ปิดท้ายสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตไปว่ากันเรื่อง “ความเป็นไปของโลก” กันอีกสักเที่ยว จะเพื่อช่วยให้เกิดการมองเห็น “ป่าทั้งป่า” ไม่ต้องเสียเวลามาพลิกใบไม้ในแต่ละใบ หรือเพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลาออกเรี่ยว-ออกแรง “ping yom” ประเภทต้อง “เถียงคอเป็นเอ็น” กับผู้ที่เห็นต่างไปจาก “ความดันทุรัง” ของตัวเอง อย่างชนิดไม่ไล่-ไม่เลิก ก็แล้วแต่จะว่ากันไป...
คือนอกเหนือจากที่ว่าไปแล้วเมื่อต้นสัปดาห์ ถึงสถานะของ “เงินยูเอสดอลลาร์” ที่ออกอาการ “ใครๆ ก็ไม่รักผม...แม้พัดลมยังส่ายหน้าเลย” หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่กระทั่งประเทศอเมริกาทั้งประเทศ ทั้งที่ยังมีสถานะเป็นมหาอำนาจสูงสุดของโลกใบนี้รวมทั้งบวกกับบรรดาประเทศ “คนเคยรวย” หรือ “ประเทศซีกโลกเหนือ” อย่างพวกจีจ่ง จีเจ็ด อะไรต่อมิอะไรทั้งหลาย แต่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า นับวันน่าจะแห้งเหี่ยว-หัวโต โดดเดี่ยว-โฮมอโลน ต้อง “นั่งปอกกล้วยเปลี่ยวในบ้านร้างตามลำพัง” ยิ่งเข้าไปทุกที...
โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีโอกาสได้อ่านข้อเขียน-บทความชิ้นล่าสุด ของนักวิเคราะห์เรื่องการเงิน-การทองที่มีชื่อมีเสียงจัดอยู่ในระดับ “อินเตอร์” พอสมควร ผู้ที่ใช้นามปากกาซึ่งนำมาจากพระเอกหนังฮอลลีวูดเรื่อง “Fight Club” หรือที่รู้จักกันในนาม “นายTyler Durden” ที่เขียนวิเคราะห์เรื่องเศรษฐกิจ การเมือง การค้า-การขายและการอะไรต่อมิอะไรอีกหลายต่อหลายเรื่อง ในเว็บไซต์ที่ชื่อว่า “Zero Hedge” โดยอาศัยประสบการณ์อันเชี่ยวกรากจากการเคยคลุกคลีอยู่ในวงการค้า-การลงทุนมานานแสนนาน และได้นำเสนอความคิด-ความเห็นเอาไว้ในข้อเขียนเรื่อง “A Multipolar Word Is Emerging” หรือ “โลกหลายขั้วอำนาจกำลังปรากฏให้เห็น” เมื่อช่วงวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา อันเป็นอะไรที่น่าจะ “เถียงไม่ออก” หรือไม่อาจ “ping yom” ใดๆ ได้อีกต่อไป...
คือสรุปโดยคร่าวๆ... “นายTyler” รายที่ว่า ได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ประมาณว่า บรรดา “สื่อตะวันตก” รวมถึงบรรดารัฐบาลแห่งโลกตะวันตกทั้งหลาย ต่างอาศัย “ตรรกะ” ที่ผิดๆ พลาดๆ อันทำให้เกิดการตีปีก กระพือปีก เต้นแร้ง-เต้นกา โดยเฉพาะในครั้งที่บรรดาประเทศกว่า 140 ประเทศ ได้ร่วมกันลงมติ “ประณาม” ประเทศหมีขาวรัสเซียในที่ประชุมสหประชาชาติเมื่อไม่นานมานี้ ในกรณีการบุกยูเครน โดยไม่ได้คิด ไม่ได้ใคร่ครวญ ตรวจสอบ พิจารณาเอาเลยว่า เอาเข้าจริงๆ แล้ว...ในจำนวน 140 กว่าประเทศที่ว่านี้ มีเพียงแค่ 30 ประเทศเท่านั้น ที่ยินยอม พร้อมใจ ร่วมกันรุมเหยียบ รุมกระทืบ หมีขาวรัสเซีย หรือร่วมกระทำการ “แซงชั่นรัสเซีย” ตามการฉุดลากกระชากถูของมหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกา แต่ขณะที่อีก 110 ประเทศนอกจากไม่ได้คิดร่วมไม้-ร่วมมือใดๆ แล้ว ยังพร้อมที่จะคบหา-สมาคมกับรัสเซีย แบบไม่ได้คิดลังเลใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย หรือไม่ได้มีแผนการใดๆ เลยที่จะเลิกคบรัสเซีย แถมยังหันไปร่วมหอ-ลงโรงกับหมีขาวตัวนี้ แบบเต็มอก-เต็มใจ เต็มสูบ-เต็มด้ามซะอีกต่างหาก!!!
