xs
xsm
sm
md
lg

ข้ออ้างเพื่อแหก MOU

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



การเมืองไทยจะว่าดูง่ายก็ง่าย ว่ายากก็ยาก นักศึกษาวิชารัฐศาสตร์ที่เข้าใจได้ไม่ต้องรอรับปริญญาตรี เอาปริญญาเอกไปเลย แม้แต่โหร หมอดูที่ว่าแม่น ยังทายไม่ตรงกัน

บางรายหากินกับความหัวอ่อน เชื่อคนง่าย อ้างว่ามองเห็นอนาคตเปลี่ยนคำพยากรณ์เป็นสิบครั้ง ก็ยังมีคนงมงายเชื่อถือ เพราะเชื่อว่าคนไม่จำคำทายครั้งก่อน

การเมืองไทยไม่มีเขียนเป็นตำราคู่มือ หรือศาสตร์ชัดเจน ต้องใจกล้าหน้าด้าน โกหกเก่ง ลิ้นตวัดถึงใบหู พร้อมแทงข้างหลัง ย้ายพรรคได้ตามสภาวะ

สามารถขายความจงรักภักดีให้คนจ่ายเงินสูงสุด อ้างอุดมการณ์ตรงกัน

เป็นการเมืองน้ำเน่าแบบไม่มีอะไรเจือปน หาเหตุสารพัดมาเป็นข้ออ้างในหมู่ทุรชนที่อวดอ้างว่าตัวเองสะอาดกว่าคนอื่น ยิ่งยุคนี้ มีพรรคการเมืองประกาศล้มสถาบัน เปลี่ยนวันชาติ แบ่งแยกดินแดน และอะไรสารพัด ยังไม่มีใครทำอะไรได้

กลไกองค์กรผู้รักษากฎหมายกลายเป็นเบื้อ เดี้ยงไปหมด กลัวเด็กด้อมเจี๊ยว

มาวันนี้ หลังเลือกตั้งแล้วยังไม่มีนายกรัฐมนตรีตัวจริง มีกลไกทำลายล้างกันเอง มีคำมั่นสัญญา ข้อตกลง MOU ที่เป็นสิ่งประหลาดของนักการเมือง

ไม่มีสัจจะในหมู่โจร หรือทุรชน ครั้งนี้เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่นักเลือกตั้งพยายามจับมือกันตั้งรัฐบาล แต่จะเป็นเพราะบาปกรรมกระทำต่อบ้านเมือง หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษาไว้ ทำให้ความพยายามของทุรชนจ้องกินเมืองยังไร้ผล

ช่วงนี้จึงเป็นความพยายามของนักเลือกตั้งตะเกียกตะกายสลัดตัวเองให้หลุดจากพันธะและเงื่อนไข MOU เกิดจากคำประกาศผูกมัดตัวเอง

บางกลุ่มเพ้อจากความผิดหวัง ประกาศต้องใช้ “ยุทธศาสตร์ความหน้าด้านกว่า” เพื่อเอาชนะกลุ่มหน้าด้านธรรมดา ซึ่งในความเป็นจริง ไม่ด้อยกว่ากัน

เป็นเรื่องกระดูกคนละเบอร์ ด้อยประสบการณ์ ความยโสโอหังลำพองทำให้พัง

ความอยากปลดล็อกจากอีกฝ่ายจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนเลือกตั้ง ดันหาเรื่องทำตัวให้สูงส่ง แบ่งแยกว่ามี “ฝ่ายประชาธิปไตย” และ “ฝ่ายอนุรักษนิยม”

เป็นการทึกทักของพรรคคนรุ่นใหม่ กับพรรคนายห้างดูไบ และพรรคอื่นๆ ที่เป็นฝ่ายค้าน ยกตัวเองเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย” ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรับเป็นอนุรักษนิยมหรือไม่

ในความเป็นจริง การเมืองน้ำเน่าบ้านเราไม่มีใครดีบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ราคี มีแต่เลวมาก เลวน้อย โกงมาก โกงน้อย อ่อนเกมมากหรือน้อยกว่ากัน

ช่วงนี้ “ฝ่ายประชาธิปไตย” มีปัญหา ต้องแยกจากกัน แต่พรรคคนรุ่นใหม่ขวัญใจพวกด้อมด้อยต้อยติ่งยังอยากอยู่ต่อ ไม่ให้พรรคนายห้างดูไบได้อำนาจง่ายๆ

ปัญหาตราบาปที่เกาะพรรคขวัญใจด้อมด้อยคือความมุ่งมั่นที่จะล้มสถาบันหลัก เปลี่ยนวันชาติ และนโยบายปลุกระดมกลุ่มชนต่างๆ ให้แบ่งแยกดินแดน

