เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตแวะไปดูเรื่อง “ราคาน้ำมัน” ที่กำลังทำท่าพุ่งระเบิดเถิดเทิง ทะลุเพดาน ทะลุหลังคานับจากนี้เป็นต้นไป หรืออาจถือเป็นการเสริมเพิ่มเติมเจ้าของคำขวัญ “ความจริง...มีหนึ่งเดียว” อาเฮีย “สนธิ ลิ้ม” ที่ท่านได้เกริ่นนำถึงเรื่องวิกฤตพลังงานระดับ “Oil Shock” เอาไว้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เพราะเท่าที่ดูจากตลาดน้ำมันประเภทซื้อ-ขายล่วงหน้า เห็นว่า...เมื่อช่วงวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (28 ก.ย.) ราคาน้ำมัน “West Texas”(WTI) ปาเข้าไปถึง 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ “Brent”ทะเลเหนือ พุ่งขึ้นไปถึง 97.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือใกล้ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล เผลอๆ...อาจทะลุไปถึง 120-150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างที่อาเฮีย “สนธิ ลิ้ม” ท่านว่าไว้เอาเลยก็ไม่แน่!!!
และถ้าหากมันไปไกล ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มีกันไปถึงขั้นนั้น...บรรดาเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลายคงต้องเตรียม “น้ำมะพร้าว” ไว้ล้างหน้า เตรียมสวดกุสะลา ธัมมา-อกุสะลา ธัมมา ก่อนถูกแบกขึ้นไปบนเมรุ หรือเตรียม “เผาจริง” กันได้เลย เพราะไม่ว่าอะไรต่อมิอะไรในโลกยุคใหม่ ยุคน้ำมัน หรือยุค “อุตส่าห์...หากรรม”ทั้งหลาย มันยังคงขึ้นอยู่กับ “ราคาน้ำมัน”เป็นสำคัญนั่นแหละทั่น โอกาสที่จะฝันเห็น “โลกสวย” โลกที่หันไปใช้พลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน โดยไม่จำเป็นต้องเผาผลาญพลังงาน “ฟอสซิล” อีกต่อไปในแบบฉับพลัน-ทันที เอาเข้าจริงแล้ว...มันอาจเป็นแค่ “ความฝันกลางฤดูร้อน” ของพวกเด็กๆ อย่าง “Greta Thunberg” หนูน้อยชาวสวีเดน ที่แม้จะฝันดี-ฝันเด่นเพียงใดก็ตามที แต่โดย “ข้อเท็จจริงอันโหดร้าย” ที่ทำให้บรรดา “พลโลก” ทั้งหลาย ยังคงมีสภาพไม่ต่างไปจาก “ฝูงตั๊กแตน” ที่มุ่งสวาปาม มุ่งบริโภค อย่างไม่คิดจะบันยะ-บันยังใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย มันจึงทำให้ “จุดสมดุล” ระหว่าง “ความฝันกับความจริง” ยังไม่ถึงกับสอดคล้องต้องกันมากมายสักเท่าไหร่นัก หรือทำให้การพึ่งพาสินค้าพลังงานอย่าง “น้ำมัน” ยังคงเป็น “ข้อเท็จจริง...อันมิอาจปฏิเสธได้”...
ดังนั้น...เมื่อบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายยักษ์ รายใหญ่ อย่าง “OPEC” รวมไปถึงรัสเซีย หรือ “OPEC+” เขาตัดสินใจ “ขยาย” เวลาในการลดพลังการผลิตและการส่งออกน้ำมัน วันละนับเป็นล้านๆ บาร์เรล ไปจนถึงสิ้นปีโน่นเลย บวกกับตัวเลขคลังน้ำมันสำรองของประเทศที่บริโภคน้ำมันสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกา ก็ลดฮวบๆ ฮาบๆ แทบไม่เหลือติดก้น ติดคลังไปแล้วก็ว่าได้ ระดับราคาน้ำมันมันเลยต้องพุ่งระเบิดเถิดเทิง และจะพุ่งกันชนิดต่อเนื่อง ยาวนาน ไปอีกกี่ปีต่อกี่ปีก็ยังมิอาจสรุปได้ดังที่หน่วยงานด้านพลังงาน “IEA” (International Energy Agency) เขาออกมาฟันธง ฟันเฟิร์ม ไว้ก่อนล่วงหน้าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อันย่อมส่งผลให้บรรดาประเทศที่ “อุตส่าห์...หากรรม” ทั้งหลาย มีแต่ต้องผจญเวร ผจญกรรม อันเนื่องมาจากแนวโน้มราคาน้ำมันดังที่กล่าวไปแล้ว อย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย...
