สงครามยูเครน...จะยุติภายในสิ้นปีนี้???

ท่ามกลางอุณหภูมิอากาศที่ออกจะร้อนระเบิดเถิดเทิง แถม “การเมือง” บ้านเรายังมาร้อนแสนร้อนไม่น้อยไปกว่ากัน โดยไม่ว่าใครแพ้-ใครชนะ ใครแลนด์ไถล-ไม่แลนด์ไถล โอกาสที่จะ “ยุ่งฉิบหาย-ยุ่งตายห่า” ค่อนข้างมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ปิดท้ายสัปดาห์นี้...เลยคงต้องขออนุญาตชวนไปหยิบเอาข่าวคราวประเภทเบิร์ดๆ-สบายๆ หรือข่าวที่พอช่วยให้เกิดความปลอดโปร่งโล่งใจ ความหวัง พลังใจ หรือประเภท “ข่าวดีๆ” ทั้งหลาย ที่ค่อนข้างเป็นอะไรที่หายาก หาเย็น เสียเหลือเกินสำหรับโลกใบนี้หรือบ้านนี้-เมืองนี้ เรียกว่า...พอๆ กับหาหนวดเต่า-เขากระต่าย อะไรประมาณนั้น...

แต่เอาเป็นว่า...เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่แล้ว (7 พ.ค.) คุณทวด “เฮนรี คิสซินเจอร์” อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกัน ยุคท่านประธานาธิบดี “ริชาร์ด นิกสัน” โน่นเลย ที่แม้จะอายุ-อานามปาเข้าไปเกือบร้อย หรือ 99 ปีไปแล้ว แต่ก็ยังคงเฉียบขาด เฉียบคม ไม่ได้ถึงกับเล่นเยี่ยว เล่นขี้ แบบบรรดาคนแก่-คนชราอีกหลายราย เผลอๆ อาจมี “สติ” และ “สัมปชัญญะ” มากซะกว่าคุณปู่ “โจ ซึมเซา” หรือ “Sleepy Joe” ที่คู่แข่ง คู่ชิงประธานาธิบดีในปีหน้า อย่าง “ทรัมป์บ้า” ได้มอบฉายานามให้ใหม่ว่า “Crooked Joe” หรือ “โจ เจ้าเล่ห์” อะไรประมาณนั้น ที่บางครั้ง บางครา ยังออกอาการ “เอ๋อ” อาการ “หลุดกรอบ” ให้เห็นไปเป็นระยะๆ ท่านได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “CBS” ถึงปัญหา “วิกฤตยูเครน” หรือการเข่นฆ่า ล้างผลาญ ระหว่างหมีขาวรัสเซียกับลูกหลานชาวสลาฟด้วยกันเองอย่างชาวยูเครน จนแม้แต่โลกทั้งโลกต้องพลอยร้อนพลอยซวยไปด้วย ในลักษณะไม่ต่างไปจากคำทำนาย การคาดการณ์ พยากรณ์ แบบเดียวกับ “หมอลักษณ์ ฟันธง” บ้านเราเอาเลยก็ว่าได้...

นั่นก็คือ...การสรุปว่าแนวโน้มของสถานการณ์ภายใต้การยึดครอง การตอบโต้-เอาคืนระหว่างสองฝ่าย กำลังใกล้จะเข้าสู่ “จุดเปลี่ยน” ในอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล หรือกำลัง “ใกล้จบ-ใกล้ยุติ” ภายในสิ้นปีนี้เอาเลยก็ไม่แน่!!! และ “กระบวนการเจรจาที่เป็นการเจรจาจริงๆ” ไม่ใช่ถูกสอดแทรก ถูกเตะตัดขา โดยผู้ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่มุ่งจะยุแยง ตะแคงรั่ว ซะเป็นหลัก น่าจะอุบัติขึ้นมาในอีกไม่นาน-ไม่ช้า ทั้งนั้น-ทั้งนี้...ก็ด้วยเหตุเพราะการเข้ามารับบทบาทเป็น “ตัวกลาง” ของพญามังกรจีนนั่นเองนี่...จริง-ไม่จริง เป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ ก็คงต้องคอยจับตากันดูอีกที แต่โดย “เครดิต” ที่สั่งสมมานานของคุณทวด “เฮนรี” รวมทั้งโดยการแสดงออกถึงความพยายามของคุณพี่จีนและอีกหลายๆ ฝ่าย ที่ต่างอยากจะเห็นมุมจบแบบ “แฮปปี้เอ็นดิ้ง” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ยังไงๆ...คงต้องฟังๆ เอาไว้มั่ง ส่วนจะหวัง-ไม่หวังได้มาก-น้อยขนาดไหน คงต้องคอยลุ้นกันอีกที...

