xs
xsm
sm
md
lg

ยูเครนกับ “สันติภาพชั่วคราว”???

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


Alexander Lukashenko ประธานาธิบดีเบลารุส
เห็นข่าวแวบๆ...ว่าคุณน้าหมีขาวรัสเซียท่านได้เริ่มกระบวนการเคลื่อนย้าย “ขีปนาวุธนิวเคลียร์” เข้าไปติดตั้ง ประจำการ ไว้ ณ พื้นที่ ดินแดน ประเทศพันธมิตรอย่างเบลารุสตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จริง-ไม่จริง คงต้องเช็กข่าวกันดูอีกที แต่ถึงขั้นที่ผู้นำเบลารุส ประธานาธิบดี “Alexander Lukashenko” ออกมาเปิดเผยด้วยตัวเอง เมื่อช่วงวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (25 พ.ค.) ก็น่าจะไม่ใช่เป็นเรื่อง “ล้อเหล้นน์น์น์” ต่อไปอีกแล้ว!!!

ที่น่าคิดสะกิดใจ และน่าตั้งเป็นข้อสังเกตก็คือ...งานนี้ คงไม่ใช่แค่คิดเอาไว้รับมือกับ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างประเทศยูเครนต่อไปอีกแล้ว แต่น่าจะถือเป็นการ “มองข้ามช็อต” เป็นการเตรียมรับมือกับคุณพ่ออเมริกาและนาโต หรือพวก “พรมเช็ดเท้า” ในยุโรปอย่างเป็นเรื่อง-เป็นราวเอาเลยก็ว่าได้ เพราะระดับยูเครนนั้น...แม้จะได้รับการอุปถัมภ์จากคุณพ่ออเมริกา ติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ อย่าง “Patriot” เอาไว้เสร็จสรรพ แต่แค่เจอกับขีปนาวุธระดับ “Kinzhal hypersonic” หรือ “KH-47M2” ของรัสเซียเข้าไปแบบเน้นๆ เนื้อๆ เมื่อช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา (16 พ.ค.) ก็เล่นเอา...ไม่ไหวจะฮา-ไม่ไหวจะหุบ ไม่อาจขจัดปัดป้องขีปนาวุธระดับนี้ได้เลย ถึงขั้นต้องยอมอ้อมๆ แอ้มๆ ยอมรับว่าถูกจรวดไฮเปอร์โซนิคของรัสเซียเล่นงานจนระบบดังกล่าว “เสียหาย” แม้ไม่ถึงกับยอมสารภาพว่าถูก “ทำลาย” ไปแล้วก็ตาม...

อีกทั้งถ้าดูจาก “สมรรถนะ” ในการโจมตี-ตอบโต้...ก็คงปฏิเสธลำบาก เพราะโดยสปีดความเร็วของขีปนาวุธที่มีพิสัยทำการประมาณ 2,000-3,000 กิโลเมตรอย่าง “Kinzhal” นั้น ก็คงไม่น้อยไปกว่า 10 Mach ขึ้นไป (11,925 กม.ต่อชั่วโมง) ขณะที่ระบบป้องกัน คว้าจับ หรือระบบขจัดขีปนาวุธฝ่ายตรงกันข้ามของ “Patriot” (Patriot-interceptors) อาจพอรับมือกับจรวดที่มีความเร็วประมาณ 2.8 Mach (3,340 กม.ต่อชั่วโมง) หรือสูงสุดก็ไม่เกิน 4.1 Mach (5,000 กม.ต่อชั่วโมง) เท่านั้น ยิ่งมาเจอกับขีปนาวุธที่ถูกออกแบบให้ส่ายไป-ส่ายมา (Maneuvering in flight) ด้วยแล้ว ถึงแม้ไม่พังพินาศ ย่อยยับ แต่ก็คงไม่ไหวจะหุบ-ไม่ไหวจะฮา ไม่อาจรับมือ ไม่อาจขจัดปัดป้องการโจมตีด้วยอาวุธชนิดนี้อีกต่อไปได้เลย...

แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ใช่แต่เฉพาะ “Kinzhal” หรือ “Kh-47M2” เท่านั้น บรรดาขีปนาวุธระดับ “ยุทธศาสตร์” หรือจรวดนิวเคลียร์ของรัสเซียที่ร้ายๆ ยิ่งไปกว่านั้น หรือที่กำลังนำไปติดตั้งในเบลารุส ยังมีอยู่อีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่า “RS-28 Smart” หรือจรวดที่ปล่อยจากเรือดำน้ำ (Submarine-launched Bulava) ที่ระดับความเร็วปาเข้าไปถึง 20 Mach (25,500 กม.ต่อชั่วโมง) ไปจนถึง 24 Mach (28,600+ กม.ต่อชั่วโมง)โน่นเลย อีกทั้งยังส่ายไป-ส่ายมา พร้อมที่จะหลบหลีกเรดาร์ หลบหลีกการคว้าจับ การป้องกันทำลาย ได้อย่างชนิดที่ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” ท่านมั่นอก-มั่นใจว่ายากที่จะมีระบบป้องกันใดๆ ในโลกนี้ สามารถที่จะรับมือกับจรวดรัสเซียได้ง่ายๆ และนั่นก็คือแก่นสาระสำคัญของ “สงครามยุคใหม่” ที่เลยไปจากการอาศัยรถถัง เครื่องบินรบ แล่นไป-แล่นมา เหมือนยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อครั้งอดีต อะไรประมาณนั้น...