ยิ่งเป็นประเทศโลกเหนือ โลกตะวันตก หรือบรรดา “ประเทศพัฒนา” แล้ว อย่างคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรพรมเช็ดเท้าแห่งยุโรป ที่ต้องซดน้ำมัน บริโภคน้ำมันแบบกระหายใคร่อยากมาโดยตลอดยิ่งมีแต่ “ตาย...กับ...ตาย” ลูกเดียวเท่านั้นเอง!!! โดยเฉพาะเมื่อหันไปสูดกลิ่นมาดามหอมชื่นใจ ด้วยการพยายาม “แซงชั่นรัสเซีย” ตามก้นอเมริกา เพราะถ้าว่ากันตามข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่ “Argus Media Ltd” เขานำมาเปิดเผยเมื่อไม่กี่วันมานี้ ความพยายามกดระดับราคาน้ำมันรัสเซีย ให้เหลือแค่ไม่เกิน 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ไม่งั้นไม่ซื้อ-ไม่ขายโดยเด็ดขาด เพื่อหวังจะตัดรายได้ของหมีขาวไม่ให้มีเรี่ยว มีแรง ที่จะไปสู้กับยูเครนได้อีกต่อไป แต่ไปๆ-มาๆ ไม่ว่าจะบายพาส จะซื้ออ้อมผ่าน “นายหน้า” รายใดก็แล้วแต่ ในเมื่อราคาน้ำมันในตลาดมันใกล้จะถึง 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเข้าไปแล้ว การแย่งซื้อ-แย่งขายน้ำมันรัสเซีย มันเลยปาเข้าไปกว่า 85-86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นอย่างน้อย แถมยังไม่ได้ซื้อง่าย-ขายคล่องแต่อย่างใด เพราะลูกค้าน้ำมันรายใหญ่ อย่างคุณพี่จีนและคุณปู่อินตะระเดีย ท่านเหมาเอาไว้แล้วล่วงหน้า หรือต้องตามไปบายพาสเอาจากจีน จากอินเดีย อีกต่อหนึ่ง โดยจะโดน “โขก” ราคาอีกเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ก็มิอาจสรุปได้...
คือขณะที่สินค้าพลังงานอย่างน้ำมัน กำลังเจอกับ “ภาวะขาดแคลน” จนราคาพุ่งทะลุเพดาน ทะลุหลังคา อย่างที่ว่าไว้แล้ว แต่ในหมู่บรรดาประเทศ “เศรษฐกิจใหม่” หรือประเทศ “กำลังพัฒนา” ทั้งหลาย กลับไม่ถึงกับต้องวุ่นวายในการแย่งกันซื้อ-แย่งกันขายมากมายสักเท่าไหร่นัก เพราะอย่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลา ประเทศที่ได้ชื่อว่ามี “แหล่งสำรองน้ำมัน” สูงสุดในโลก “นายYvan Gil Pinto” ท่านได้ออกมาแสดงความคิด ความเห็น กับสำนักข่าว “RIA Novosti” เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมานั่นแหละว่า การ “ขยายตัว” ของกลุ่มประเทศโลกใต้ โลกที่กำลังพัฒนา อย่างเช่นกลุ่มประเทศ “BRICS” เป็นต้น ด้วยการเปิดรับสมาชิกใหม่ อย่างประเภทซาอุดีอาระเบีย ยูเออี ไปจนถึงอิหร่าน อันล้วนแล้วแต่เป็น “ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน” ด้วยกันทั้งสิ้น รวมทั้งเวเนซุเอลาที่กำลังเตรียมการคิดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มประเทศดังกล่าว ทำให้กลุ่ม “BRICS” กลายเป็นกลุ่มประเทศที่รวมเอาประเทศผู้ผลิตน้ำมันเข้าไปถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของโลก ในขณะที่ภายในกลุ่มประเทศเหล่านี้ยังประกอบไปด้วย “ประเทศผู้บริโภคน้ำมัน” อย่างชนิดซดแล้ว ซดอีก เช่น จีนและอินตะระเดีย จนทำให้แทบไม่ต้องเสียเวลาไปแย่งกันซื้อ-แย่งกันขาย แถมยังสามารถซื้อ-ขายด้วยเงินสกุลท้องถิ่น ที่ไม่ใช่ “ยูเอสดอลลาร์” หรือ “ยูโร” อีกด้วยต่างหาก...
อันนี้นี่แหละ...ที่ยิ่งจะทำให้โลกเหนือ โลกตะวันตก หรือโลกขั้วอำนาจเดียว อย่างคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรพรมเช็ดเท้าย่อมมีแต่ “ตาย...กับ...ตาย” ลูกเดียวเท่านั้นเอง!!! ยิ่ง “ภาวะเศรษฐกิจ” ของบรรดาประเทศเหล่านี้ กำลังตกอยู่ในสภาพ “ถึงไม่ตาย...ก็เลี้ยงไม่โต” กันไปเป็นแถบๆ คุณพ่ออเมริกานั้น...เห็นว่าทำท่ากำลังใกล้ๆ “Shutdown” กันอีกไม่ใกล้-ไม่ไกลหรือไม่? อย่างไร? นับจากนี้ ด้วยความไม่ลงรอย ลงตัว ระหว่างรัฐบาลกับรัฐสภา ที่อยู่กันคนละพรรค คนละขั้ว ชนิดอาจกระทบไปถึงงบประมาณในการช่วยเหลือประเทศยูเครน ที่อาจต้อง “ลด” หรือไม่ก็ต้องหันไป “ถีบทิ้ง” ตัวตลก-ตัวแทน ในอีกไม่นานนับจากนี้เอาเลยก็ไม่แน่ ขณะที่พันธมิตรพรมเช็ดเท้าอย่างยุโรปทั้งแผง ไม่ว่าอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส รวมไปถึงบรรดาสมาชิก “NATO” ทั้งหลาย ต่างก็ “กรอบเป็นข้าวเกรียบเมืองเพชร” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งพวง แถมยังหันมาทะเลาะกันเอง กัดกันเอง จนสิ่งที่ถือเป็น “กุญแจสำคัญ” ของ “สงครามเย็นยุคใหม่” นั่นคือ “ความเป็นพันธมิตร” ทั้งหลาย ยิ่งออกอาการเละเป็นขี้-เละเป็นโจ๊ก หนักยิ่งเข้าไปทุกที...
