ยังมีแรงกระเพื่อมต่อเนื่อง

การจัดสรรคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นายเศรษฐา ทวีสิน ผู้มาจากวงการอสังหาริมทรัพย์ ยังไม่ลงตัว แต่ละพรรคยังมีประเด็นต้องชำระสะสาง จัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ไม่มีใครยอมใครง่ายๆ เป็นเรื่องของโอกาสแสวงหาผลประโยชน์

ในพรรคเพื่อไทยเองยังต้องมีสลับเปลี่ยนเพื่อให้ลงตัว แน่นอน การแต่งตั้งไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความเหมาะสม คุณสมบัติ ประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ

ถ้าได้ชื่อ ข้อมูลแล้วยังต้องมีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติของแต่ละคนว่ามีปัญหาเรื่องจริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตจนเป็นที่ประจักษ์ได้หรือไม่

เรื่องพรรค์นี้จะทำแบบสุกเอาเผากิน ทำกันแบบลวกๆ ไม่ได้ เพราะยังมีฝ่ายตรวจสอบนอกรัฐบาลอีก บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่น จะเอาหมูหมากาไก่มาบริหารไม่ได้

โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรีซึ่งดูแล้วมาด้วยการจัดการแบบฉุกเฉินโดยคณะลุงห้าวเป้งที่ส่งมอบอำนาจต่อไป ผ่านวุฒิสมาชิกกว่า 100 ราย สำแดงพลังเต็มที่

ดูแล้วเหมือนราบรื่นสำหรับนายเศรษฐา แต่จะวางใจอะไรไม่ได้ ตราบใดที่คณะรัฐมนตรียังรอการโปรดเกล้าฯ ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนให้ลงตัว

ยังมีประเด็นความเป็นอยู่ของนายห้างดูไบที่บรรดาแพทย์ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจแถลงว่าป่วย มีอาการน่าห่วง ต้องให้ออกซิเจน ฯลฯ

ยิ่งแถลงแทบเป็นรายวัน ปรากฏว่าสาธารณะไม่เชื่อถือ พฤติกรรมซ่อนเงื่อน

จากนี้ไปจนกระทั่งคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ฯ ทำหน้าที่ ต้องดูว่าจะยังมีอาการกระเพื่อม มีอะไรเป็นเหมือนคลื่นใต้น้ำหรือไม่ ทั้งในพรรครัฐบาล และพรรคต่างๆ

การกระเพื่อมจะส่งผลต่อเนื่องให้รัฐบาล อาจถึงขั้นอับปางได้ โดยเฉพาะการตรวจสอบตัวผู้นำรัฐบาลซึ่งผ่านการโหวตของ สว.แบบกล้อมแกล้ม ไม่ลงลึกถึงข้อมูล

พรรคนายห้างดูไบก็เหมือนมีคลื่นใต้น้ำ เมื่อคนอยู่นานจากพื้นที่อีสานไม่ได้รับการตอบสนองในตำแหน่งเสนาบดี ย่อมมีปฏิกิริยาฮึ่มฮั่มต่อรองกันบ้าง

ถ้ามีรอยร้าว ไม่ได้รับการเยียวยา อาจเกิดการแตกตัว ไปหาที่อยู่ใหม่ได้

ค่ายสะตอยิ่งร้าวหนัก มีกลุ่มใหญ่ต้องการอยู่ร่วมรัฐบาล ไม่มีทางที่จะประสานกับกลุ่มผู้อาวุโสซึ่งนับวันจะสูญเสียบารมี ความเกรงอกเกรงใจในกลุ่มพวกรุ่นใหม่

มีเสียงร่ำลือว่ามีคนค่ายสะตออารมณ์ป่วนประมาณ 21 รายส่งสัญญาณไปยังป่ารอยต่อเพื่ออยากร่วมเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากไม่มีเสียงตอบรับจากแนวอื่น

ถ้ามาได้ ค่ายป่ารอยต่อก็จะมีเสียงเพิ่มอีกกว่า 20 รออีก 8 เดือนเมื่อ สว.ไม่มีอำนาจโหวตเลือกนายกฯ ยิ่งถ้ามีพวกไม่พอใจจากพรรคนายห้างดูไบมาเสริมอีก ค่ายป่ารอยต่อก็จะมีเสียงเพิ่ม มีอำนาจต่อรองอีกอาจได้มากถึง 80 เสียง

สถานการณ์ด้านความสัมพันธ์ในกลุ่ม 3 ป. ร้าวฉานหนัก เมื่อลุงป่ารอยต่อรู้สึกว่าโดนแทงข้างหลังโดยน้องเคยรัก ช่วงการโหวตเลือกนายกฯ

