งที่เรียกว่า “แรงเท” อาจต้องเรียกว่า “แรงถีบ” ก็น่าจะไม่ได้ผิดไปจากนิยามความหมายมากมายสักเท่าไหร่นัก...
พูดง่ายๆ ว่า...นับจากรัฐสภาอเมริกันตัดสินใจผ่านงบประมาณชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดการ “ชัตดาวน์” โดยที่ไม่ยอมรวมงบเงินช่วยเหลือยูเครนงวดใหม่ราวๆ 24,000 ล้านดอลลาร์เอาไว้ด้วยเลย อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้ประเทศซึ่งต้องใช้เงิน-ใช้ทองในการสู้รบกับหมีขาวรัสเซียถึงวันละ 100 ล้านดอลลาร์ ดังที่อดีตรัฐมนตรีกลาโหมยูเครนเคยเปิดเผยเอาไว้ ย่อมต้องมี “ปัญหา” อยู่แล้วแน่ๆ โดยเฉพาะเมื่อผู้ช่วยเหลือ ผู้บริจาครายใหญ่อย่างคุณพ่ออเมริกา ดันมาเกิด “ปัญหา” ภายในของตัวเอง ส่งผลให้ “ท่อน้ำเลี้ยง” เกิดอาการติดๆ-ขัดๆ ซะดื้อๆ!!! แม้ว่าเลขานุการฝ่ายหนังสือพิมพ์ผิวสีของทำเนียบขาว “นางKarine Jean-Pierre” จะออกมานั่งยัน นอนยัน ว่ายังไง...อเมริกาสัญญาว่ายังคงต้องช่วยเหลือยูเครนอีกต่อไป แถมอาจช่วยมากกว่าเดิมอีกต่างหาก ถึงขั้นฝากบอกไปถึงผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “ปูติน” ด้วยเลยว่า... “ถ้าประธานาธิบดีรัสเซียคิดว่าเขาสามารถอึดได้มากกว่ายูเครน บอกได้เลยว่า...เขาคิดผิด” อะไรประมาณนั้น...
แต่การที่ไม่สามารถบ่งบอกรายละเอียดได้ชัดเจน...ว่าจะช่วยเมื่อไหร่?-ตอนไหน?-และเท่าไหร่? อันนี้ก็อาจส่งผลให้พวก “ตัวตลก-ตัวแทน” ในยูเครน น่าจะ “เสียวๆ” อยู่พอประมาณ เพราะอย่างที่รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสภาป้องกันประเทศยูเครน “นายAleksey Danilov” เคยเปิดใจไว้กับโทรทัศน์ยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว (1 ต.ค.) นั่นแหละว่า การที่บรรดาประเทศตะวันตกไม่ได้บอกให้ชัดๆ ว่าความขัดแย้งในยูเครนจะสิ้นสุดลงไปแบบไหน? เมื่อไหร่? แม้จะประกาศว่าพร้อมยืนหยัดเคียงข้างยูเครนให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ แต่การที่ไม่ได้เน้นย้ำเอาไว้ให้ชัดเจน หรือให้เป็นเรื่อง-เป็นราวว่า “จนกว่ายูเครนจะได้รับชัยชนะ” อะไรทำนองนั้นอันนี้นี่เอง...ที่ทำให้ชาวยูเครนทั้งหลาย ยังอดเสียวๆ ขึ้นมามิได้ ชนิดแม้แต่รัฐมนตรีคลังอย่าง “นายSergey Marchenko” ยังอดไม่ได้ต้องออกมาบ่นระบาย ว่าจำนวนของผู้ที่ “เต็มอก-เต็มใจ” ช่วยเหลือยูเครนในหมู่ประเทศตะวันตกทั้งหลาย กำลัง “ลดลงๆ” อย่างมีนัยสำคัญ...