อันอาจถือเป็นหลักฐานและข้อพิสูจน์...ว่าบรรดาประชากรโลกในประเทศเหล่านี้ ที่มีจำนวนมากมหาศาลไม่น้อยไปกว่า 6,500 ล้านคนขึ้นไป ยังเห็นว่ารัสเซียคือ “มิตรประเทศ” ไม่ได้คิดจะเอาด้วย ไม่ได้คิดจะเออออ-ห่อหมกกับการรุมเหยียบ รุมกระทืบหมีขาวตัวนี้ อย่างที่คุณพ่ออเมริกาและโลกตะวันตก พยายามยุ พยายามเชียร์ หรืออาจถือเป็นหลักฐานและข้อพิสูจน์ถึง “กระบวนการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬาร” ที่กำลังเกิดขึ้นในโลกที่ได้แปรสภาพไปสู่ความเป็น “โลกหลายขั้วอำนาจ” อย่างเห็นได้ชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที และบรรดาความร่วมไม้-ร่วมมือเหล่านี้ ไม่ได้เป็นไปแบบ “แอบจิต” หรือแบบต้องพยายามปิดๆ-บังๆ เอาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับแสดงให้เห็นอย่างแจ่มแจ้ง เป็นที่ประจักษ์ ในเวทีการประชุมระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการประชุมกลุ่มประเทศ “SCO” (Shanghai Cooperation Organization) เมื่อไม่นานมานี้ การประชุมบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม “BRICS” ที่เมืองเคปทาวน์ในแอฟริกาใต้เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา หรือแม้แต่การประชุม “Shangri-La Dialogue” ที่สิงคโปร์ ที่ทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ต้องลุกขึ้นมาเถียงคอเป็นเอ็นกับตัวแทนของสหภาพยุโรป ในเรื่องแผนสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน จนกลายเป็นข่าวใหญ่-ข่าวโตไปเมื่อวัน-สองวันนี้ก็ตาม...
เรียกว่า...นอกจากประเทศพี่เบิ้มแห่งตะวันออกกลางอย่างราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ “เจ้าชายFaisal bin Farhan bin Abdullah” ท่านจะออกมาแสดงความปลาบปลื้ม ชื่นชม ยินดี ต่อตัวเลขการค้าขายระหว่างซาอุฯ กับประเทศกลุ่ม “BRICS” อันประกอบไปด้วยบราซิล-รัสเซีย-อินเดีย-จีน และแอฟริกาใต้ ที่เพิ่มพรวดๆ พราดๆ จากประมาณ 81,000 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ. 2017 ขึ้นมาเป็น 160,000 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ. 2022 กลางเวทีประชุมกลุ่ม “BRICS” แล้วรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน “นายHossein Amir-Abdollahian” ที่เคยเป็นคู่กัด-คู่อาฆาตกับซาอุฯ แต่ได้หันมาจูบปากซึ่งกันและกันโดยการจับมือ จูงมือ ของคุณพี่จีน จนสามารถกลับไปเป็นอันหนึ่ง-อันเดียวกันกับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน “OPEC” ได้อย่างลงตัว ก็ได้ร่วมแสดงความปลาบปลื้มกับตัวเลขการค้าๆ-ขายๆ กับกลุ่มประเทศ “BRICS” แม้จะอยู่เพียงแค่ประมาณ 30,000 ล้านดอลลาร์ก็ตาม โดยกำลังคิดจะเพิ่ม จะตั้งเป้าให้สูงเกินไปกว่านี้ ในอีกไม่นาน-ไม่ช้า...
