xs
xsm
sm
md
lg

พรรคก้าวไกลกับครูกายแก้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ



 ต้องยอมรับว่าภาพของนักการเมืองเป็นภาพที่ติดลบในสายตาของสังคม เพราะเต็มไปด้วยการแย่งชิงอำนาจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ผมไม่ได้ดูหมิ่นอาชีพแต่มองจากความจริง และยอมรับว่าอาชีพสื่อมวลชนเองก็ไม่ได้มีภาพต่อสังคมดีไปกว่านักการเมืองนัก

อาชีพสื่อมวลชนกำลังจะถูกดิสรัปต์ไปแล้วจากการเกิดขึ้นของโซเชียลมีเดียที่ทำให้ใครเป็นสื่อก็ได้ แม้สื่อกระแสหลักจะหาที่ยืนจากการตั้งรับกับการเปลี่ยนแปลงด้วยความเป็นมืออาชีพที่มากกว่า แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถกลับไปครองพื้นที่ข่าวเพื่อชี้นำสังคมได้เท่ากับโซเชียลมีเดียอีกแล้ว แถมต้องพึ่งพาโซเชียลมีเดียทั้งในฐานะแหล่งวัตถุดิบและแฟลตฟอร์มเพื่อความอยู่รอดด้วยซ้ำไป

และเมื่อระบอบ 3 ลุงที่ยึดครองอำนาจรัฐ ถูกโจมตีด้วยโซเชียลมีเดียจากคนรุ่นใหม่ที่จัดเจนกว่า ประกอบกับความเบื่อหน่ายของคนในสังคมที่ต้องการเปลี่ยนแปลงก็เป็นจังหวะก้าวให้พรรคก้าวไกลนั้นโดดเด่นขึ้นในสายตาของสังคม เพราะไม่มีภาพของนักการเมืองเก่าที่ฟอนเฟะ คนจำนวนมากทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าที่เป็นคนชั้นกลางของสังคมจึงพากันเทเสียงให้พรรคก้าวไกลชนะเข้ามาเป็นอันดับ 1 อย่างเหนือความคาดหมาย แถมพรรคก้าวไกลยังชนะในระบบบัญชีรายชื่อเกือบทุกเขตเลือกตั้งแม้จะไม่ได้ ส.ส.เขตก็ตาม

ชัยชนะของพรรคก้าวไกลจึงมาจากการเบื่อหน่ายการเมืองเก่า โดยมีความเบื่อหน่าย 3 ลุงเป็นฟางเส้นสุดท้าย และการสามารถสร้างห้องแห่งเสียงสะท้อน (Echo Chamber) ครอบคลุมไปทุกหย่อมหญ้าของพรรคก้าวไกลเพราะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความเหนือกว่าในการยึดครองโซเชียลมีเดีย ทุกคนถูกจัดการให้รับข่าวสารด้านเดียวกันเชื่อแบบเดียวกันด้วยอัลกอริทึม การทำให้คนไลค์ คนแชร์ และเกิดไวรัลโดยไม่สนใจข้อมูลอีกด้านความถูกต้องและการขัดเกลาข้อมูลแบบสื่อยุคเก่า

แล้วกระแสก็สร้างธนาธรให้กลายเป็นพ่อของฟ้า แต่เพราะจังหวะชีวิตทำให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นรวดเร็วและล่มสลายรวดเร็วไปตามกระแสของสังคมไม่มีสิ่งไหนสามารถหยัดยืนจีรังได้ ธนาธรก็ค่อยๆ กลืนหายไปทดแทนด้วยกระแสของแดดดี้พิธาที่อยู่ถูกจังหวะของอารมณ์คนไทยที่ต้องการเปลี่ยนแปลงพอดี จึงทำให้พรรคก้าวไกลประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะสังคมกำลังหมดหวังกับนักการเมือง ประสบกับภาวะเศรษฐกิจที่ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนพอดี เหมือนอยู่ในกระแสน้ำที่กำลังจ่อมจมอะไรลอยมาก็ต้องเกาะไว้ก่อนทั้งนั้น

เรื่องในโลกนี้ล้วนแต่เกิดจากการสรรแต่งขึ้นมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นซาตาน เวตาล หรือการ์กอยล์ แต่เพราะในอดีตสื่อไม่ได้แพร่หลายเปลี่ยนแปลงเร็วมีแต่ตำราที่แต่งขึ้นที่ทุกคนได้เสพตำราเล่มเดียวกันมา ทำให้ความเชื่อเหล่านั้นสามารถกลายเป็นตำนานได้ สำหรับครูกายแก้วไม่ว่าเรื่องจะถูกแต่งสรรขึ้นมาอย่างไร มีผู้รู้ออกมาตั้งสติเพื่อเตือนสังคมอย่างไร ก็ไม่สามารถต้านกระแสของสังคมได้ ก็ต้องปล่อยให้กระแสสังคมมันค่อยจางหายไปเองเมื่อมีความเชื่อใหม่เกิดขึ้น เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับจตุคามรามเทพที่เกิดขึ้นมาด้วยเรื่องราวที่เล่าขานตำนานลึกลับแล้วค่อยๆ หายไป