คือถึงแม้คุณปู่ “โจ ซึมเซา” ผู้นำอเมริกาจะออกมากู่ก้องร้องตะโกนให้นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่มีเสียงข้างมากในรัฐสภา “เลิกเล่มเกมเสียที” ให้หันมาช่วยยูเครนอย่างเอาจริง-เอาจัง เพราะเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว แต่ก็อย่างที่ประธานสภาฯแห่งพรรครีพับลิกัน “นายKevin McCarthy” ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ “Face the Nation” ของโทรทัศน์ “CBS” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (1 ต.ค.) นั่นแหละว่า ยังไงๆ...เขตแดนอเมริกาย่อมมีความสำคัญกว่า ตามแบบฉบับ “American First” อะไรทำนองนั้น การใช้งบประมาณความมั่นคงเพื่อพิทักษ์ปกป้องชายแดนด้านใต้ของอเมริกาเอาไว้เป็นเรื่องหลักโดยไม่ได้คิดจะรวมเอางบช่วยเหลือยูเครนควบคู่ไว้ด้วยเลย จึงถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของนักการเมือง ที่จำต้องยึดมั่นอยู่ในผลประโยชน์ของชาวอเมริกันเป็นที่ตั้ง...
ซึ่งก็คงไม่ต่างไปจากนักการเมืองแห่งประเทศสโลวาเกีย อย่าง “นายRobert Fico” แห่งพรรค “SMER-SD” (Slovak Social Democracy) ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงสุดถึง 23 เปอร์เซ็นต์ และกำลังผงาดขึ้นเป็นผู้นำประเทศนี้อีกครั้งในอีกไม่นานนับจากนี้ ที่ได้ประกาศไว้ล่วงหน้าระหว่างการหาเสียงว่าไม่คิดจะส่ง “อาวุธ” ไปช่วยเหลือยูเครนอีกต่อไปแล้ว ยกเว้นแต่ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเท่านั้น อันเนื่องมาจาก “ประเทศของเรา...มีปัญหาที่ใหญ่เสียยิ่งกว่ายูเครน” หรือเพราะการคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาวสโลวาเกียเป็นที่ตั้งนั่นเอง ที่ทำให้นักการเมืองรายนี้หันมาสนับสนุนให้ “เจรจาสันติภาพ” กับรัสเซียกันแทนที่ และไปๆ-มาๆ “กระแส” ในลักษณะทำนองนี้ ทำท่าว่าชักจะมาแรง-แซงโค้งในหมู่ประเทศตะวันตกยิ่งเข้าไปทุกที เช่นที่สาธารณรัฐเช็ก ที่ผู้คนออกมาเดินขบวนนับเป็นหมื่นๆ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เรียกร้องให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศ เลิกตามก้นอเมริกาในกรณียูเครน อะไรต่อมิอะไรทำนองนี้นี่เอง...ถึงได้ทำให้รัฐมนตรีคลังยูเครนต้องออกอาการ “เสียว” ต่อจำนวนประเทศตะวันตกที่เคยสนับสนุนยูเครน ที่ทำท่าว่าจะลดลงๆ ไปตามลำดับ...
แม้แต่ประเทศบ้านใกล้-เรือนเคียงอย่างโปแลนด์ ที่ถูกพวกผู้นำยูเครนไล่ฟัด-ไล่งับ จนหนีไม่พ้นต้องออกอาวุธโต้ในกรณีการส่งธัญพืชข้ามประเทศ ถึง “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างประธานาธิบดี “Volodimir Zelensky” แห่งยูเครน จะพยายามออก “โรดโชว์” ชวนใครต่อใครให้มาตั้งโรงงานผลิตอาวุธในประเทศตัวเอง ชนิดฝันว่าจะเป็น “ฮับทางการทหาร” เอาเลยถึงขั้นนั้น แต่ถ้าฟังจากน้ำเสียงของทูตโปแลนด์ประจำยูเครน “นายVasily Zvarych” ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ “TVN24” เมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 ต.ค.) ว่าแม้จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมแผนการดังกล่าวของยูเครนเป็นประเทศแรก แต่โปแลนด์ก็ได้ตอบปฏิเสธไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือสรุปง่ายๆ ว่า “แรงต้าน” ต่อนโยบายตามก้นอเมริกาในหมู่ชาติตะวันตก หรือชาติสมาชิก “NATO” คงต้องยอมรับว่า...นับวันจะเพิ่มขึ้นๆ จนยากส์ส์ส์ที่ผู้นำยูเครนจะ “ดันทุรัง” ต่อไปได้อีก...
