เหล้าค้างในขวดรีไซเคิล

"โสภณ องค์การณ์"

 อะไรมันจะดูดี ราบรื่น ม่วนชื่น ไร้ปัญหา ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นใจ ไร้กังวล อะไรขนาดนั้น สำหรับรัฐบาล “ยุทธเศรษฐา” ซึ่งเป็นรูปแบบ “แกงโฮะ” ผสม “จับฉ่าย”

เป็นการเมืองใหม่ผ่าเหล่า “อนุรักษ์นิยมประชาธิปไตย” สมานฉันท์สายพันธุ์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก จิ้งจกตกน้ำ ลืมความหลังอันขมขื่น นั่นเลย

เห็นความขยันขันแข็ง แรงไม่มีตกของซีอีโอรัฐบาล  “ยุทธเศรษฐา” ต้องยอมรับว่ากว่าจะพิสูจน์คำพูดอมตะวจี  “ผมไว้ใจไอ้ตู่” ต้องใช้เวลากว่า 9 ปี ว่าเป็นจริง

ถ้าไม่ติดขัดเพราะรัฐธรรมนูญสกัดไม่ให้นายกฯ อยู่เกิน 8 ปี ป่านนี้ยังคงดูไม่จืด ยังมีบทพิสูจน์ว่า  “3 ป ฟอร์เอฟเวอร์” นั้น ไม่เป็นจริง ทุกวันนี้มีแต่แค้นซ้อนแค้น

ถ้าถึงขั้นปิดป่ารอยต่อหนีหน้ากัน ต่อให้ใช้กาวใจยี่ห้อไหนก็เอาไม่อยู่!

รัฐบาล  “ยุทธเศรษฐา” จึงมีทั้งลมดันท้าย ลมไต้ปีก ฮึกเหิม ซีอีโอเดินสายทำกิจกรรมสร้างข่าวให้ชาวบ้านได้รู้ทุกวัน รอดูว่าจะทำงานถึงขั้นนอนทำเนียบหรือไม่

นโยบายต่างๆ ทะลักทะลุทะลวงหัวใจชาวบ้าน เจ้าของตำนาน “พุทโธ่ซีทีเอ็กซ์” ออกตัวก่อนเลยว่าความหวังที่จะได้นั่งรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายให้เป็นความฝันก่อนนาน 2 ปี ตอบสนองการไม่ลดรายได้  “นายภูเขา” ทุนใหญ่

รัฐมนตรีพลังงานสายอ่าว ก็ประกาศหาวิธีจะให้ชาวบ้านจ่ายค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันผ่านการอุ้มโดยกองทุนหรือวิธีอื่นใด ต่อไป ไม่ต้องให้นายทุนลดรายได้

พวกนี้เป็นกลุ่มเจ้ามือ  “วันกล้วยแห่งชาติ” ซึ่งคนมีวุฒิกว่า 150 ราย ได้รับการเติมวิตามินเอ็มเสริมพลังชีวิตให้อยู่ต่ออีกนานหลายปีโดยไม่ต้องกลัวอดอยาก

 ชาวบ้านถึงบางอ้อกับคำพูดที่ว่า “ทุกคะแนนมีความหมาย” และ “มีราคา” ด้วย ทำให้พวก “เห็นเงิน เห็นชอบ” มีความสุข ที่เหลือทนอยู่กับความว่างเปล่า

ยิ่งทั่นรัฐมนตรีกลาโหมด้วยแล้ว ได้ตำแหน่งไม่กี่วัน ชาวบ้านได้ยินชื่อ “บิ๊กทิน” ต้องยอมรับว่า  “นายแน่มาก” เดินสายพบปะนายทหารเกษียณอายุ ขอคำแนะนำ ขอเป็นที่พึ่ง ล่าสุดได้คำรับประกันจาก  “ปู่จิ๋ว” ว่า เชื่อมือ “บิ๊กทิน” คุมกองทัพได้

เป็นคำพูดชวนให้รู้สึกหวาดเสียวอย่างแรง สำหรับยุคประสานผลประโยชน์

วันก่อนท่าน “บิ๊กทิน” ไปรับกินเลี้ยงห้องอาหารจีนโรงแรมย่านถนนรัชดา มีนายทหารแวดล้อม สายเสธ. สายต่างๆ ให้ความมั่นใจว่างานนี้ไปโลด

จากฝ่ายค้าน ได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ชีวิตเปลี่ยนไป ไปไหนมาไหน หน่วยรักษาความปลอดภัยล้อมหน้าล้อมหลัง เฝ้าบ้านสังเกตความเคลื่อนไหวให้ด้วย

กระทรวงมหาดไทยต้องสูญเสียฉายา “กระทรวงมาเฟีย” หลังจาก  “มท. 1 เสี่ยหนู” มาทำงานแบบเพื่อนร่วมงาน ไม่มีเจ้านาย ทำเอาขบวนการเจ้าขุนมูลนายมหาดไทยทำตัวไม่ถูก ต้องปรับทัศนคติใหม่ว่ามีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขจริง

รัฐบาลใหม่ มากับรูปแบบวัฒนธรรมใหม่ ซีอีโอประกาศว่าในพรรคเพื่อนายห้างนั้นไม่มีคำว่า  “ทำไม่ได้” ถ้าใครพูดหรือแสดงอาการอย่างนั้น จะหาคนมาทำแทน

