มาตาลดาแห่งการเติมเต็ม

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

ผมเพิ่งได้ชมมาตาลดา หลังจากได้ยินคนชื่นชมละครเรื่องนี้กันมากมาย เมื่อได้ชมจึงเข้าใจได้ว่าทำไมมาตาลดาถึงได้รับคำชมมากขนาดนั้น

มาตาลดา เป็นเรื่องของครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ คือมาตาลดาที่เกิดจากพ่อเกริกพลซึ่งทำอาชีพนางโชว์ที่พัทยา

มาตาลดาเกิดมาท่ามกลางนางโชว์พัทยาเป็นคนเลี้ยงดู ชีวิตของมาตาลดาเป็นชีวิตที่ต้องเผชิญกับการถูกบูลลี่เรื่องพ่อเป็นกระเทยและไม่มีแม่ตัวจริงเลี้ยงดูให้เติบโตมา แต่มาตาลดาก็มีแม่ๆ นางโชว์ในผับที่ช่วยกันเลี้ยงดูมาตาลดามาจนโตเป็นสาว ด้วยพื้นภูมิหลังที่ขาดวิ่นไป อีกทั้งอากงคือพ่อของเกริกพลก็ตัดขาดความเป็นพ่อลูกและความเป็นหลานกับทั้งเกริกพลและมาตาลดา

แต่พ่อเกรซหรือเกริกพลก็ตั้งใจเลี้ยงดูลูกในเติบโตมาเต็มเปี่ยมด้วยความรักและความสุข ให้อิสระเสรีและให้ความรักอย่างเต็มที่อีกทั้งให้มีความเมตตาอ่อนโยนใจดีกับทุกคนด้วยจิตใจอันใสบริสุทธิ์

มาตาลดาเติบโตมาด้วยต้นทุนทางจิตใจ (Psychological capital) ที่เข้มแข็ง มีความหวัง มีความสามารถในการฟื้นฟูจิตใจ (Resiliency) มองโลกในแง่ดี (optimism) และเชื่อในความสามารถของตนเอง (Self-efficacy)

เมื่อมาตาลดาเจอกับเรื่องไม่ว่าดีหรือร้ายหรือการถูกกระทำหรือแม้แต่การถูกทำร้ายจิตใจ โครงสร้างและต้นทุนทางจิตใจของมาตาลดาก็เข้มแข็งพอที่จะยิ้มสู้ มองโลกในแง่ดี มีความหวัง และพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่อีกได้เสมอ ความเข้มแข็งและต้นทุนทางจิตใจของมาตาลดานี้เผื่้อแผ่ไปถึงคนรอบตัว โดยเฉพาะชายหนุ่มที่เข้ามาเกี่ยวพันกับเธออย่างปุริม

ปุริม เป็นชายหนุ่มที่เกิดมาในครอบครัวที่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก ฐานะดี มีหน้ามีตาในสังคม ปุริมถูกเลี้ยงดูมาอย่างเข้มงวดโดยพ่อ โดยไม่ปล่อยให้ปุริมได้มีอิสระเสรีภาพที่จะเลือกอะไรของตัวเองได้เลย แม้ดูเหมือนว่าจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แต่ภายในจิตใจของปุริมกลับว่างเปล่า และปุริมก็เป็นคนที่เฉยชา ยิ้มยาก และสร้างเกราะป้องกันตัวเองไว้สูงมาก จนยากที่ใครจะเข้าไปใกล้ ปุริมเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก และเป็นตัวของตัวเองสูงเพื่อเป็นเกราะป้องกันตนเองไม่ให้ใครเข้ามาเห็นความว่างเปล่าในจิตใจที่ปราศจากเสรีของตนเอง

มาตาลดาก้าวเข้ามาในชีวิตของปุริม ที่พล็อตของเรื่องดูจะเป็นซีรี่ส์เกาหลีมากไปสักหน่อย คือย้ายบ้านมาใกล้กันแล้วไปบังเอิญเจอกันเพราะเทขยะ ความสมจริงตรงนี้อาจจะน้อยไปสักหน่อย แต่ก็ทำให้ละครดูสนุกถ้าหากไม่ต้องคิดอะไรมาก

มาตาลดาได้เข้ามาเติมเต็มความว่างเปล่าในจิตใจของปุริมได้อย่างพอดิบพอดีจนเกิดเป็นความรักของตัวละคร มาตาลดานอกจากจะเป็นมาตาลดาแห่งการเติมเต็มแล้ว มาตาลดายังเผื่อแผ่พลังบวกอันเกิดจากต้นทุนทางจิตใจที่เข้มแข็งให้กับคนรอบข้าง และแน่นอนว่าพลังบวกเหล่านั้นจากมาตาลดาได้เผื่อแผ่ไปให้คนดูด้วย

มาตาลดาไม่ได้เป็นละครที่เพียงดูสนุก แต่ให้พลังบวกและพลังต้นทุนทางจิตใจให้กับคนดูเป็นการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในสังคม มาตาลดาไม่ใช่ละคร feel good แต่ให้แง่คิดที่อาจจะทำให้คนดูได้เปลี่ยนโลกทัศน์และเติมเต็มบางสิ่งที่เราอาจจะขาดหายไปหรือแล้งไร้ในชีวิตจริง แต่การเติมเต็มดังกล่าวไม่ได้เป็นการเติมเต็มแบบเพ้อฝันหรือแบบเพ้อเจ้อ หากเป็นการเติมเต็มที่สมจริงและทำให้เราได้ฟื้นจิตใจที่อาจจะบาดเจ็บหรือบอบช้ำจากเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตที่โชคชะตาและการกระทำของแต่ละบุคคลอาจจะส่งผลกระทบต่อกันและกันในทางที่ไม่พึงปรารถนา

แม้แต่พ่อเกริกพลเองก็ได้พลังบวกและพลังแห่งการเติมเต็มจากมาตาลดาผู้เป็นลูกที่พยายามทำหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์อันร้าวฉานในครอบครัวให้กลับมาคืนดีดังเดิม พลังบวกเหล่านี้เป็นพลังแห่งความรักและความปรารถนาดีต่อกันและกันกอปรด้วยความเมตตา อันทำให้โลกสดใสและน่าอยู่มากขึ้น

เราย่อมหวังจะได้เห็นคนอย่างมาตาลดามากขึ้นในชีวิตประจำวันของเราที่จะช่วยเติมเต็มให้เราทุกคนมีความสุุขมากขึ้น ยิ้มสู้ได้มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าการดูละครมาตาลดาเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้เรายิ้มได้ชั่วคราวจากพลังบวกที่ส่งมา แต่ครอบครัวและสังคมจะถูกเติมเต็มและยิ้มให้กันด้วยความสุขมากขึ้นถ้าหากเราทุกคนช่วยกันเป็นมาตาลดาหรือมารดาของดอกไม้แห่งการเติมเต็มให้แก่กันและกันในชีวิตจริง

ขอชมเชยละครดีๆ เรื่องนี้ และอยากให้สังคมได้เรียนรู้จากมาตาลดาแห่งการเติมเต็ม