ยิ่งถ้าหากเป็นขีปนาวุธของคุณพี่จีน อย่างประเภท “DF-41 ICBM”...ยิ่งน่ากลัวยิ่งขึ้นไปใหญ่!!! เห็นว่าเฉพาะสปีดความเร็วปาเข้าไปถึง 25 Mach (30,600 กม.ต่อชั่วโมง) โน่นเลย หรืออาจต้องเรียกว่า “เร็วที่สุดในโลก” นอกเสียจากขีปนาวุธล่าสุดของรัสเซียที่เรียกว่า “Avangard” ที่อาจเลยไปถึง 27 Mach (32,200 กม.ต่อชั่วโมง)หรือไม่? อย่างไร? ก็ยังไม่เป็นที่สรุปชัดเจน แต่เอาเป็นว่า...การเคลื่อนย้ายขีปนาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์เหล่านี้ไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเบลารุส คงไม่ใช่แค่เอาไว้รับมือกับ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างยูเครนอยู่แล้วแน่ๆ แต่ถือเป็นการเตรียมพร้อม เตรียมรับมือกับบรรดาผู้ที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง “สงครามตัวแทน” อย่างคุณพ่ออเมริกาและนาโต อย่างมิพึงต้องสงสัย อันถือเป็นการ “มองข้ามช็อต” ไปจากสมรภูมิยูเครนที่เมื่อมาถึงทุกวันนี้ น่าจะอยู่ในสภาพ “กินกันไม่ลง” อยู่แล้วแน่ๆ เพราะแม้แต่ประธานเสนาธิการทหารอเมริกัน “พลเอกMark Milley” ยังต้องออกมายอมรับว่า “แม้รัสเซียจะไม่ประสบชัยชนะทางทหารในยูเครน แต่เคียฟคงไม่สามารถขับไล่ทหารรัสเซียทั้งหมดภายในเวลาอันใกล้นี้...”

หรือพูดง่ายๆ ว่า...โดยแนวโน้ม โดยฉากสถานการณ์ มันคงไม่ได้ต่างไปจาก “Korean scenario” หรือฉากสถานการณ์ “สงครามเกาหลี” เมื่อช่วงปี ค.ศ. 1950-1953 ที่จะต้องนำไปสู่ “โต๊ะเจรจา” ในปี ค.ศ. 1954 ด้วยการ “หยุดยิง” และการตั้งประจันหน้ากันที่ “เส้นขนานที่ 38” แยกออกเป็น “เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้” มาจวบจนตราบเท่าทุกวันนี้...นั่นแล อันเป็นฉากสถานการณ์ที่สำนักข่าว “Politico” เมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เขาอ้างถึง “แหล่งข่าวระดับสูง” ในรัฐบาลอเมริกันว่ากำลังเป็นประเด็นที่ถูกนำมาพูดคุย ถกเถียงกันในคณะผู้บริหารรัฐบาล “โจ ไบเดน” ว่าอาจต้องตัดสินใจ “แช่แข็ง” ปัญหายูเครนเอาไว้ในแนวนี้ อันเป็นแนวเดียวกันกับที่อดีตประธานาธิบดีและรองเลขาธิการสภาความมั่นคงรัสเซียคนปัจจุบัน “นายDmitry Medvedev” ท่านได้เสนอเอาไว้ก่อนหน้านั้นมานานแล้ว คือในเมื่อต่างฝ่ายต่าง “กินกันไม่ลง” ไม่ว่าจะส่งปืน ส่งจรวด ส่งรถถัง ไปจนส่งเครื่องบินรบ(???) ส่งเงินช่วยเหลือนับแสนๆ ล้านดอลลาร์เข้าไปแล้ว ฯลฯ ก็คงหนีไม่พ้นต้องยอมรับความจริง ข้อเท็จจริง ในสนามรบ คือคงต้องอาศัยแนวเขตแดน ที่มี 4 แคว้น 4 เขตของยูเครนซึ่งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซียไปเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งแหลมไครเมีย เป็นเส้นแบ่งไม่ต่างไปจากเส้นขนานที่ 38 ของเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้นั่นแล ก่อนที่จะ “ตรึงกันไป-ตรึงกันมา” อีกนับเป็นทศวรรษๆ โดยมี “อำนาจต่อรอง” ของทั้งสองฝ่าย เป็นเครื่องค้ำประกัน “สันติภาพ” ไม่ว่าในระยะชั่วครู่-ชั่วคราว หรือในระยะยาว ก็แล้วแต่...