เพราะแม้แต่ “โป๊ป” หรือ “พระสันตะปาปา ฟรานซิส” ประมุขสูงสุดแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิก ท่านก็ออกมาเปิดเผยด้วยเช่นกันหลังจากการเดินทางไปเยือนประเทศฮังการีเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ไปพบปะพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี “Viktor Orban” และบิชอปนิกาย “Russia Orthodox” ที่กรุงบูดาเปสต์ รวมทั้งได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรียูเครน “นายDenys Shmyhal” ประมาณว่า “ข้าพเจ้ามีความปรารถนาที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้สำเร็จ โดยได้มีการปฏิบัติการเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณชน แต่เมื่อไหร่ที่ถึงเวลาข้าพเจ้าจะเปิดเผยให้รับรู้ รับทราบ ในรายละเอียด” ไม่ต่างไปจากคุณพี่จีน ที่เคยประสบความสำเร็จในการจูงมือ “คู่กัด-คู่อาฆาต” อย่าง “ซาอุฯ” และ “อิหร่าน” ให้หันมาจูบปากกันจนได้ ที่งานนี้...คงไม่ใช่แค่คิดจะหาแสง หิวแสง แต่เพียงเท่านั้น เพราะโดยอากัปกิริยานับแต่การนำเสนอ “แผนสันติภาพ 12 ข้อ” ของประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” เป็นต้นมา การลงเรี่ยว ลงแรง ทุ่มทุน ทุ่นเท เพื่อที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างมีโอกาสจบลงภายใน “โต๊ะเจรจา” ก็ดูจะเป็นไปอย่างเอางาน-เอาการมิใช่น้อย...

ไม่ว่าการโทรศัพท์สายตรงพูดคุยกับผู้นำยูเครนอย่าง “นายเซเลนสกี้” นานนับชั่วโมงๆ หรือการออกมาป่าวประกาศอย่างเป็นเรื่อง-เป็นราวของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ “นายMao Ning” เมื่อไม่กี่วันก่อน ถึงการแต่งตั้ง “ผู้แทนพิเศษของจีน” อย่าง “นายLi Hui” อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมอสโกและตัวแทนพิเศษของจีนในกิจการยูเรเชีย ให้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจดังกล่าวในประเทศต่างๆ ทั่วทั้งยุโรป รวมทั้งประเทศยูเครน แม้ว่าจะถูกดูเบา ดูแคลน ถูกกล่าวหาโดยพวกนิยมตะวันตก หรือพวกขาเชียร์อเมริกา ว่าเป็นผู้ที่หลงใหลได้ปลื้มกับวัฒนธรรมรัสเซีย ผู้ที่ชอบงานเขียน งานวรรณกรรมของ “Leo Tolstoy” หรือ “Fyodor Dostoevsky” ฯลฯ แถมยังพูดภาษารัสเซียแบบชนิดคล่องเป็นน้ำ จนอาจไม่เหมาะที่จะรับบทเป็น “ตัวกลาง-คนกลาง” แต่อย่างใด แต่ถ้าฟังจาก “น้ำเสียง” นายกรัฐมนตรียูเครนเอง คือ “นายOleg Nikolenko” ที่ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว “NBC” กลับดูจะพร้อมยอมรับ พร้อมเปิดกว้าง ให้กับผู้แทนพิเศษของจีนรายนี้ โดยไม่ได้ตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใดดังคำพูดที่ว่า... “Li Hui เป็นผู้ที่รู้ลึกเกี่ยวกับภูมิภาคของเรา อันจะช่วยให้เขาสามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ-ประสิทธิผลต่อทุกฝ่าย” ...

