ศึกหักดิบในเกมเดิมพันสูงที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่เหมาะสำหรับพวกอยู่ในโลกเสมือนจริง จินตนาการบรรเจิด พวกขวัญอ่อน หรือพวกเห็นเลือดแล้วหน้ามืดจะเป็นลม
เป็นวันของการเชือดเฉือน ฝรั่งเรียกว่า The day of long knives
หลังจากสงวนท่าที มากมารยาทแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน พูดจาแบบถนอมน้ำใจ บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น ตามภาษา “เอ็มโอยู” MOU ลงนามในบรรยากาศโลกสวย
คอการเมืองยังจำได้หลังรู้ผลเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม หัวหน้าพรรคคนรุ่นใหม่ราศีจับเจิดจ้า “ว่าที่นายกฯ พิธา” เสียงแซ่ซ้องกระหึ่ม ทั้งที่ยังช็อกกับความสำเร็จ
ใครจะนึกว่า นอกจากไม่ใช่ “วันมามาก” ของพรรคนายห้างดูไบ พรรคคนรุ่นใหม่ยังสร้างประวัติการณ์ถล่มทลาย แม้แต่หัวหน้าพรรคยังเก็บอาการไม่อยู่
“เราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ตามเสียงที่เราได้อันดับ 1 ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรี” จากนั้นความคึกคักนำไปสู่ความเหิมเกริม ยโสโอหังลำพองเต็มบ้อง
พวก ส.ว.ผู้เฒ่าตกยุคจะต้องหลีกทางให้คนรุ่นใหม่ เจียมกะลาหัว...นั่นเป็นคำประกาศว่าคนรุ่นใหม่จะครองเมือง จากนั้นเริ่มป่าวร้องนโยบายพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน
ประชาชนไม่อยู่ในสายตา เป็นเพียงผู้ให้คะแนนเสียงด้วย “ฉันทามติ” ที่ไม่เป็นจริง ความเหิมเกริมด้วยนโยบาย ความเชื่อมั่นอั้นไม่อยู่ หัวหน้าจัดทีมเปลี่ยนผ่าน
เอาอย่างการเมืองสไตล์มะกัน พร้อมให้เห็นผลงาน 100 วันแรก คำคุยฟุ้ง
หลายวันผ่านไป เมื่อฝุ่นเริ่มหายตลบ มีเสียงเตือน “ว่าที่นายกฯ” ว่าฝันได้ แต่จะให้ฝันเป็นจริงนั้นยาก และต้องระวังพรรคนายห้างดูไบให้จงหนัก
เห็นชัดแล้วว่าการลงนาม “เอ็มโอยู” นั้น นอกจากซ่อนเขี้ยวยาวแล้ว ยังพยายามซ่อนดาบในรอยยิ้ม มีแต่พวกเขี้ยวยาวด้วยกันเท่านั้นที่อ่านเกมทัน
พรรคละอ่อนต่อนแต่นยังไม่ประสา นึกว่าการมาอันดับ 1 นั้นทุกฝ่ายต้องยอมรับ ลืมไปว่า 151 เสียงนั้นเป็นเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำอะไรเองไม่ได้
พรรคนายห้างดูไบพยายามส่งสัญญาณเตือน กระแอมไอแล้ว ส่งเสียงดัง ตะโกนแล้วว่า “ต่างกันเพียง 10 เสียง” จะกินรวบได้อย่างไร มีใครที่ไหนยอมกันง่ายๆ
การเลือกตั้งเป็นเพียงผลของเกมแรกในศึกชิงอำนาจ พรรคคนรุ่นใหม่ประกาศชัยชนะรวดเร็วเกินไป จนลืมคิดไปว่ายังไม่มีผลตัดสินว่าใครเป็นผู้แพ้ในที่สุด
การเมืองเป็นเกมชิงอำนาจเพื่อผลประโยชน์ ไม่ใช่งานตั้งมูลนิธิเพื่อการกุศลช่วยเหลือผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส มาถึงการเจรจาเกือบนัดสุดท้ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้ง 8 พรรคร่วมรัฐบาลในโลกเสมือนจริงต่างรู้ว่า ไม่มีวันตกลงกันได้ แต่ยังฝืนยิ้มแห้งๆ
เก้าอี้ประธานสภาฯ เป็นเดิมพันแรกที่ต้องหักกันวันที่ 4 ถ้ามีการประชุม วันแห่งการกวัดแกว่งดาบมาประหัตประหารกัน จะได้เห็นว่าไม่มีมิตรแท้ใน “เอ็มโอยู”
