เห็นคลิปวิดีโอที่ “ใครก็ไม่รู้” นำมาโพสต์ มาแชร์ ไว้ใน “TikTok” เมื่อวัน-สองวันก่อน...ว่าด้วยเรื่อง “บีชคลับในกรุงเคียฟระหว่างสงคราม” หรือเรื่องการฉลองปาร์ตี้ของปวงประชาชาวยูเครนทั้งหลาย ที่พร้อมนุ่งน้อย-ห่มน้อย สนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจอยู่ ณ ริมสระน้ำสโมสร “ฟิฟตี บีช คลับ” ในกรุงเคียฟเมืองหลวงประเทศยูเครน ทั้งที่บรรดาทวยทหารทั้งหลายในแนวหน้าบาดเจ็บ ล้มตาย นับเป็นหมื่นๆ แสนๆ ผู้คนอพยพหลบหนีภัยสงครามออกนอกประเทศนับเป็นสิบๆ ล้าน ก็อดรู้สึก “อึ้ง-ทึ่ง-เสียว” ขึ้นมามิได้ คืออะไรมันจะสุโขสโมสร เริงร่า ปานกระดี่ได้น้ำ ในยามศึก ยามสงครามไปได้ถึงปานนั้น!!!
ปิดท้ายสัปดาห์นี้...เลยหนีไม่พ้นต้องขออนุญาตย้อนกลับไปว่ากันถึงเรื่องประเทศยูเครนไว้อีกสักเที่ยวนั่นแหละทั่น ว่าจะด้วยเหตุเพราะ “ประชาชนเป็นเช่นไร?-รัฐบาลย่อมเป็นไปเช่นนั้น” หรือไม่? อย่างไร? ก็แล้วแต่จะว่ากันไป เลยทำให้อดีตดาวตลก “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่าง “นายVolodimir Zelensky” สามารถผงาดขึ้นเป็นประธานาธิบดีโดยการเลือกตั้งจากบรรดาปวงชนไม่ว่าจะกี่สิบล้านเสียงก็ตามที แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้ ณ ยามนี้...โดยสีสันบรรยากาศทั่วๆ ไป มันไม่น่าจะกระดี้กระด้าใดๆ ได้เลยเพราะแนวโน้มแห่งความ “ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย” ลูกเดียวเท่านั้นเอง กำลังแผ่ซ่าน ครอบคลุมไปทั่วทั้งประเทศ ชนิดแทบมองไม่เห็นทางออก ทางไป หรือ “ทางรอด” เอาเลยแม้แต่น้อย...
เรียกว่า...แม้ว่าสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย จะจบลงในวันนี้ ณ วินาทีนี้ แต่ถ้าว่ากันตามการสำรวจ วิจัย การประเมินของ “ธนาคารโลก” การฟื้นฟู บูรณะประเทศยูเครนให้หวนกลับสู่สภาพเดิม ยังต้องอาศัยเม็ดเงินงบประมาณไม่น้อยไปกว่า 411,000 ล้านดอลลาร์เป็นอย่างน้อย ในระยะอีก 10 ปีข้างหน้า หรือที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสงคราม “นายStephen Bryen” ท่านได้แจกแจงไว้ในข้อเขียน บทความ เรื่อง “Ukraine to cost half-trillion more if war end now” ที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮานำมาแปลเรียบเรียงและเผยแพร่ไปเมื่อวัน-สองวันนี้ ในหัวข้อที่ว่า “ยูเครนยังจะทำให้สหรัฐฯ ต้องเสียเงินอีกกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ กระทั่งว่าสงครามยุติลงในวันนี้” อะไรประมาณนั้น หรือโดยรวมๆ แล้วประเทศที่เต็มไปด้วยการ “คอร์รัปชัน” อย่างยูเครน ตามทัศนะของนักเขียน นักวิเคราะห์รายนี้ หนีไม่พ้นต้องหันไปขอร้อง วิงวอน หรือหันไป “ไถ” ผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่างคุณพ่ออเมริกา ให้ต้องนำเอาเม็ดเงินภาษีของบรรดาอเมริกันชนปีละไม่น้อยกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ภายในระยะ 10 ปีข้างหน้า หรือไม่น้อยกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์ มาช่วยเหลือเยียวยาประเทศนี้ ในฐานะที่พร้อมตายแทนอเมริกา หรือพร้อมที่จะสู้กับรัสเซียจนกว่าไม่หลงเหลือ “ชาวยูเครนคนสุดท้าย”...
