“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
พูดเรื่องราวนักปรัชญา “โสเครตีส” มาสองตอนแล้ว คราวนี้มาดูคำพูด “โสเครตีส” กันสักหน่อย..
เริ่มด้วย “ความซื่อสัตย์”.. “โสเครตีส” กล่าวว่า “คนซื่อสัตย์เป็นเด็กเสมอ”?!
อืม..ความคิดเด็ก “ไร้เดียงสา” เสมอ..จริงไหม? แต่ “ความคิดเดียงสาผู้ใหญ่” มักมีผลประโยชน์ซ่อนเร้นอยู่เสมอ ไม่มากก็น้อย?
สำหรับ “ความรู้” ทั้งหลาย.. “โสเครตีส” เชื่อว่า “ความรู้เริ่มต้นด้วยความประหลาดใจ”
จริง! มนุษย์มักเริ่มเสาะหาความรู้ จากความสงสัยใคร่รู้เสมอ โดยเริ่มค้นหา “เหตุผล” ที่ไปที่มาของแต่ละเรื่อง หาเจอบ้าง-หาไม่เจอบ้าง? เจอแล้วพูดไม่ได้บ้าง-เจอแล้วพูดไม่น่าเชื่อถือบ้าง? รู้แล้วเปิดเผยออกจนหมดสิ้นบ้าง? รู้ความลับแล้วแต่ยังเก็บอยู่ใน “ใครบางคน” บ้าง? ความลับมลายเมื่อ “ใครบางคนตาย” ไปบ้าง? ฯลฯ
ความรู้-ที่รู้แล้วมีมากมายมหาศาล! ทั้งโดย “นักปรัชญา” ยุคก่อนกับยุค “โสเครตีส” จนถึงยุคดิจิทอลในวันนี้ ได้สร้างความกระจ่างทางปรัชญาและวิทยาศาสตร์ ให้ “มนุษย์” ได้รับรู้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด
แต่ “โสเครตีส” กับ “นักปรัชญา” รุ่นหลังๆ ไม่ได้รู้เหมือน “นักวิทยาศาสตร์” ชื่อดังระดับโลก อย่าง “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ที่ถูก “นักการเมืองมะกัน” นำ “การคิดค้น” พัฒนาทำ “ระเบิดมหาประลัย” ไปทิ้งใส่บ้านเมืองศัตรูอย่างโหดเหี้ยม ทำลายล้างชีวิตเด็ก-ผู้หญิง-คนชรา-คนหนุ่มสาวนับแสนคน ต้องบาดเจ็บล้มตายอย่างทรมาน ใน “สงครามโลกครั้งที่ 2”!!!
“ความรู้เริ่มต้นด้วยความประหลาดใจ”..จริงดัง “โสเครตีส” กล่าว! แต่ “ความรู้”ที่ มาจาก“ ความประหลาดใจ” ในคำสั่งอำมหิตของประธานาธิบดีมะกัน “แฮร์รี เอส ทรูแมน” ให้ทิ้ง “ระเบิดปรมาณู” ลงใน “ฮิโรชิมะ” กับ “นางาซากิ” ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 78 ปีก่อน ในวันที่ 6 และ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2488
แค่ “ปรมาณูลูกแรก” ที่มะกันเรียกชื่อเล่นว่า “เด็กน้อย” หรือ “ลิตเติ้ลบอย” มีผู้คนเสียชีวิตราว 140,000 คน ก็ทำให้ “ผู้นำญี่ปุ่น” ยกธงขาวแล้ว
แต่ไฉน “ผู้นำมะกันทรูแมน” จึงต้องสั่ง “ทิ้งระเบิดปรมาณูชายอ้วน” หรือ “แฟตแมน” อีกลูก ทำให้ชาวญี่ปุ่นต้องบาดเจ็บล้มตายอีกนับแสนคนด้วยล่ะ?
อืม.. เพราะทุก “สงคราม”.. ท่ามกลาง “ความตาย” ของผู้คน.. มี “กลุ่มนายทุน” ได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาลเสมอ.. ใช่หรือไม่?!
“โสเครตีส” ได้กล่าวถึงเรื่องสำคัญว่า “ความรู้ที่แท้จริงเพียงอย่างเดียว คือการรู้ว่าคุณไม่รู้อะไรเลย” และ “มีเพียงสิ่งเดียวที่ดี คือความรู้มีเพียงหนึ่ง ความชั่วร้ายคือความไม่รู้”
อืม.. หรือมี “ใคร” จะถกเถียงกับ “โสเครตีส” ว่า “ความไม่รู้ทำให้มนุษย์ต้องหาความรู้” ชนิดไม่มีวันสิ้นสุด?
“การตรวจสอบ” ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ “โสเครตีส” ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง จึงพูดย้ำแล้วย้ำอีกว่า “ชีวิตที่ไม่มีการตรวจสอบ ไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่”
อีกทั้ง“โสเครตีส”ถือหลักว่า “โมเมนต์ที่ใช่ สร้างได้ ไม่ต้องรอ” ด้วยวิธีคิดของ “โสเครตีส” นั่นคือ “ระดับสูงสุดของความรู้ คือการตรวจสอบว่าทำไม”?!