ส่วน “แรงเท” หรือ “แรงถีบ” ก็ยิ่งเป็นอะไรที่น่ากลัวน่าหวาดเสียว มิใช่น้อย โดยเฉพาะการมีพันธมิตรอย่างคุณพ่ออเมริกาผู้ที่ได้ชื่อ ฉายาว่า “ใครเป็นศัตรูอเมริกาย่อมลำบาก แต่ใครที่เป็นมิตร...อาจถึงตาย!!!” อะไรประมาณนั้น หรือผู้ที่ถนัดในการ “ถีบทิ้ง” พันธมิตรรายใดต่อรายใดมาโดยตลอด ไม่ว่าเวียดนาม อิรัก เคิร์ด ฯลฯ และล่าสุด...อัฟกานิสถานที่ถูกถีบชนิดปิดฐานทัพแทบไม่ทัน เพราะแม้พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลอย่างรีพับลิกัน จะกลายเป็น “เงื่อนไข-ข้ออ้าง” ต่อความติดๆ-ขัดๆ ในการสนับสนุนยูเครนก็ตาม แต่ถ้าฟังจาก “รายงานข่าว” ของสำนักข่าว “Politico” ที่อ้างถึง “การทุจริตคอร์รัปชันระดับเกินกว่าสาธารณชนจะรับได้” อันกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ “รัฐบาลสหรัฐฯ และชาติตะวันตกอาจเลิกสนับสนุนยูเครนหากยังไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้” อันนี้...ก็ยิ่งน่าขนหัวลุก ขนคอตั้ง ยิ่งขึ้นไปใหญ่!!!เพราะปัญหาที่ว่านี้ใช่ว่าจะแก้กันได้ง่ายๆ ถึงพยายามปรับ ครม.กี่เที่ยวต่อกี่เที่ยวก็เถอะ เนื่องจากอาจถือเป็น “วาสนา” (สันดาน) ของประเทศนี้มาโดยตลอด ดังเช่นดัชนีชี้วัดที่องค์กรเพื่อความโปร่งใสอย่าง “The Transparency International’s Corruption Perception Index” หนีไม่พ้นต้องจัดอันดับให้ยูเครนอยู่ในอันดับที่ 116 จาก 180 ประเทศ ในด้านความโปร่งใส หรือในแง่การคอร์รัปชันอย่างชนิดแทบถือเป็นนิสัยประจำชาติ อะไรทำนองนั้น...
ดังนั้น...ไม่ว่าโดย “ข้ออ้าง” ใดๆ ก็ตาม โอกาสที่ยูเครนอาจโดน “ถีบทิ้ง” แบบเดียวกับที่บรรดาพันธมิตรทั้งหลายของอเมริกาเคยถูกถีบกันมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งพวง ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย!!! ยิ่งในช่วงปีหน้า-ฟ้าใหม่ ถือเป็นช่วงที่ได้เวลาเลือกตั้งผู้นำยูเครนรอบใหม่ แม้ประธานาธิบดี “Zelensky” ท่านเคยสรุปว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อการสู้รบกับรัสเซียได้สิ้นสุด ยุติ ลงไปแล้วเท่านั้น แต่โดยน้ำเสียงหลังๆ ก็ดูจะเปลี่ยนไปจากเดิม โดยถ้าหากจำต้องเลือกตั้งกันจริงๆ บรรดาชาวยูเครนกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ที่เห็นว่าผู้นำยูเครนคนปัจจุบันประสบ “ความล้มเหลว” ในการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน ตามผลโพลแต่ละสำนัก จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการถีบ “ตัวตลก-ตัวแทน” รายนี้หรือไม่? อย่างไร? ก็ยังมิอาจสรุปได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นฝ่าตีนของคุณพ่ออเมริกา หรือฝ่าตีนของชาวยูเครนเอง โอกาสที่ประธานาธิบดีผู้นี้จะอยู่รอดปลอดภัยไปอีกตราบนานเท่านาน ออกจะเป็นอะไรที่ลำบาก ยากเย็น ยิ่งเข้าไปทุกที ด้วยเหตุนี้....แนวโน้มที่จะเกิดการปิดฉาก-ปิดกล่อง “สงครามยูเครน” หรือแนวโน้มที่อาจนำไปสู่ “การเจรจาสันติภาพ” ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อีกไม่ใกล้-ไม่ไกลนับจากนี้ จึงน่าจะเริ่มปรากฏแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ขึ้นมาบ้างแล้วลางๆ...