xs
xsm
sm
md
lg

ก้าวไม่ไกลถึงเก้าอี้นายกฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"โสภณ องค์การณ์"

 ทราบผลแล้วว่าประเทศไทยยังไม่มีนายกฯ คนใหม่ ผู้ถูกเสนอชื่อมีเพียง 1 เดียวคือหัวหน้าพรรคคนรุ่นใหม่ ซึ่งได้รับการชื่นชมจากชาวบ้านและพวกด้อมด้อยว่า “หล่อจัง” เมื่อไปปรากฏตัวขอบคุณประชาชนสำหรับคะแนนเสียงที่ให้

ยังหล่อไม่พอ หรือไม่มีเสน่ห์มากพอที่จะได้ใจ ส.ส. ส.ว.มากถึง 376 เสียง ยังขาดอีกเยอะ มี สว. ลงคะแนน  “เห็นชอบ” เพียงแค่ 13 เสียงเท่านั้น
เมื่อ “ว่าที่นายกฯ” หวังมาก เมื่อผิดหวัง ต้องเจ็บปวดมาก ต้องทำใจให้ได้ จะเป็นราคาที่ต้องจ่ายแพงตามคำเตือนหรือไม่ รอสถานการณ์กำหนด
ผลการเลือกตั้ง พรรคคนรุ่นใหม่ได้ 151 ส.ส. ในสภาผู้แทน มาอันดับ 1 หรือ 30 เปอร์เซ็นต์กว่า แต่พยายามพูดให้ชาวบ้านคนรู้ไม่ทันเชื่อว่าเป็นฉันทมติของประชาชน
คะแนนได้ไม่ถึง 376 จาก ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งจำเป็นสำหรับการได้เก้าอี้นายกฯ อันที่จริง “ว่าที่นายกฯ” คงรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าไม่ได้เป็นแน่ในการโวตครั้งแรก
เห็นชัดว่า ส.ว. เสียงส่วนใหญ่ “งดออกเสียง” มีบ้างที่ “ไม่เห็นชอบ”
โหวตอีกครั้งในวันที่ 19 กรกฎาคม แทบไม่ต้องหวังอีกแล้ว เว้นแต่จะมีปาฏิหาริย์ หรือใครสามารถสะกดจิตหมู่ให้ทั้งรัฐสภายอมเอ่ยคำ “เห็นชอบ”

 ตลอดเวลาของการอภิปรายคุณสมบัติของผู้นำพรรครุ่นใหม่ ว่าที่นายกฯ มีประเด็นมาตรา 112 ที่เป็นเหมือนตราบาปที่ถอนไม่ขึ้น ไม่ว่า ส.ส. ผู้สนับสนุนจะอธิบายอย่างไร ก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ว่า “ทำไมต้องยุ่งกับมาตรานี้”

มีความอยากในกลุ่มคนด้อมด้อยต้องการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ มากจนชีวิตนี้จะขาดไม่ได้เช่นนั้นหรือ

จะให้เข้าใจว่าพวกสาวกพรรคคนรุ่นใหม่ พวกด้อมด้อย รักเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์จนต้องอยากใช้เวลาวิพากษ์ทุกลมหายใจเข้าออกหรือ

เมื่อคำนึงถึงพฤติกรรมของพวกที่ไม่เคารพ ไม่สำนึกถึงพระคุณบิดา มารดา ญาติผู้อาวุโส ครูบาอาจารย์ กล่าวจ้วงจาบหยาบช้าต่อสถาบัน แล้วจะให้เชื่อว่าพวกด้อมด้อย สาวกพรรคคนรุ่นใหม่จะให้ความเคารพนับถือใครอีกหรือ

แผ่นดินเกิดยังไม่เคารพ สำนึกบุญคุณ อยากแบ่งแยกดินแดน อยากเปลี่ยนวันชาติใหม่ สารพัดอยากจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง จะให้คนทั่วไปไว้ใจได้อย่างไร
 การโหวตว่าจะ “เห็นชอบ” หรือ “ไม่เห็นชอบ” กับผู้อยากเป็นนายกฯ ขึ้นอยู่กับพวกใครพวกมันในกลุ่มพรรคการเมือง วุฒิสมาชิกส่วนใหญ่งดออกเสียง

 มีวุฒิสมาชิกหลายรายที่บอก “ไม่เห็นชอบ” แสดงจุดยืนชัดเจน ตามคำอภิปราย ฝ่าย “เห็นชอบ” ในพวก ส.ส. ในกลุ่ม 8 พรรค MOU ก็ว่าตามมติพรรค

ช่วงการอภิปราย ส.ส. พรรคคนรุ่นใหม่พยายามอย่างหนักที่จะย้ำคำพูดเหมือนกับว่าพรรคของตนเองนั้นเป็นองค์กรที่ประเทศไทยจะขาดเสียมิได้

ทั้งยังบอกว่าพรรคคนรุ่นใหม่จะนำการเมือง บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ เหมือนกันว่าพรรคอื่นๆ องค์กรการเมืองอื่นๆ เป็นพวก “ไม่ปกติ”