ชาวบ้านมองว่าเหมือนเป็นพวกผีนรกมาเกิดให้เป็นเสนียดจัญไรแผ่นดิน

จะแยกทางกันอย่างไร โดยมือไม่โชกเลือด หลังจากการเสียบรอบแรกไปแล้ว หวาดหวั่นว่ามวลชนขวัญใจด้อมด้อยจะลุกฮือ ปั่นป่วน จนผู้นำคนใหม่เอาไม่อยู่

คนบ้านเราขึ้นอยู่กับอารมณ์ บางยุคก็จริงจังกับการเสียสัตย์ แต่เมื่อมองดูแล้วมีแต่ทุรชน จึงไม่ควรหวังว่าจะมีใครรักษาสัจจะ โดยเนื้อแท้ ทุกฝ่ายมุ่งผลประโยชน์

คุณธรรม จริยธรรม ยางอาย ความซื่อสัตย์สุจริต มีแต่ในคำหาเสียงเป่าหู ปั่นหัวชาวบ้านไร้เดียงสา บ้องตื้น หรือพวกหวังได้ของฟรีจากโครงการประชานิยม

มาถึงตอนนี้ ถ้าจะแหกจากอีกฝ่าย คบหากับอีกฝ่าย หนีงานคลุมถุงชน ต้องเลิกคำว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” และ “ฝ่ายอนุรักษนิยม” เพราะไม่มีอยู่จริง

ข้ออ้างที่ชัดกว่า พิสูจน์ได้จริง ต้องแยกว่า “พวกจะดันแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112” หรือพวกมุ่งล้มเจ้า และ “พวกไม่แก้ไข ไม่แตะต้องมาตรา 112”

เป็นตัววัดว่าพรรคใดที่จะยังอยู่กับพรรคมุ่งล้มสถาบัน เปลี่ยนประเทศ

นี่เป็นหนทางหนึ่งที่จะแยกตัวเองออกจากพรรคขวัญใจด้อมด้อย ทำให้ตัวเองดูดีชั่วคราว ปกป้องสถาบัน ไม่เปลี่ยนวันชาติ ต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน

แม้กระนั้น ยังมีปัจจัยที่เป็นตัวแปร การตีความกฎหมาย ทำให้การโหวตเลือกนายกฯ ไม่ง่าย กำหนดวันโหวตครั้งใหม่วันที่ 3 ก็ไม่แน่ว่าจะลงตัว มีตัวจริงตัวหลอก

ถ้าไม่ปิดเกม อาจต้องเลือกโหวตอีกรอบวันที่ 9 ก่อนนายห้างดูไบจะกลับมาติดคุกตามคำประกาศ 1 วัน แต่ต่อนนี้ก็ไม่แน่ว่านายห้างจะกลับมาหรือไม่

มีปัจจัยเสี่ยงจากวันนี้จนถึงวันที่ 10 ถ้าเห็นท่าไม่ดี ก็เลื่อนได้ ทำแล้วหลายครั้งเกิดมามีชีวิตเดียว ไม่ควรต้องเสี่ยงยามบั้นปลายหลังจากฉลองวันเกิดย่างเข้าปี 74

ความไม่แน่นอนก็คือ จะมีม็อบหรือไม่ มีกี่กลุ่ม กี่ฝ่าย คนเข้าร่วมมากหรือน้อย มีความขัดแย้งรุนแรงหรือไม่ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่

แน่นอน พวกพ่ายแพ้ในเกมแรกต้องการให้เกิดม็อบ ความวุ่นวายในบ้านเมืองเหมือนในฮ่องกง เปิดทางให้ชาติมหาอำนาจได้แทรกแซงหนักเหมือนในประเทศอื่นๆ

พวกฝรั่งขาวแยงกี้และยุโรปทำตัวเป็นมหาอำนาจ ชอบเสือกในเรื่องของคนอื่น ยุให้รำตำให้รั่ว เอาผลประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติจากความแตกแยกของประชาชน

ช่วงนี้ฝรั่งเริ่มแทรกแซง อ้างว่าต้องจับตาความเป็นประชาธิปไตยในเมืองไทย ทั้งที่พวกฝรั่งอังกฤษ ยุโรปล้มเหลวในความพยายามให้แผ่นดินไทยเป็นอาณานิคม

ข้ออ้างสุดท้ายของนักเลือกตั้งที่อยากรวมกลุ่มจัดตั้งรัฐบาล คือต้องประกาศว่าเป็นพวกรักชาติ ปกป้องแผ่นดินให้รอดพ้นจากการแทรกแซงของต่างชาติ

Samuel Johnson นักเขียนชาวอังกฤษ พูดไว้ว่า Patriotism is the last refuge of the scoundrel “ความรักชาติเป็นข้ออ้างสุดท้ายของคนโกง” เข้าทางเลย


กำลังโหลดความคิดเห็น