และอาจด้วยสภาพเช่นนี้นี่เอง...ที่ทำให้ “พันธมิตรที่ไร้ขีดจำกัด” ของคุณน้ารัสเซีย อย่างคุณพี่จีน ท่านเลยได้จังหวะออกมาชี้แนะ ชี้นำชาวโลก โดย “สมุดปกขาว” อันว่าด้วยเรื่อง “A Global Community of Shared Future : China’s Proposals and Actions” ด้วยการระบุถึงความเป็นไปของโลกที่กำลังเกิดการ “เปลี่ยนแปลงในระดับที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน” อันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้หมายถึงการนำเอา “ระบบแบบใด-แบบหนึ่ง” เข้าแทนที่ระบบเดิมๆ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากความร่วมมือ-ร่วมใจของบรรดาประเทศที่แม้จะมี “ความแตกต่างในระบบสังคม-อุดมคติ-ประวัติศาสตร์ ฯลฯ” แต่ก็ย่อมสามารถที่จะแลกเปลี่ยนและร่วมแบกรับภาระความรับผิดชอบในกิจการของโลกต่อไปให้จงได้!!! หรือถ้าแปลไทยเป็นไทยให้ชัดเจนยิ่งไปกว่านี้ ก็คือการชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอันจะนำมาซึ่ง “โลกแบบหลายขั้วอำนาจ” พร้อมๆ กับการพ้นยุค พ้นสมัยของ “โลกแบบขั้วอำนาจเดียว” อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้อีกต่อไป...นั่นเอง...
และถ้าหากการพุ่งระเบิดเถิดเทิงของ “ราคาน้ำมัน” ยังไม่ถึงกับทำให้พวกโลกตะวันตก โลกขั้วอำนาจเดียว ตายโหง-ตายห่าภายในเวลาอันใกล้ สิ่งที่น่าสนใจ น่าคิดสะกิดใจ อันปรากฏอยู่ในสื่อทางการของจีนอย่าง “Global Times” เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็น่าจะเป็นข้อเขียน บทความชิ้นหนึ่ง ที่สรุปไว้ว่า “The World, including China unwilling to lend to an empire that prints money” หรือโลกทั้งโลกรวมทั้งคุณพี่จีน ที่เคยได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าหนี้รายใหญ่” ของคุณพ่ออเมริกา ไม่ได้รู้สึกเต็มอก-เต็มใจที่จะให้ “จักรวรรดิ” ที่เคยตัวกับการ “พิมพ์เงิน” ออกมาใช้เอง เอาเงินไปใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย อีลุ่ยฉุยแฉกแถมยังหันมากัดประเทศเจ้าหนี้อย่างจีน เพื่อหวังคงความเป็นจ้าวโลก ประมุขโลก ต่อไปให้จงได้ ด้วยปริมาณหนี้สินของอเมริกาที่พุ่งขึ้นไปถึง 33 ล้านล้านดอลลาร์ ชนิดอเมริกันชนต้องแบกหนี้กันคนละไม่ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ต่อคน ภายใต้ภาวะเช่นนี้ บรรดาคนจีนที่ผ่านความยากลำบากในการหาเงิน หาทองในแต่ละหยวนแต่ละเหรินหมินปี้ อาจถึงเวลาที่ต้องลุกขึ้นมา “ปฏิเสธ” ลูกหนี้อย่างอเมริกา กันในอีกไม่นาน-ไม่ช้านับจากนี้...
หรือพูดง่ายๆ ว่า...เมื่อไหร่ที่บรรดากุมารจีนพร้อมส่งเสียงว่า “No” หรือไม่คิดจะเอาแล้วกับการดำรงตนเป็นเจ้าหนี้อเมริกาพร้อม “เทขาย” พันธบัตรสหรัฐฯ ที่ต้องกำไว้ในมือชนิดบานตะไท บานตะเกียง อันนี้นี่แหละ...ที่อาจถึงขั้น “ปิดฉาก-ปิดกล่อง” โลกขั้วอำนาจเดียวได้แบบฉับพลัน-ทันที ทั้งนั้น ทั้งนี้...ก็ขึ้นอยู่กับ “ช่วงจังหวะ-เวลา” ว่าเมื่อไหร่? ตอนไหน? เท่านั้นเอง!!!