xs
xsm
sm
md
lg

“ตร.ชลบุรี” รวบแก๊งลักลอบขน “ตีนไก่” ส่งออกล๊อตใหญ่ แฉ “บิ๊ก ขรก.” รู้เห็นขบวนการสวมสิทธิ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ตร.ชลบุรี” จับกุมแก๊งลักลอบขน “ตีนไก่” ลงเรือข้ามประเทศกว่า 2.4 หมื่น กก. พิรุธใบนำส่งระบุ รง.ผลิต-ผู้ส่งออก ไม่ตรงกัน เชื่อเป็นแก๊งสวมสิทธิ์ส่งออกไก่ไปจีน ที่มี “บิ๊ก ขรก.” รู้เห็นด้วย วอน ตร.ลากไส้ตรงไปตรงมา หลังทำความเสียหายเกษตร-ศก.วงกว้าง

วันนี้ (25 มิ.ย.66) พ.ต.ท.ราชภิภพ ขุมทรัพย์ รองผู้กำกับการ (สืบสวนสอบสวน) ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.66 ตำรวจภูธร จ.ชลบุรี พร้อมด้วยตำรวจทางหลวง 2, ปศุสัตว์ จ.ชลบุรี และนายสัตวแพทย์หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ร่วมกันเปิดตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกชิ้นส่วนไก่แช่แข็งบนรถบรรทุกพ่วง ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียนส่วนหัว 70-1823 พิจิตร แลัหมายเลขทะเบียนส่วนหาง 70-9242 นนทบุรี หลังทำการจับกุมได้บริเวณถนนสายบายพาสขาเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.30 น.ของวันที่ 24 มิ.ย.66 และสามารถควบคุมตัว นายวีระพงษ์ ใจก่ำ อายุ 32 ปี คนขับรถไว้ทำการสอบสวน โดยสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภ.จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนขาไก่แช่แข็งผ่านเส้นทาง จ.ชลบุรี เพื่อไปยังจุดหมายคือ ท่าเรือแหลมฉบัง เจ้าหน้าที่จึงทำการติดตามจับกุมรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าว


พ.ต.ท.ราชภิภพ กล่าวต่อว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตัดสลักประตูตู้คอนเทนเนอร์แช่แข็ง พบด้านในเป็นกล่องกระดาษเรียงราย ติดสลากข้างกล่อง รายละเอียดระบุข้อความ EST 10 BETTER FOODS CO.,LTD น้ำหนักสุทธิ 12 กิโลกรัม เปิดกล่องกระดาษด้านในพบขาไก่แช่แข็ง 6 ถุง และจากการตรวจสอบเอกสารที่คนขับรถมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบด้วย ใบ ร.3 เอกสารที่ใช้ในเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ เบื้องต้นพบว่าเอกสารที่นำมาแสดงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยในเอกสารที่นำมาแสดงระบุว่าทำการขนย้ายชิ้นส่วนไก่ดิบแช่แข็ง จำนวน 2.4 หมื่นกิโลกรัม ต้นทางขนย้ายจาก จ.นครสวรรค์ ปลายทาง จ.สมุทรสาคร แต่ขณะจับกุมกลับพบว่าออกนอกเส้นทางที่ระบุในเอกสาร โดยมุ่งหน้าไปยังท่าเรือแหลมฉบัง อ.เมือง จ.ชลบุรี นอกจากนี้ยังพบว่าสินค้ามาจากบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ใบขนส่งสินค้า สำแดงและสลากสินค้ากลับเป็นของบริษัทแปรรูปผลผลิตการเกษตรชื่อดังแห่งหนึ่ง

พ.ต.ท.ราชภิภพ เปิดเผยด้วยว่า นายวีระพงษ์ คนขับรถ ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างให้ไปรับไก่จาก อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อนำไปส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเจ้าตัวไม่ทราบว่า ทางผู้ว่าจ้างได้ทำเรื่องขออนุญาตหน่วยงานต่าง ๆ อย่างถูกต้องหรือไม่ ผู้ว่าจ้างให้มาเพียงแต่เอกสารที่ใช้ขนย้ายซากสัตว์กับเอกสารที่ใช้นำสินค้าไปส่งให้ท่าเรือแหลมฉบัง โดยไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดในเอกสาร เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรที่ผิดพลาด หรือผิดกฎหมาย

นายจิรภัทร อินทร์สุข นายสัตวแพทย์หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ชลบุรี กล่าวเสริมว่า เบื้องต้น พบว่าเป็นการจับกุมซึ่งหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สส.ภจว.ชลบุรี ต้องแจ้งข้อกล่าวหาตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์ มาตรา 22 ในส่วนของใบอนุญาตต่าง ๆ จะได้ทำการตรวจสอบเอกสารว่ามีการนำมาแสดงครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็จะได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