แม้ทุกสิ่งบูชาในโลกจะถูกแต่งสรรเรื่องราวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือขึ้นมาเหมือนกัน แต่ในยุคอดีตความเร็วและความหลากหลายของสื่อไม่เท่าทุกวันนี้ มันอาจทำให้รูปบูชาที่สร้างสรรค์ขึ้นต่างๆ นั้นสามารถดำรงอยู่ได้จนความเชื่อจากตำราเล่มเดียวกันกลายเป็นวัฒนธรรมประเพณีและรากเหง้าของสังคม แต่ในยุคนี้ที่สิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกเวลานาทีมีใครคิดว่าจะสร้างให้ครูกายแก้วเป็นอมตะนิรันดร์ และจำหลักแบบพระพรหมได้บ้าง คิดว่ามีแต่คนจะบอกว่าคงอยู่ไม่นานเมื่อมีหลักยึดใหม่ที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยกระแสใหม่ด้วยสื่อที่หลากหลายและตำราหลายเล่มคนก็จะลืมครูกายแก้วไปเอง

กระแสแห่แหนพรรคก้าวไกลและแดดดี้พิธาก็เหมือนกัน การยึดครองพื้นที่โซเชียลมีเดีย และผู้ครอบครองโซเชียลมีเดียที่เรียกว่าอินฟลูเอนเซอร์และการหนุนเนื่องเป็นเสียงเดียวกันของสื่อกระแสหลัก และนักวิชาการในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้พรรคก้าวไกลถูกชูให้เป็นความหวังใหม่ของสังคม จนเชื่อกันว่านี่เป็นสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยากจะสร้างกำแพงตั้งรับนอกจากทำตัวลู่ตามลมสร้างกังหันเพื่อหาประโยชน์จากสายลมถ่ายเดียว

วันนี้ครูกายแก้ว พิธา และพรรคก้าวไกลจึงอยู่ในสถานะเดียวกันที่กลายเป็นความเชื่อและความหวังใหม่ของสังคมที่น่าจะครองพื้นที่ของสังคมไปได้สักระยะหนึ่งแต่ไม่น่าจะจีรังยั่งยืน เพราะเบื้องหลังการก่อเกิดนั้นอาจจะตรึงใจและสร้างความน่าเชื่อถือไปได้สักระยะหนึ่ง แต่ด้วยสถานการณ์ที่โลกหมุนเร็วทุกอย่างก็จะเปลี่ยนแปลงไปเร็วเช่นเดียวกัน

ตอนนี้ถ้าเราติดตามพรรคก้าวไกลและพิธาดูเหมือนว่า พวกเขาจะมองว่า ประชาชนที่เลือกพวกเขาและศรัทธาพวกเขาเท่านั้นที่ยืนอยู่ในฝ่ายที่ถูกต้องและมีความชอบธรรม เมื่อพรรคเพื่อไทยแยกออกไปจับมือกับพรรคการเมืองอื่น จึงถูกกล่าวหาว่าทรยศประชาชนราวกับพรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองอื่นไม่มีที่มามาจากประชาชนเหมือนกับพรรคก้าวไกล

แน่นอนพวกเขาคิดเช่นนั้นเพราะมั่นใจว่า วันนี้พวกเขากำลังเป็นคนขับขี่กระแสคลื่นของสังคมสามารถทำให้คนจำนวนมากหลงใหลศรัทธาพร้อมจะเอาทุกอย่างมาเป็นเครื่องเซ่นสังเวยเหมือนกับคนบูชาครูกายแก้ว คนที่ศรัทธาครูกายแก้วก็คงสร้างปรากฏการณ์ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งพิธีกรรมและเครื่องสังเวยเรื่องราวเล่าขานจะค่อยทยอยมาอย่างพิสดารพันลึก พรรคก้าวไกลก็เช่นเดียวกันพวกเขาจะต้องทำทุกอย่างที่พวกเขาคิดว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมและประเทศไทยไปอย่างที่พวกเขาปรารถนาให้ได้ในชั่วข้ามคืน

ประเพณีและรากเหง้าของสังคมที่ดีอยู่แล้วก็จะต้องถูกพรรคก้าวไกลเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องเชื่อถือศาสนา ไม่ต้องนับถือพ่อแม่ครูบาอาจารย์ คนต้องไม่มีชนชั้น ไม่มีลุงป้าน้าอา สถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นที่เคารพสักการะของคนไทยถูกมองว่า เป็นเรื่องของความไม่เท่าเทียมและคนไม่เท่ากัน ต้องรื้อโครงสร้างให้พังทลายลงมา โดยอ้างว่าเพื่อให้สถาบันสามารถดำรงอยู่ได้สอดคล้องกับยุคสมัยสังคมปัจจุบันที่พวกเขายึดครองความเชื่อของสังคมอยู่นั่นเอง ถ้าพวกเขากระทำผิดกฎหมายแล้วกฎหมายบังคับใช้ก็กลายเป็นกฎหมายล้าหลังหรือไม่ก็นิติสงครามที่มุ่งทำลายพวกเขา

คนจำนวนไม่น้อยเลือกพรรคก้าวไกลไปตามกระแสและอารมณ์เบื่อหน่ายของระบอบ 3 ลุง แต่วันนี้พรรคก้าวไกลกำลังหยิบฉวยเอากระแสนั้นมาเปลี่ยนแปลงรากฐานและโครงสร้างของสังคมไทยเพื่อชักนำคนไปสู่รูปแบบการปกครองที่พวกเขาปรารถนาและซ่อนเร้นเป้าหมายที่แท้จริงไว้

คนจำนวนหนึ่งเริ่มตั้งสติได้และคนจำนวนหนึ่งยังคงหลงใหลไปกับพรรคก้าวไกลเหมือนที่สังคมไทยส่วนหนึ่งกำลังยึดถือศรัทธาครูกายแก้วที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งสร้างขึ้น แม้จะมีคนส่งเสียงเตือนออกมาก็อาจจะไม่สามารถต้านทานกระแสชั่ววูบนี้ได้ จนกว่าเวลาจะผ่านไป
 
 ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น