ถ้าพรรคคนรุ่นใหม่ไม่ได้เก้าอี้ประธานสภาฯ ไม่ต้องเดาก็ได้ว่า “ว่าที่นายกฯ พิธา” ต้องเปลี่ยนเป็น “ว่าที่หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน” ขุดขาวตัดไว้ได้ใช้แน่
แต่ไม่ใช่ตำแหน่งผู้นำรัฐบาล จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านอีกรอบ นานเท่าไหร่ขึ้นอยู่ว่ารัฐบาลใหม่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ จะมีม็อบด้อมส้มประท้วงเกิดความวุ่นวายหรือไม่
อย่าเพิ่งสลับฉากให้เห็นภาพยืนยันว่า “ลุงต่ออยู่ต่อ” ด้วยสถานการณ์เป็นใจ
การเมืองมีทั้งสมหวัง ผิดหวัง เหมือนการลงทุน มีทั้งโอกาสทำกำไร ถ้าวางแผนพลาดก็ขาดทุน ถ้าไปไม่ไหวอาจถึงขั้นล้มละลาย เหมือนบริษัทของ “ว่าที่นายกฯ”
จะเห็นได้ว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” ไม่มีจริง เป็นเพียงคำอ้างเพื่อให้ตัวเองดูดี สูงส่ง เมื่อถึงเวลาที่ต้องแย่งชิงเดิมพันเพื่อผลประโยชน์ ไม่มีคำว่า “เล่นกับแบบแฟร์ๆ”
พรรคคนรุ่นใหม่จึงไม่ต่างจากจิ้งหรีดหนุ่มที่โดนปั่นหัวในเพ้อฝันว่าพรรคนายห้างดูไบเป็นผู้เสียสละ เล่นตามเกม ถ้าไม่หลงตัวเอง ลำพองในอำนาจ ยโสโอหังเกินไปน่าจะรู้ตัวว่าโลกเสมือนจริงไม่มีวันกลายเป็นจริงได้ หลอกตัวเองได้
ยิ่งเป็นพวกไม่มีจิตสำนึกถึงความเป็นชาติ ประวัติศาสตร์ ธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่สัมมาคารวะต่อผู้อาวุโส พูดจาถากถางพวกหัวหงอกหัวดำ ก็ยิ่งไปไม่รอด
เมื่อตัวเองไม่เคารพผู้อื่น แม้แต่บิดามารดา ญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง แล้วจะมีความเคารพให้ใคร ไปข่มขู่คุกคาม ส.ว.ทำเหมือนพวกนั้นเป็นทาสขี้ข้าในเรือนเบี้ย
คำเตือนคนรุ่นเก่าบอกไว้เสมอว่า “ขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่าขิงอ่อน” ขวัญใจของพวกเด็กเจี๊ยวด้อมส้ม ไร้ประสบการณ์ชีวิตเพียงพอ ต้องได้รับบทเรียนราคาแพง
ผู้อาวุโสในพรรคคนรุ่นใหม่ มีทั้งอดีตนายตำรวจ ทหาร ข้าราชการ ยังไม่ได้รับการเคารพอย่างที่ควรจะเป็น ถูกจัดอยู่ในพวกหัวหงอกหัวดำ ต้องเจียมกะลาหัวด้วย
เชื่อมั่นในตัวเองสูง ผยองอยากลดอำนาจสถาบันกษัตริย์ เปลี่ยนวันชาติ คิดแนวทางแบ่งแยกดินแดน สร้างความแตกแยกชาติพันธุ์ในแผ่นดินไทย มีนโยบายสร้างผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ จึงเป็นพฤติกรรมที่ถูกต้านด้วยอำนาจ
อำนาจที่ตัวเองยังไม่มี ดันทุรัง ดิ้นรนไปหาญกล้าท้าชนกับอำนาจสารพัด ทั้งอำนาจกฎหมายและอำนาจแฝงเร้นในองค์กรต่างๆ จึงต้องเป็นเหยื่อพวกเขี้ยวยาว
คนจีนโบราณว่า “ไม่มีใครพ่ายแพ้ จนกว่าความพ่ายแพ้จะถูกยอมรับว่าเป็นความจริง” วันนี้ก็ยังไม่มีใครพ่ายแพ้อย่างเป็นทางการ เป็นเพียงแค่เค้าลางให้เห็น
เก้าอี้ประธานสภาฯ เป็นเกมแรก ยังมีเก้าอี้นายกฯ เดิมพันสูงสุด วันตัดสินจะมาช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับว่าจะมีเหตุร้ายวุ่นวาย “ทะลุถนน” ของพวกเด็กเจี๊ยวหรือไม่
ถ้ามีเหตุไม่สงบ จะเป็นเกมยาว “ลุงตู่” จะอยู่ต่อโดยไม่รีบร้อนจะจากไป นักเลือกตั้งจะมีโอกาสได้เลือกตั้งใหม่หรือไม่ มีใครต้องไปอยู่ต่างแดนมั้ย น่ารอชม