รายงานข่าวจากวงการส่งออกชิ้นส่วนไก่ไปต่างประเทศระบุว่า การจับกุมครั้งนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสวมสิทธิ์โควตาเพื่อส่งออกชิ้นส่วนไก่ไปยังประเทศจีน รวมทั้งทั้งก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งมีข่าวว่า มีการโกงเงินชาวจีน ซื้อขายสินค้าขาไก่ไปประเทศจีน โดยจากตรวจสอบพบว่า ใบอนุญาตให้ย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ (ใบ ร.3) ที่สำแดงต่อเจ้าหน้าที่ เป็นสินค้ามาจากบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ แต่ในใบขนส่งกลับปรากฎชื่อบริษัทอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตร โดยคนขับรถระบุว่า ไปรับสินค้ามาจา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ไม่ได้มาจาก จ.นครสวรรค์ โดยเชื่อว่า มีข้าราชการระดับสูงรู้เห็นกับขบวนการนี้ แล้วใช้วิธีสั่งให้ออกเอกสาร เช่น ใบอนุญาตนําสัตว์หรือซากสัตว์ออกนอกราชอาณาจักร (ร.9) หรือแอบดูล๊อตผลิตที่เหลือของบริษัทต่างๆเพื่อนำมาพิมพ์เป็นสติกเกอร์แปะสินค้าของบริษัทยักษ์ใหญ่เพื่อทำการส่งออก


แหล่งข่าวในวงการส่งออกชิ้นส่วนไก่ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ อธิการบดีกรมปศุสัตว์ เคยยืนยันว่าไม่มีการสวมสิทธิ์ในการส่งออก เมื่อมีการจับกุมผู้กระผิดก็ต้องถามว่า เอกสารใบอนุญาตต่างๆ ออกมาได้อย่างไร ซึ่งอาจจะมีข้าราชการระดับสูง ที่เป็นผู้อำนวยการเป็นอย่างน้อย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ด่าน เปิดไฟเขียวให้ขบวนการเหล่านี้สามารถลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมายดังกล่าวได้ จึงอยากฝากถึงตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมครั้งนี้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และขยายผลให้ถึงตัวการใหญ่ของขบวนการด้วย เพราะสร้างความเสียหายต่อเกษตรและเศรษฐกิจ อีกทั้งกระทบภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือต่อประเทศไทย

“ทราบว่าขณะนี้ตำรวจที่เกี่ยวข้อง กำลังถูกกดดันอย่างหนัก จากทั้งผู้บังคับบัญชา รวมไปถึงนักการเมืองที่ต้องการให้เรื่องเงียบไป เพราะอาจมีการซักทอดไปถึงข้าราชการระดับสูง ที่เป็นมือทำงานของฝ่ายการเมืองด้วย” แหล่งข่าวในวงการส่งออกชิ้นส่วนไก่ ระบุ


แหล่งข่าวในวงการส่งออกชิ้นส่วนไก่ ให้ข้อมูลด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีคนกลางชาวจีน รวมทั้งรถขนสินค้าเดินทางเข้าออกโรงงานแห่งหนึ่งอย่างผิดสังเกต ทั้งๆที่โรงงานดังกล่าวไม่สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ เนื่องจากไม่มีหมอโรงงานของกรมปศุสัตว์ประจำอยู่ แต่รถขนสินค้าจากโรงงานดังกล่าวสามารถขึ้นสินค้าเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ มาถึงด่านเอกสารต่างๆของด่านแหลมฉบังมีพิรุธอยู่หลายจุด โดยเฉพาะเอกสารต่างๆที่ล้วนแล้วแต่ต้องผ่านขั้นตอนของ กรมปศุสัตว์ ทั้งสิ้น จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลไปถึงขั้นการการออกเอกสารของ กรมปศุสัตว์ ว่า ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยต้องต้องสอบสวนเจ้าที่ของกรมปศุสัตว์ ในส่วนต่างๆเช่น ผอ.กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ และผู้อำนวยการด่านแหลมฉบัง ว่าการออกเอกสารเหล่านี้ทำได้อย่างไร อีกทั้งควรตรวจโรงงานผู้ผลิตว่า ได้รับอนุญาตให้ผลิตสินค้าของโรงงานต่างๆได้หรืออย่างไร แล้วบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ระบุเป็นเจ้าของสินค้านั้นทราบได้อย่างไรว่า บริษัทที่นำมาแอบอ้างนั้นล๊อตผลิตเท่าไร วันผลิตวันไหน

“กรณีนี้ถ้าไม่มีตั๋ววีวีไอพีคงทำได้ หากไม่มีข้าราชการระดับสูงผู้ทรงอิทธิพลร่วมด้วยก็คงหาข้อมูลของบริษัทอื่นมาสวมสิทธิ์เช่นนี้ไม่ได้ ถ้าสืบสวนว่า บริษัทยักษ์ใหญ่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะมีความผิดถูกยึดใบอนุญาตในการส่งออก แต่ถ้าบริษัทยักษ์ใหญ่พิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวข้อง ก็เหลือส่วนข้าราชการที่ต้องสอบสวนว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้าง” แหล่งข่าวในวงการส่งออกชิ้นส่วนไก่ กล่าว.




กำลังโหลดความคิดเห็น