แต่คุณพ่ออเมริกาท่านจะใจดี ใจใหญ่ ไปได้ถึงขั้นนั้นหรือไม่? ประการใด? อันนี้...หนีไม่พ้นต้องคิดมากหรือคิดเล็ก-คิดน้อยอย่างมิอาจปฏิเสธได้ เพราะดังที่ใครต่อใครได้พูดจาแบบซ้ำๆ ซากๆ มานานแล้วนั่นแหละว่า...ใครเป็นศัตรูอเมริกาย่อมลำบาก แต่ใครที่เป็นมิตรกับอเมริกาย่อมมีแต่ตายกับตายลูกเดียวเท่านั้นเอง!!! เฉพาะแค่เงินช่วยเหลือก้อนใหม่ประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 24,000 ล้านดอลลาร์ในด้านความช่วยเหลือทางทหาร ที่รัฐบาลคุณปู่ “โจ ซึมเซา” พยายามขอร้อง วิงวอน ให้รัฐสภาอเมริกัน “เซ็นเช็คเปล่า” ให้กับยูเครน เอาไป-เอามาแล้ว...ยังไม่รู้จะออกหัว ออกก้อย เพราะไม่ว่าจะ สส.ฝ่ายค้านอย่างรีพับลิกัน หรือฝ่ายรัฐบาลอย่างเดโมแครตก็ตาม ดูๆ ไม่อยากจะด้วน หรือ “ไม่เห็นควรด้วย” กับความกระเหี้ยนกระหือรือของประธานาธิบดี รัฐมนตรีต่างประเทศ และที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาวมากมายสักเท่าไหร่ บางรายถึงกับออกมาต่อต้าน คัดค้าน ยืนหยัด ยืนกรานที่จะปฏิเสธอย่างออกหน้า-ออกตา เอาเลยด้วยซ้ำ กระทั่งแม้แต่ “มืออาชีพ” อย่างผู้นำทางทหาร หรือเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง “CIA” ก็ชักเห็นต่าง เห็นไปคนละทางกับรัฐบาล ไปจนบรรดาอเมริกันชนโดยส่วนใหญ่ ถ้าว่ากันตามผลสำรวจ วิจัย ความคิด-ความเห็นของ “SSRS survey” เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี่เองบรรดาชาวอเมริกันถึง 55 เปอร์เซ็นต์ต่างไม่คิดจะเอาด้วยกับการเพิ่มความช่วยเหลือให้ยูเครนอีกต่อไปแล้ว!!!
อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้ “อนาคตยูเครน” ออกจะเป็นอะไรที่มืดมนอนธกาล เอามากๆ ชนิดที่แม้แต่ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างประธานาธิบดี “Volodimir Zelensky” ยังอดไม่ได้ที่จะต้อง “สารภาพ” กับนักข่าวโทรทัศน์ในบ้านตัวเอง เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยการยอมรับว่า “กลัว” จะถูก “ถีบทิ้ง” โดยโลกตะวันตกอยู่พอสมควรทีเดียว เพราะอย่างที่สำนักข่าว “Bloomberg” เขาได้อ้าง “แหล่งข่าว” นำเสนอรายงานข่าวไปเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.ไปแล้วนั่นแหละว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือกระทั่งผู้นำกลุ่มประเทศยุโรปหลายประเทศ ต่างกำลังคิดไปในทำนองว่า...ท้ายที่สุดแล้วแนวโน้มที่รัฐบาลอเมริกันจะผลักไสให้รัฐบาลยูเครนต้องหันไป “เจรจาสันติภาพ” กับรัสเซีย กำลังมีความเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นไปทุกที เพราะกระทั่งหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการทหารของ “NATO” ที่ว่ากันว่าใกล้ชิด ติดพัน กับตัวเลขาธิการ “พลเอกJens Stoltenberg” อย่าง “นายStian Jenssen” ยังอดไม่ได้ที่จะต้องออกมานำเสนอ “แนวทาง” ให้ยูเครนยอมสูญเสียดินแดน 4 เขต 4 แคว้นรวมทั้งแหลมไครเมียให้กับรัสเซีย เพื่อแลกกับการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “NATO” จนส่งผลให้บรรดา “ด้อมยูเครน” ต้องจัด “ทัวร์” ไปลงกันชนิดเป็นเทือกๆ...