ไฉน “คำถาม” จึงสำคัญอย่างยิ่ง?
“ทำไม?”.. เพื่อ “ตรวจสอบผู้มีอำนาจ” จึงเกิดทั้งในกรุงเอเธนส์และในชาติต่างๆ มีเรื่องมากมายที่ “ตอบได้-ตอบไม่ได้”!
“คำถามคมคาย” นี่แหละ ที่ทำให้ “ชีวิตโสเครตีส” ถูกบังคับให้ต้องพรากจากโลกก่อนวัยอันควร เพราะอำนาจอธรรมของ “ผู้ครองนครเอเธนส์” ยัดข้อหาผิดฉกรรจ์ให้“โสเครตีส” ต้องโทษประหารชีวิตด้วยการ “ดื่มยาพิษเฮมเลต”!
“การตรวจสอบ”เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่จะขาดมิได้ใน “การเมืองทุกระบอบ” ทั้งเผด็จการทหาร-เผด็จการคอมมิวนิสต์ ฯลฯ รวมถึง “ประชาธิปไตยเลือกตั้ง” ของ “ทุนนิยมสามานย์”
“ทุนนิยมสามานย์” ที่ทำให้ชาติต่างๆ รวมทั้งชาติไทย กลายเป็น “สังคมคนกินคน” สร้าง “ความเหลื่อมล้ำ” หลากหลายมิติ จากการส่งเสริมให้ “คนรวย” รวยยิ่งขึ้นตลอดเวลา ขณะที่ “คนจน” จนลงทุกวี่วัน ฯลฯ
โดย “นายกรัฐมนตรี” หรือ“ ประธานาธิบดี” หรือ “ผู้มีอำนาจ” กับพรรคพวก จะใช้ “โอกาส” กับ “อำนาจ” แสวงหากับกอบโกยผลประโยชน์เหนือ “กลุ่มคนทั้งหมด” ด้วยการ “ใช้อำนาจโกงชาติ” เพื่อได้มาซึ่ง “อำนาจ-เงินทอง-ผลประโยชน์” อย่างละโมบโลภมากไม่รู้จัก “พอเพียง” ฯลฯ
ทว่า.. อนิจจา..!! “การตรวจสอบ” มักล้มเหลว! ส่วนใหญ่..“ผู้มีอำนาจ” จะรอดจากความผิด! ขณะที่ “ผู้ตรวจสอบ” มักมีชีวิตเสี่ยงภัยไม่สงบสุข อาจถึงขั้นต้อง “เสียชีวิต” ด้วยอำนาจอธรรมอันโหดร้ายป่าเถื่อน..!
“โสเครตีส” มองเรื่องที่เกิดขึ้นกับ “ตัวเอง” ซึ่งถูกคำสั่งประหารชีวิตว่า “ไม่ใช่ชีวิต แต่เป็นชีวิตที่ดี คือสิ่งที่ควรค่าที่สุด”
อืม.. จะกลัว “ความตาย” ไปทำไม? เพราะ “ไม่มีใครในโลก” จะรอดพ้น “เงื้อมมือมัจจุราช” ได้ ไม่เร็วก็ช้า ทุกคนล้วนต้อง “ตาย” ทั้งนั้น เพียงแต่จะ “ตายไร้ค่า” หรือ “ตายมีคุณค่า”! “ตายถูกประณาม” หรือ “ตายรับการยกย่องสรรเสริญ” ซึ่ง “มนุษย์ทุกคนเลือกตายได้”นี่ หว่า..จริงไหม?
“โสเครตีส” ตายไปนานแล้ว! ทว่า..ทุกวันนี้ “โสเครตีส-ยังไม่ตาย” ด้วย “นักปรัชญาท่านนี้”ยังคงมีชื่อเสียงขจรขจาย ดุจ “เพชรแวววาว” กลางใจชาวโลก “ปรัชญาโสเครตีส” จึงยังถูกเผยแพร่ และชาวโลกยังติดตามอ่านอยู่ทุกวี่วัน!
เพราะ “โสเครตีส” มองชีวิตตัวเองว่า “ฉันเป็นพลเมืองไม่ใช่ของเอเธนส์หรือกรีซ แต่เป็นของโลก”!
“การกระทำความอยุติธรรมนั้น เลวร้ายยิ่งกว่าที่จะทำ เพราะผู้ใดก็ตามที่ทำสิ่งนั้นไม่ยุติธรรม แต่คนอื่นไม่ทำ” นั่นเป็นสิ่งที่ “โสเครตีส” บอกกล่าวให้ “ผู้คนที่รักความเป็นธรรม”ได้รับรู้ ด้วย “ใครก็ตาม” ที่มีจิตสำนึกดี ย่อมไม่ทำเรื่องอธรรมที่ “ชั่วช้าสามานย์” ทั้งการ“ โกงชาติ” และให้ร้ายป้ายสี ถึงขั้น “ปลิดชีวิตโสเครตีส” และ “คนทำดี” ของชาติและของโลก?