ไม่ต่างไปจากเวทีประชุมที่สิงคโปร์...ไม่เพียงแต่เกิดการปะ-ฉะ-ดะ ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ที่หวังจะเห็น “สันติภาพ” อุบัติขึ้นมาในกรณีความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน จนทำให้โลกทั้งโลกรวมทั้งอินโดนีเซียพลอยต้อง “ซวยไปด้วย” กับตัวแทนสหภาพยุโรป อย่าง “นายJosep Borrell” ผู้เคยเปรียบเทียบ อุปมา-อุปไมย เอาไว้ประมาณว่า “โลกตะวันตกคือสวนดอกไม้ ส่วนโลกอื่นๆ ก็คือป่าดงดิบ” อะไรประมาณนั้น แต่โดยสีสัน บรรยากาศ และโดย “ข้อเท็จจริง” จากการประชุมครั้งนี้ถึงกับทำให้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน “นายWang Wenbin” ถึงกับกล้าออกมาป่าวประกาศแบบเสียงดัง ฟังชัด ว่าบรรดาประเทศ “ส่วนใหญ่” ในเอเชีย-แปซิฟิก ต่างไม่เห็นควรด้วย หรือไม่คิดจะเอาด้วยกับ “การตั้งกลุ่มก้อนเพื่อการเผชิญหน้าและการขยายตัวของนาโตเข้ามาสู่ภูมิภาคนี้” โดยอ้างถึงท่าทีที่ปรากฏอยู่ในคำแถลงของชาติต่างๆ เช่น สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น หรือ “ประเทศเอเชีย-แปซิฟิกโดยส่วนใหญ่...ต่างไม่ต้องการไม่ว่าจะสงครามเย็นหรือสงครามร้อน และไม่อยากถูกบีบบังคับให้ต้องเลือกเอาระหว่างจีนหรืออเมริกา”...
หรือพูดง่ายๆ ว่า...สิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ในโลก หวังและต้องการที่จะเห็น ก็คือ “สันติภาพ” การทำมาค้า-ขายระหว่างกันและกันไม่ได้อยากที่จะเห็น “สงคราม” หรืออยากจะเห็นการเผชิญหน้า การคิดจะเล่นงานใครต่อใคร อันเป็นสิ่งที่คุณพ่ออเมริกาและบรรดาชาติพันธมิตรตะวันตก พยายามฉุดกระชากลากถูให้แต่ละประเทศต้องเดินตามความปรารถนา ความต้องการของตัวเอง ด้วยกรรมวิธีต่างๆ นานา ไม่ว่าในทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือการป่าวร้องโฆษณา การยุแยงตะแคงรั่วแบบชนิดไม่ไล่-ไม่เลิก มาโดยตลอด ความพยายามเล่นงาน “มหาอำนาจคู่แข่ง” ไม่ว่าใน “แนวรบยุโรปตะวันออก” อย่างรัสเซีย หรือใน “แนวรบทะเลจีนใต้” อย่างจีนของคุณพ่ออเมริกาก็แล้วแต่ จึงกลายเป็นการ “เดินสวนทาง” กับความปรารถนา ความต้องการของชาวโลกโดยส่วนใหญ่ หรืออย่างน้อยก็กับบรรดาประเทศไม่น้อยไปกว่า 110 ประเทศ ที่มีจำนวนประชากรไม่ต่ำกว่า 6,500 ล้านคนขึ้นไป...
ยิ่งเป็นความพยายามที่จะหาทางเล่นงานคุณพี่จีนในแนวรบทะเลจีนใต้ หลังจาก “กินกันไม่ลง” กับหมีขาวรัสเซียในแนวรบยุโรปตะวันออก จนเกิดอาการ “บ๋อๆ แบ๋ๆ” ไปทั่วทั้งโลกตะวันตก ไม่ว่าทั้งคุณพ่ออเมริกาและประเทศพันธมิตรซีกโลกเหนือ ชนิด “กรอบเป็นข้าวเกรียบเมืองเพชร” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งพวง อะไรต่อมิอะไรมันก็เลยเป็นไปอย่างที่ “นายTyler Durden” แกได้ตั้งข้อสังเกตไว้ในข้อเขียน บทความ ชิ้นล่าสุดนั่นแหละว่า...การหันไปเล่นงานจีนในเอเชีย ขณะที่รัสเซียคือดินแดนที่เต็มไปด้วยทรัพยากรอันสามารถเติมเต็มให้กับความต้องการของจีนได้แบบสบายๆ ย่อมส่งผลให้ “สวนดอกไม้” ของโลกตะวันตก ตามความหมาย คำนิยาม ของ “นายJosep Borrell” มีแต่จะต้องกลายเป็นดินแดนที่แห้งแล้ง แห้งผาก ไม่เหลือดอกไม้ ดอกหนึ่ง ดอกใด สามารถผลิบานต่อไปได้อีกเลย หรือทำให้บรรดาพวก “โลกขั้วอำนาจเดียว” ทั้งหลาย มีแต่ต้องทรุดลงนั่ง “ปอกกล้วยเปลี่ยวในบ้านร้าง” ไปตามลำพังภายใต้ความเป็นไปของโลกที่มิอาจปฏิเสธ “โลกหลายขั้วอำนาจ” ซึ่งกำลังปรากฏตัวให้เห็น ได้อีกต่อไปแล้ว!!!