ด้วยเหตุนี้...แม้ว่ารัฐบาลยูเครน กองทัพยูเครน จะยังคงเสียงแข็ง ยังคงยืนหยัด ยืนกราน ว่าจะเจรจาสันติภาพกับรัสเซียต่อเมื่อบรรดาดินแดนต่างๆ ได้หวนกลับคืนมาสู่ประเทศยูเครนลูกเดียวเท่านั้นเอง อันทำให้สงครามระหว่างยูเครน-รัสเซียกลายเป็น “Forever War” หรือสงครามที่ไม่มีวันรู้จบไปแล้วในทุกวันนี้ และนั่นเองที่ทำให้ผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังอย่างคุณพ่ออเมริกาและบรรดาพวก “พรมเช็ดเท้า” ทั้งหลายในโลกตะวันตก ยิ่งออกอาการอิหลักอิเหลื่อ กลืนไม่เข้า-คายไม่ออกยิ่งเข้าไปทุกที เพราะตัวเองได้ถูกจับเป็น “ตัวประกัน” ให้กับชัยชนะ-ความพ่ายแพ้ของยูเครน ที่ได้กลายเป็นชัยชนะและความพ่ายแพ้ของโลกตะวันตก ของพวก “โลกขั้วอำนาจเดียว” ไปแล้วก็ว่าได้ ชนิดไม่ใช่แค่ต้องสูญเสียเม็ดเงินไม่รู้กี่ต่อกี่แสนล้านดอลลาร์ ในการช่วยเหลือประเทศนี้นับตั้งแต่เริ่มเปิดฉากสงครามเป็นต้นมา แต่กระทั่งอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะลูกกระสุนปืนใหญ่ที่จะส่งไปให้ทหารยูเครนยิงทิ้ง ยิงขว้าง ก็แทบไม่เหลือติดคลัง ติดโกดัง ของแต่ละประเทศแม้แต่ประเทศอเมริกาเอาเลยก็เถอะ!!!
การปิดฉาก ปิดกล่อง “สงครามยูเครน” ที่กำลังใกล้เข้ามาในทุกขณะ...มันเลยอาจเป็นไปอย่างที่นักคิดนักเขียน นักวิเคราะห์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองหน่วยนาวิกโยธินอเมริกันและอดีตเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธสหประชาชาติ “นายScott Ritter” ได้ฟันธง ฟันเฟิร์ม เอาไว้ล่วงหน้าก็เป็นไปได้ นั่นคือ... “Ukraine will capitulate unconditionally” หรืออาจต้องยอมแพ้ ยอมจำนนแบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ อีกต่อไป ชนิดถึงขั้นย้ำไว้ด้วยว่า... “ให้ลองคิดถึงครั้งการปิดฉากสงครามญี่ปุ่นเมื่อ 2 กันยายน 1945 ไว้ให้จงหนัก...เพราะนั่นอาจคืออนาคตของพวกคุณ” เอาเลยถึงขั้นนั้นไม่ก็ต้องหันมาใช้ฉากสถานการณ์แบบ “Korea Scenario” อย่างที่อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย “นายDmitry Medvedev” ท่านนำเสนอเอาไว้มานานแล้วนั่นแหละว่า ต่างฝ่ายต่างอาจต้องถอยไปอยู่หลังเส้นขนานที่ 38 แบบประเภทเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ถ้าต่างฝ่ายต่างยัง “กินกันไม่ลง” อยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้...
อย่างไรก็ตาม...ความมืดมนอนธกาลของอนาคตประเทศยูเครนที่กำลังเป็นไปในแนวนี้ ยังไงๆ...ย่อมต้องเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับทัศนคติ ค่านิยม และพฤติกรรมของบรรดา “ปวงชนชาวยูเครน” ที่แห่ไปเทเสียงให้กับอดีตดาวตลกอย่าง “นายVolodimir Zelensky” จนผงาดขึ้นเป็นประธานาธิบดีของประเทศนี้จนได้ อย่างมิอาจแยกออกจากกันได้โดยเด็ดขาด หรือด้วยเหตุเพราะ “ประชาชนเป็นเช่นไร?...รัฐบาลย่อมเป็นไปเช่นนั้น” นั่นเอง ดังนั้น...เลยไม่ถึงกับน่าแปลกใจ น่าสะกิดใจมากมายสักเท่าไหร่ ที่มีโอกาสได้เห็นบรรดาชาวยูเครนนุ่งน้อย-ห่มน้อย สนุกสนาน ร่าเริงบันเทิงใจ อยู่ริมสระน้ำในงานปาร์ตี้กลางเมืองหลวงยามเกิดศึกสงคราม ชนิดแทบไม่ต่างไปจาก “ปวงชนชาวไทย” ของหมู่เฮาชาวไทยแลนด์ แดนสยามนั่นแหละทั่น คือถ้าดันรักหลงใหลและคลั่งไคล้พรรคหนึ่ง-พรรคใดขึ้นมาแล้วล่ะก็ ไม่ใช่แค่ส่ง “เสาไฟฟ้า” ลงเลือกตั้งเท่านั้นกระทั่งส่ง “อาชญากร” ลงสู่สนามครั้งแล้ว-ครั้งเล่า แต่ก็ยังคงสามารถแลนด์ สไลด์ แอฝะล้านช์ ยังสามารถแปรสภาพตัวเองให้เป็น “ผู้แทนปวงชน” ตามครรลองประชาธิปไตยฉบับตะวันตก ที่นับวันจะส่งผลให้แต่ละประเทศ “ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย” หนักยิ่งเข้าไปเท่านั้น...