แต่ “โสเครตีส” ได้คิดและพูดว่า “ความตายอาจเป็นพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”!
“โสเครตีส” คิดและเชื่อมั่นเช่นนั้น “นักปรัชญาโลก”จึงเดินอย่างสง่าผ่าเผยเข้าหา “ความดาย” ที่ “ผู้นำกรุงเอเธนส์” หยิบยื่นให้!
“โสเครตีส” มอง “มนุษย์” หนึ่งในสิ่งลึกลับว่า “ความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือมนุษย์”?!
“มนุษย์” มิใช่แค่มี “ร่างกาย” ลึกลับซับซ้อนเท่านั้น แต่ “สมอง” นี่สิ! สำคัญอย่างยิ่ง! เพราะว่า ถ้า “สมองดีมีคุณธรรม” ก็จะทำดีให้กับตัวเอง-ครอบครัว-ชาติและส่วนรวม ฯลฯ แต่หาก “สมองเลว” ก็มักคิด-ทำแต่เรื่องชั่วๆ มิได้หยุดหย่อน เพราะชีวิตติดยึดแค่ “รัก-โลภ-โกรธ-หลง” มีอำนาจในมือก็มุ่งหวังแต่ “โกงชาติ” จนร่ำรวยเงินทองทรัพย์สินอย่างไม่รู้จักพอ ฯลฯ
“เมื่อการอภิปราย(การพูดความจริง)หายไป การใส่ร้ายเป็นเครื่องมือของผู้แพ้”! นั่นเป็นสิ่งที่ “โสเครตีส” เจอไงล่ะ เอ้อ!..การเมืองไทยยุคที่ผ่านมา ก็เป็นเช่นนั้นว่ะ..ฮ่าฮ่าฮ่า..
แต่ “โสเครตีส” ก็ยังคงเชื่อมั่นว่า “ใครก็ตามที่ถือความเห็นที่แท้จริง ในเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ ก็เหมือนคนตาบอดในเส้นทางที่ถูกต้อง”!
ทว่า.. “ผู้คน ”ส่วนใหญ่มักเชื่อ “ผู้มีอำนาจ” ที่ใช้การโฆษณาชวนเชื่อ ทำให้ “หลงผิด” และนั่นจึงทำให้ “โสเครตีส” ต้อง “ดื่มยาพิษ” เด๊ดซะมอเร่เซย์กู๊ดบายในกรุงเอเธนส์!
สำหรับ “มิตรภาพ” เป็น “สิ่งสำคัญยิ่ง” จน “โสเครตีส” ได้ติงเตือนไว้ว่า “อย่าปล่อยให้หญ้าเติบโตบนเส้นทางแห่งมิตรภาพ”
ใช่เลย! “มิตรภาพ” นั้น “หาได้ยากยิ่ง” จึงต้องปกป้องรักษาเสมือน “ไข่ในหิน” โดย “โสเครตีส” พูดถึงคุณค่านี้ไว้ว่า “เพื่อนต้องเป็นเหมือนเงิน ก่อนที่คุณต้องการ คุณจำเป็นต้องรู้คุณค่าของมัน”
อืม.. “เพื่อนดี” สำคัญยิ่งกว่า “เงิน” แน่นอน..จริงไหม?
“โสเครตีส” ระบุสั้นๆ ไว้ว่า “ทุกการกระทำมีความพึงพอใจและราคา” และ “นักปรัชญาคนนี้” ใช้ทั้ง “ความรู้-ความจริง-ความกล้า-ความดี” และ “ความตาย” คืบคลานมาสู่ “ชีวิตโสเครตีส”.. สุดยอดมหาบุรุษจริงๆ..
“โสเครตีส” เสียชีวิตเมื่อ“ อายุ 71 ปี” จากการถูกใส่ร้ายป้ายสีของ “ผู้นำกรุงเอเธนส์”..
ท่ามกลาง “ความตาย” กำลังมาเยี่ยมเยือน “โสเครตีส” กลับมอง “มุมบวก” ถึง “ความโชคดีของตนเอง” ว่า “ถ้าฉันอุทิศตัวเองเพื่อการเมือง ฉันคงตายไปนานแล้ว”?!
ผมนึกถึงคำพูดลึกซึ้งที่ประทับใจยิ่ง ของศาสตราจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “ไชยันต์ ไชยพร” ที่กล่าวถึง “โสเครตีส” ดังนี้..
การตายของนักคิดแต่ละคนก็มีที่โด่งดังบ้าง ไม่ดังบ้าง ที่โด่งดังที่สุดก็คงไม่พ้นการตายของโสกราตีส บางคนถึงกับกล่าวว่า “ถ้าไม่นับการตายของพระเยซูแล้ว การตายของโสกราตีสถือว่า เป็นที่รู้จักและรับรู้กันมากที่สุด”..!?!?!?