และดูเหมือนว่า...ทางฝ่ายคุณพี่จีน เขาก็ได้ประเมินสถานการณ์ทำนองนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เขาถึงได้ทุ่มทุน ทุ่มเท กับการรับบทเป็น “ตัวกลาง” ในการเจรจาสันติภาพ โดยมีบรรดาประเทศต่างๆ แทบจะทั่วทั้งโลก ไม่ว่าชาติแอฟริกา ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา ฯลฯ ค่อยๆ ทยอยเดินหน้าในการเกลี้ยกล่อม โน้มน้าว ให้เป็นไปในแนวนี้ ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะ “เจ๊ง” จะฉิบหาย-วายวอด ไปเพราะ “สงครามยูเครน” หรือ “สงครามตัวแทน” ที่ยังคง “กินกันไม่ลง” ไปอีกตราบนานเท่านาน โดยเฉพาะเมื่อผู้ที่ทำท่าว่าจะเจ๊งก่อนเป็นอันดับแรก ก็คือคุณพ่ออเมริกาและบรรดาชาติพันธมิตรยุโรป หรือบรรดาพวก “พรมเช็ดเท้า” ทั้งหลายนั่นเอง ที่ยิ่งสู้-ยิ่งกรอบ ยิ่งเจอภาวะเงินเฟ้อ วิกฤตพลังงาน ภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว ระบบเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ทำท่าว่าจะพังทลาย ล่มสลาย หรือ “โตเท่ากับศูนย์” อย่างเช่นประเทศเยอรมนีในทุกวันนี้ ฯลฯ หรืออย่างที่อดีตนักข่าวพูลิตเซอร์ “นายSeymour Hersh” ท่านออกมาปูดข่าว อ้างแหล่งข่าว เอาไว้ในเว็บไซต์ “Substack” เมื่อไม่นานมานี้นั่นแหละว่า กระทั่งประเทศที่เคยออกแรงยุ แรงเชียร์ “ตัวตลก-ตัวแทน” มาโดยตลอด ไม่ว่าจะโปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย ฯลฯ ยังอดรนทนไม่ไหว ต้องหันมา “เร่งเร้าอย่างลับๆ” ให้ผู้นำยูเครน เร่งเจรจากับรัสเซีย ให้รู้แล้ว รู้แรด กันไปซะที ก่อนที่ผู้อพยพหลบลี้หนีภัยชาวยูเครนกว่า 8-9 ล้านคนที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วยุโรป จะกลายเป็น “ภาระ” ของแต่ละประเทศ หนักหน่วงยิ่งไปกว่านี้...

หรือพูดง่ายๆ ว่า...แนวโน้มที่ฉากสถานการณ์ในยูเครน ใกล้จะถึงจุด “ตกผลึก”ในอีกไม่นานนับจากนี้ น่าจะเป็นไปได้สูงยิ่งเข้าไปทุกที เมื่อต่างฝ่ายต่าง “กินกันไม่ลง” จนอาจต้องหาทางยุติ หาทาง “หยุดยิง” หรือ “แช่แข็ง” ทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ก่อนปล่อยให้ฉากต่อไปเป็นการตรึงกันไป-ตรึงกันมา ระหว่างพวก “โลกขั้วอำนาจเดียว” กับ “โลกหลายขั้วอำนาจ” หรือระหว่างมหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกาและพรมเช็ดเท้า กับมหาอำนาจคู่แข่งอย่างจีนและรัสเซียที่ได้สร้างสายใยความร่วมมือระดับที่ไม่ได้มุ่งหวังเพียงแค่ผลประโยชน์ของฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใดเท่านั้น แต่มุ่งที่จะเปลี่ยนโลกทั้งโลกให้พ้นไปจากการครอบงำ ครอบครอง โดยมหาอำนาจฝ่ายเดียวให้จงได้!!! ที่จะต้องออกแรงฟัด-แรงเหวี่ยงไปอีกตราบนานเท่านาน โดยที่ใครจะเป็นฝ่ายชนะหรือแพ้ในขั้นตอนสุดท้าย ก็คงต้องขึ้นอยู่กับ “ประชาคมโลก” หรือบรรดาประเทศต่างๆทั้งหลายในโลกนี้ ว่าจะหันมายืนหยัดเคียงข้างฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใด อย่างเป็นทางการ หรือไม่เป็นทางการ ในแบบไหน? อย่างไร? นั่นเอง...


กำลังโหลดความคิดเห็น