ยังดีที่ไม่ประกาศว่าพรรคคนรุ่นใหม่ล้วนเป็นเทวดามาเกิดเพื่อให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีกินดี ทุกข์ทั้งมวลจะโดนขจัดปัดเป่า

เห็นได้ชัดว่าสมาชิกพรรคคนรุ่นใหม่มีความทระนง เชื่อมั่นในตัวเองสูง ออกแนวยโสโอหัง ยอมหักไม่ยอมงอ ไม่อ่อนข้อเรื่องมาตรา 112

ส.ส. หญิงคนรุ่นใหม่ ห้าวเปรี้ยวบางรายพูดคะขา ดูเป็นเรื่องลำบาก

คำอ้าง “ประชาธิปไตย มีเสียงข้างมาก ฉันทานุมัติ อย่าฝืนอำนาจประชาชน” ผสมคำขู่ว่าจะมีการลุกฮือ ประชาชน 14 ล้านคนไม่พอใจ ยกตนข่มท่านตลอด
ความเป็นจริง พรรคคนรุ่นใหม่มีเพียง 151 ในสภาที่มีสมาชิก 500 นั่นคือ 349 ส.ส. ถูกเลือกมาจากประชาชนที่ไม่เอาพรรคคนรุ่นใหม่ ความจำเป็นที่ 8 พรรคอยู่ด้วยกันเพราะได้เป็นฝ่ายค้านร่วมกันมาก่อน จึงต้องเป็นพันธมิตรภาคบังคับ

 หัวหน้าพรรคเพื่อไทย “หมอชลน่าน” ยังยอมรับว่าเป็นเหมือนการแต่งงานแบบ “คลุมถุงชน” สร้างความเฮฮาให้พรรคพวกที่รู้ว่าที่แท้ MOU เป็นการเสแสร้ง

แล้วจะมาตีขลุมอ้างว่าได้เสียงข้างมากได้อย่างไร ยังมีความจริงที่ว่าใน 312 เสียงของ 8 พรรคนั้น อีก 7 พรรคมีเสียงรวมกันแล้วมากกว่าพรรคคนรุ่นใหม่

แต่พรรคนายห้างดูไบไม่เอะอะโวยวาย ยอมให้พรรคคนรุ่นใหม่ดิ้นไปให้สุดฤทธิ จนถึงวันตัดสินว่าคนอยากเป็นนายกฯ นั้นจะได้เป็นนายกฯ สมอยากหรือไม่

ที่ผ่านมาอยู่ในโลกเสมือนจริง ตื่นมามีความสุขกับฝันเปียก จากนั้นเผชิญความเป็นจริงที่โหดร้าย เจ็บปวดกว่าการฝันร้าย ต้องใช้ยาสมานใจยิ่งกว่าน้ำใบบัวบก
การอภิปรายไม่ได้เจาะจงคุณสมบัติ ความเหมาะสมของคนอยากเป็นนายกฯ พฤติกรรมที่ผ่านมา ความสำเร็จในชีวิต ตลอดเวลาที่แสดงวิสัยทัศน์นั้นยกก้นตัวเอง

 เมื่อถึงคิว คนอยากเป็นนายกฯ ยืนประกาศอย่างมั่นใจสุดๆ ว่า “เห็นชอบ” กับการที่ตัวเองจะเป็นนายกรัฐมนตรี น่าเห็นใจเพราะอยากจะไปแสดงวิสัยทัศน์ต่างประเทศ ที่หมายมั่นปั้นมืออย่างแรงคือเป็นตัวแทนไปประชุมสหประชาชาติ

คำก็อ้างว่ามี “วิสัยทัศน์” อย่างนั้นอย่างนี้ การศึกษาก็สุดยอด แต่ทำไมจึงไม่สามารถพูดจาโน้มน้าวให้เสียงข้างมากในรัฐสภาเห็นด้วยว่าสมควรเป็นผู้นำประเทศ
มีปมปัญหา ความน่าสงสัยในประเด็นคุณสมบัติ ธาตุแท้ ความซื่อตรง คุณธรรม ความเป็นคนดี รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี ความสุจริต ใช่หรือไม่
ที่สำคัญ เป็นตัวของตัวเองแค่ไหน ต้องฟังเสียง 2 ศาสดาด้อมด้อยหรือไม่ ที่ผ่านมาการไปประชุมกับพรรคร่วมมักจะมี 2-3 ศาสดาต้องห้ามทางการเมืองไปร่วม
จากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น จะมีม็อบด้อมด้อยอาละวาดทะลุถนน สร้างปัญหาปั่นป่วนในบ้านเมืองหรือไม่ ด้วยความไม่พอใจที่คนอยากเป็นนายกฯ ต้องผิดหวัง

 วันนี้ ยังไม่มีนายกฯ คนใหม่ “ลุงตู่” ยังอยู่ รอวันโหวตครั้งต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น