xs
xsm
sm
md
lg

ขออย่าให้มีเหตุเกิดวิกฤติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"โสภณ องค์การณ์"

เหลือเวลาอีกไม่กี่อึดใจ ชาวบ้านจะได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งวันอาทิตย์ 14 นี้ คาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้สิทธิมาก ถ้าไม่มีปัญหาฝนฟ้าคะนองเป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง

ครั้งนี้เป็นศึกหลายมิติ ว่ากันว่าเป็นการประลองพลังระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายประชาธิปไตย เกมชิงอำนาจนี้มีเดิมพันสูง

การเร่งหาเสียงโค้งสุดท้าย จะเป็นโค้งมรณะของบางพรรคที่เข้าโค้งไม่ได้ เกิดอาการเครื่องรวน ผู้สมัครไม่พอใจ ไม่ได้เงินช่วยเหลือ แบบนี้แพ้ตั้งแต่ยังไม่โวต

ผู้สมัคร ส.ส. ยกทีมมาโวยวายถึงพรรคว่าไม่มีการสนับสนุนช่วยเหลือปัจจัยเช่นการทำป้ายหาเสียง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ แสดงว่าถ้าไม่มีปัญหาขาดแคลนจริงคงไม่โวย
แบบนี้น่าจะอนุมานได้ว่า เมื่อรู้ว่าจะแพ้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องส่งเงินช่วย เก็บเงินไว้ซื้องูเห่าภายหลังดีกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้จริงถือว่าเป็นการหลอกให้มาโดนเชือด

พวกที่เข้าพรรค หวังจะได้มีเงินช่วยเหลือตามคำสัญญา กลับไม่ได้อะไร หลังจากที่ลงทุนเอง กู้หนี้ยืมสิน เอาทรัพย์สินไปจำนอง จำนำ ตอนนี้เคว้ง

แถมยังมีคำพูดตอบเชิงแดกดันไม่ง้ออีกด้วย ทุกคนต้องช่วยตัวเองนั่นเลย ทำให้ความช้ำใจกลายเป็นความแค้น ผู้สมัครหลายรายฉีกป้ายทิ้ง ฟ้องชาวบ้านว่าพรรคไม่ใส่ใจ ไม่ต้องเลือก อย่างนี้จะสมน้ำหน้าใครดี ถึงอย่างไร ชาวบ้านก็ไม่เลือกอยู่แล้ว

มี 2-3 พรรคที่โพลชี้ว่าไม่ติดฝุ่น แต่ยังเป็นพรรครักษาการ ก็ยิ่งอยากอยู่ต่อ อย่างไรก็ได้ ขอให้อยู่ในอำนาจ ยังดีกว่าโดนชาวบ้านปฏิเสธ เพราะเห็นว่าดีแต่พูด

การแข่งขันเข้มข้นมากในภาคไต้ ทั้งกระแสผ่านโพลและกระสุน

อันที่จริงลางความพ่ายแพ้ส่อชัดมากกว่า 1 พรรค การหาเสียงออดอ้อนขอคะแนนเริ่มมีบรรยากาศของการกล่าวร้าย ยกตนข่มท่าน เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คู่แข่ง

ได้เห็นการปล่อยวิชามาร ขบวนการเตะตัดขา ทำลายจังหวะคู่แข่ง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของการเมืองน้ำเน่า ไร้ศีลธรรมจรรยาและยางอาย อย่างที่เคยเป็นมา

ครั้งนี้จะมีวิชามารจากใครก็น่าจะรู้กันอยู่ว่า ผลการเลือกตั้งอาจมีปัญหา เช่นไม่สามารถประกาศได้ มีเรื่องร้องเรียนการทุจริตเยอะ เหตุขัดข้องในขั้นตอนต่างๆ ทั้งที่เจตนาและทำให้เกิดตามสถานการณ์ และโอกาสอำนวยให้

ว่าอย่างนี้ไม่ใช่เป็นการตีโพยตีพาย หรือตีปลาหน้าไซ แต่มีสิ่งบอกเหตุเยอะ

ภาพของกลุ่มคนทำกิจกรรม เอาบัตรอะไรมานั่งเขียน การเข้าไปเปิดดูหีบบัตรลงคะแนนจากวันเลือกตั้งล่วงหน้าในสถานที่เก็บในยามวิกาล หีบไม่ล็อคกุญแจ

มีภาพคนหยิบห่อบัตรเลือกตั้งออกจากกล่อง เป็นพฤติกรรมน่าสงสัย

มีแม้กระทั่งเสียงร่ำลือว่าจะมีแผนโกงเลือกตั้ง หรือใช้วิธีการอื่นใดที่จะให้ได้ชัยชนะ ข้อกล่าวหาอย่างนี้พุ่งไปที่กลุ่มผู้กุมอำนาจรัฐที่ต้องการอยู่ต่อ อยากให้มีปัญหา