เป็นการพิสูจน์ขั้นเด็ดขาดว่า “3 ป. ฟอร์เอฟเวอร์” นั้นไม่มีจริง เป็นสภาวะชั่วคราวเมื่อจำเป็นต้องอยู่ร่วมกัน แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นจริงๆ เฉพาะตัว ทุกคนย่อมเลือกผลประโยชน์ของตัวเองก่อน นี่เป็นส่วนหนึ่งของเกมชิงอำนาจ

ลุงป่ารอยต่อเคยหวังมากว่าจะขอเป็นผู้นำรัฐบาลสักครั้งในช่วงบั้นปลายชีวิต หลังจากอุ้มกระเตงน้องรักให้อยู่ในอำนาจนานกว่า 8 ปี อย่างปลอดภัย

การลงหลังเสือของท่านห้าวเป้งยังมีคำถามว่าเป็นความปลอดภัยยั่งยืนหรือไม่

ลุงห้าวเป้งจะถึงวันออกจากอำนาจ มั่นใจว่ารัฐบาลนายห้างดูไบจะไม่ทำอะไรเป็นภัย ขุดคุ้ยเรื่องราวต่างๆ ค้นหาโครงกระดูกซุกซ่อนไว้ในตู้ อย่างคำพังเพยฝรั่งว่า

แต่ลุงป่ารอยต่อยังเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจรัฐ สามารถตรวจสอบใครก็ตามในรัฐบาลที่มีปัญหาเรื่องจริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต เริ่มตั้งแต่ตัวนายกฯ คนใหม่

ใครเป็นตัวประกันของใคร ยังต้องรอดูว่าบทของเกมอำนาจจะเดินไปอย่างไร

ค่ายลุงป่ารอยต่อก็ใช่ว่าจะสงบ มีแรงกระเพื่อมเมื่อน้องรักไม่ได้นั่งเก้าอี้สำคัญเท่าที่ควร ขณะที่ผู้กองได้ “ของดี” ไปครอง เกินหน้าน้องของลุงป่ารอยต่อ

ดังนั้น ต้องรอดูเช่นกันว่าจะมีการชำระสะสางปรับเปลี่ยน ทำให้ผู้กองต้องหลุดจากเก้าอี้ “เกษตร” ที่จองไว้หรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็จะมีแรงกระเพื่อมต่อ

จะเป็นวิกฤตของรัฐบาลได้เช่นกัน ลุงป่ารอยต่ออาจไม่ห่วงถ้ามีอะไหล่กว่า 20 จากค่ายสะตอมาเสริมพลัง นี่เป็นสถานการณ์ที่ดูไม่จืดจริงๆ

“เศรษฐา 1” อาจไม่ยั่งยืนตามที่หวัง ทั้งที่เจ้าตัวผ่านโหวตมาแบบพิสดาร เมื่อมีแรงหนุนด้วยปัจจัยจาก “อ่าว” และส่วนหนึ่งของนักลงทุนในค่ายนายห้างดูไบ

อย่าลืมว่าเรื่องของ “เสี่ยชูแฉ” ยังไม่เงียบ แม้เจ้าตัวจะเลิกราแล้วก็ตาม เรื่องจะส่งผ่านต่อไปยังองค์กรต่างๆ เพื่อตรวจสอบ จะมีคนรับช่วงต่อโดยเกี่ยวโยงกับองค์กรด้านกฎหมาย ทำกันเป็นเรื่องเป็นราว จะปิดเงียบเหมือนเสี่ยชูแฉเลิกราไม่ได้

เรื่องที่เหลือหลายตอนที่ไม่ได้แฉเกี่ยวโยงกับพฤติกรรมน่าสงสัยของผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ จะเป็นตัวปัญหาเขย่าความมั่นคงของเก้าอี้นายกฯ คนใหม่

เป็นสิ่งที่ลุงห้าวเป้งจะช่วยอะไรไม่ได้ เมื่อตัวเองต้องระวังเช่นกันหลังจากทำลุงป่ารอยต่อเจ็บช้ำในหัวอกแทบกระอักเลือด ต้องซดน้ำแกงชาบูแก้เซ็งในอารมณ์

มีเสียงซุบซิบลอดออกมาจากป่ารอยต่อว่ามีคนอยู่บ้านใกล้กัน แต่ไม่มองหน้ากันโทร.มา “ขอมาพบเพื่อเคลียร์ใจ” แต่ลุงป่ารอยต่อตอบเสียงสะบัดๆ ทำนองว่า “ตอนนี้กูไม่อยากเห็นหน้ามึง” นี่สะท้อนให้เห็นสภาวะของการสะบั้นไมตรีชัดเจน

แบบนี้ไม่ใช่ความน้อยใจของผู้สูงอายุเสียแล้ว น่าจะเป็นความคั่งแค้นมากกว่ารอดูต่อไป จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ จะมีอะไรเกิดขึ้น น่าสยดสยองหรือไม่