เข้าทำเนียบรัฐบาล ผ่านพิธีกรรมสายมูตามธรรมเนียมปฏิบัติ ซีอีโอก็ประชุมร่วมกับองค์กรต่อต้านปราบปรามการทูจริต คอร์รัปชั่น ประกาศลั่นว่าต้องไม่มีทุจริต

ยิ่งเห็นการยืนถ่ายภาพ คล้องแขน ชูมือ เปล่งเสียงสนั่น ต้องบอกว่าเป็นการจัดฉากให้ดูน่าเชื่อถือระดับหนึ่ง น่าเสียดาย คนที่ยืนอยู่ด้วยมีแวว “โหงวเฮ้งโจร” ประวัติสีเทาเข้มอย่างน้อย 4-5 ราย นอกนั้นมีเทาจาง และพร้อมจะเริ่มเทา เมื่อมีโอกาส

จะเป็นไปได้ตามโฆษณาชวนเชื่อหรือไม่ อีกไม่นานก็รู้ บางรายน่าจะออกลายเร็ว ประเภทมาเร็วเคลมเร็ว เพราะคณะรัฐมนตรีชุดนี้เป็นการ  “ล้างบุญคุณ”

ดังนั้น ชาวบ้านจึงได้เห็นการแต่งตั้ง ครม. แบบผิดฝาผิดตัว เพราะซีอีโอไม่ได้ตั้งเอง มีคนจัดการให้ ไม่ต้องเหนื่อย และไม่ต้องคุมด้วย ดูรูปแบบการจัดสรรแล้วเชื่อได้ว่าต่างคนต่างหากินกันเอง ไม่ก้าวก่าย รองนายกฯ ก็คุมงานคนของตัวเอง

อย่างนี้บ้านเมืองไม่วอดวายล้มละลาย ชาวบ้านไม่สิ้นเนื้อประดาตัว ก็บุญโข

 ยิ่งโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทตัวหัว ซึ่งทำให้ซีอีโอปวดหัวหนัก ส่อเค้าว่าจะสร้างวิกฤตด้านงบประมาณและภาระหนี้ประเทศด้วยแล้ว ยิ่งน่าหนักใจ

งบประมาณขาดดุลต่อเนื่องแต่ละปี 5-6 แสนล้านบาท หนี้บานเบอะอีกยาว ยิ่งปัญหาหนี้ครัวเรือน ตัดอำนาจการใช้จ่ายเงินประชาชน การทุ่มนโยบายประชานิยมถมไม่เต็มต่อเนื่อง ผลสุดท้ายจะไม่ต่างจากงูกินหาง หนทางสร้างรายได้ตีบตัน

จะหวังนักท่องเที่ยวจากจีนหรือแหล่งอื่นๆ ก็ไม่แน่นอน เศรษฐกิจเป็นพิษถ้วนหน้า พวกยุโรปยังพอมีมาบ้าง อาศัยนักท่องเที่ยวจากมาเลย์ อินเดีย ทำให้ตัวเลขดูดี

 ถ้าซีอีโอจัดการห้ามไม่ให้มีมหกรรมปากมันให้กลุ่มนักเขมือบคำโตได้บ้าง ก็อาจชะลอความหายนะ แต่ถ้าปัญหาค่าไฟฟ้า น้ำมันแพง จะบั่นทอนกำลังภาคธุรกิจและชีวิตชาวบ้าน ขณะที่กลุ่มทุนผูกขาด เจ้าสัวนายทุน ยังกินรวบต่อเนื่อง

เจ้าสัวใหญ่ๆ ก็มีหนี้ก้อนใหญ่ แต่ละคนแบกหุ้นกู้หลายแสนล้านบาท ถ้าใครล้มจะลากสถาบันการเงินเจ้าหนี้พังพาบไปด้วย รวมทั้งชาวบ้านคนซื้อหุ้นกู้

รายเจ้าแม่นางงามผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ก็ส่งสัญญานน่าสยองขวัญแล้ว ซีอีโอและพวกยังจะต้องผ่านการทดสอบวันจันทร์และอังคารเมื่อแถลงนโยบายรัฐบาล

รับรองได้ว่าพรรคคนรุ่นใหม่เป็นฝ่ายค้านผสมแค้นเตรียมเอาคืน สาวไส้ทุกขดที่โผล่ให้เห็นความไม่ปกติ ซีอีโอจะเป็นเป้าหลักของการทำลายความน่าเชื่อถือ ตามด้วยบรรดาเสนาบดีสีเทามีชนักปักหลังดึงยังไม่ออกต้องเผชิญแรงเสียดทานหนัก

งานนี้จะใช้ยุทธการแจกกล้วยปิดปากคงยาก เป็นโอกาสงามของฝ่ายค้านแท้ ฝ่ายค้านเทียมรอเสียบคงเล่นบทแบบไม่เต็มใจ แตะโน่นนี่นั่นเชิงท้วงติงแค่นั้น

อ้างให้สวยก็ว่าต้องให้โอกาสรัฐบาล “ยุทธเศรษฐา” ทำงานก่อน

ดูว่าจะผ่านไปได้อย่างสะบักสะบอมหรือไม่ฟกช้ำมาก เพราะจะเป็นตัวชี้ว่าจะอยู่ยาวเกิน 6 เดือน หรือสั้นกว่านั้น ก่อนปรับ ครม. ล้างเอาของเน่าเสียออก