ถ้ามีเรื่องการทุจริต เพิ่มบัตร เปลี่ยนหีบบัตร จงใจให้เห็นว่ามีการทุจริต จะมีการร้องเรียน ซึ่งถือว่าเข้าทางผู้วางแผน อยากให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

ยุคก่อนมีบัตรผี พลร่ม ไพ่ไฟ ยุคนี้มีบัตรเขย่ง บัตรเสริม บัตรเพิ่มยัดไส้

คนกาเบอร์โกงไม่จำเป็นต้องเขียนเบอร์พรรคคนสั่งการ กาเบอร์คู่แข่ง เป็นการใส่ร้ายป้ายสีไปในตัว ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ยิ่งถ้ามีการร้องเรียน กกต. ว่ามีการโกงจริง แล้ว กกต. ประกาศความรับผิดชอบ ให้เลือกตั้งเป็นโมฆะ หรือลาออก ยิ่งเข้าทาง

แบบนี้จะมีรัฐบาลเดิมรักษาการนานๆ จนกว่าจะหา กกต. ใหม่ จัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะไม่รู้ว่ากี่เดือน กี่ปี ในกระบวนการสรรหา กกต. คนใหม่ อย่างนี้ยุ่งแน่

ถ้าเหตุวุ่นวาย เดินขบวนประท้วง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ยุ่งก็เข้าทางอีก อาจประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อรักษาความสงบ ถ้าเป็นถึงขั้นนั้นก็ขออย่าให้เกิดมิคสัญญี

วันก่อนมีใครหลุดปากพูดแล้วนี่ว่า อย่าให้มีมิคสัญญี ถ้าตัวเองไม่ชนะเลือกตั้ง

เหตุร้ายที่ม็อบเด็กชุมนุมเรียกร้องที่สถานีตำรวจสำราญราษฎร์วันก่อนสะท้อนให้เห็นการไม่ยอม เมื่อไม่ได้ดังใจก็ก่อเหตุพ่นสีใส่อาคาร กำแพง ศาลพระภูมิก็ไม่เว้น

ถ้าเป็นอย่างนี้ มีการยุบพรรคหรือตัดสิทธิขวัญใจของบางพรรค ความวุ่นวายคงเลี่ยงไม่ได้ แทบจะทุกพรรคหลักมีปัญหาคนร้องเรียน เสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติ

กรรมการเลือกตั้งจะทำแบบเลือกที่รัก มักที่ชังไม่ได้ เว้นแต่จะมีคนให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบ เป็นเหตุให้การเลือกตั้งโมฆะ หรือเหตุอื่นใดทำให้ไม่สามารถแจ้งผล นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลได้ อย่างนี้ก็เข้าทางพวกรักษาการ

รักษาการไม่มีกำหนดโดยกฎหมาย จะอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ ถ้ามีมิคสัญญี อย่างที่มีคนเปรยๆ วันก่อน ก็จะสร้างวิกฤติร้ายแรงในประเทศ อารมณ์ของคนร้อนถึงขั้น “ไม่มีใครยอมใคร” อีกแล้ว พร้อมจัดมวลชนปะทะ อะไรจะเกิด ก็ให้เกิด นั่นเลย

ดูแล้วน่าห่วงชะตากรรมของประเทศ ด้วยเหตุของการแย่งชิงกุมอำนาจรัฐ ดูแล้วไม่ว่าหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ฝ่ายใดชนะ หรือเป็นโมฆะ ก็จะวุ่นวาย

เมื่อถึงขั้น “ไม่มีใครยอมใคร” ก็จะเป็นสภาวะ “ไม่มีใครฟังใคร” เช่นกัน

วาดภาพให้เห็นอย่างนี้ ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ กระแส “คนรุ่นใหม่” แรงจัด ยิ่งมีโพลปั่นกระแสความนิยมตัวบุคคลด้วยแล้ว ทำให้เกิดอารมณ์ความคาดหวังสูง

ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนก็ได้เห็นฤทธิ์เดชของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แสดงออกบนท้องถนนแล้วไม่ใช่หรือ มีทั้งการชุมนุมปกติและความรุนแรงที่ดินแดง

ไม่เกิดเหตุอย่างที่ว่ามานี้ ก็แล้วไป ถือว่าเป็นบุญของแผ่นดิน ถ้าเกิดความวุ่นวาย จะไม่มีใครพึ่งพาได้ แม้แต่ผู้รักษากฎหมาย ผู้รักษาความสงบ

 อย่าให้สังคมไทยต้องอยู่ในสภาพ “ตัวใครตัวมัน” ก็แล้วกัน จะเข้าทางชาตินักล่าอาณานิคมยุคใหม่ หาโอกาสแทรกแซง ทุกวันนี้ทูตต่างชาติเริ่มเดินสายจุ้นแล้ว

ทางออกของประเทศยังมีถ้าใช้สติปัญญา ไม่จำเป็นต้องหลงลมปากใคร




กำลังโหลดความคิดเห็น