อีกทั้งถ้าหากนำเอาสายสัมพันธ์ระหว่างจีน-ยูเครน ที่ถูกถักทอ บูรณาการกันมานานแสนนาน ไม่ใช่แค่วันนี้-วันพรุ่งนี้ คงต้องยอมรับว่า อาณาบริเวณพื้นที่-ดินแดนของยูเครนนั้น ถือเป็น “เป้าหมาย” สำคัญของอภิมหาโครงการ “Belt and Road” หรือ “BRI” ที่ฝ่ายจีนเขาพยายามลอดเลื้อย โอบกระหวัดรัดพันและฝังรากลึกมาตั้งแต่ต้น ไม่ใช่แค่ในยุค “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่าง “นายเซเลนสกี้” แต่เพียงเท่านั้น จนทำให้จีนกลายสภาพเป็น “คู่ค้า” รายใหญ่ที่สุดของยูเครนมาโดยตลอด การคิดจะเล่นบทเป็น “ตัวกลาง-คนกลาง” ของจีน จึงไม่ได้ออกไปทาง “จับเสือมือเปล่า” อยู่แล้วแน่ๆ แถมช่วงหลังๆ มานี้...บรรดาเสียงเรียกร้องของชาวยูเครนเอง ที่อยากจะให้รัฐบาลกลับไป “นั่งโต๊ะเจรจา” กับรัสเซียให้รู้ดำ รู้แดง รู้แล้ว รู้แรด นับวันจะมีแต่เพิ่ม-กับ-เพิ่ม จนไม่ว่าตัวประธานาธิบดีหรือที่ปรึกษาประธานาธิบดี ต้องออกมายอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธถึง “แรงกดดัน” ดังกล่าว แม้ว่าจะต้องยอม “หันซ้าย-หันขวา” ตามคำสั่งของคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตกเพียงใดก็ตาม...

ยิ่งไปกว่านั้น...เมื่อบรรดาชาติตะวันตกรวมทั้งคุณพ่ออเมริกาอีกด้วย ต่างออกอาการ “กรอบเป็นข้าวเกรียบเมืองเพชร” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งพวง กระทั่ง “ขาเชียร์ตัวพ่อ” อย่างประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็ก ที่เคยเป็นถึงอดีตประธานนาโตช่วงปี ค.ศ. 2015-2018 “นายPetr Pavel” ที่พยายามยุ พยายามเชียร์ ให้บรรดาประเทศตะวันตกทั้งหลายส่งเงิน ส่งอาวุธ ไปช่วยยูเครนให้ฆ่ากับรัสเซียมาโดยตลอด แต่เมื่อวัน-สองวันนี้...หรือระหว่างเข้าร่วมงานราชาภิเษกกษัตริย์อังกฤษ ก็ยังหนีไม่พ้นต้องส่งเสียงอ่อยๆ หงอยๆ กับหนังสือพิมพ์ “The Guardian” ที่กรุงลอนดอน ประมาณว่า “ผมคิดว่า...เราควรทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสนับสนุนยูเครนให้บรรลุเป้าหมายความสำเร็จในการทวงคืนดินแดนจากรัสเซีย แต่ลึกๆ ลงไปแล้ว...เราควรที่จะสร้างความพร้อมให้กับการยอมรับต่อสิ่งที่มิอาจคาดหมายได้...” นี่...ประมาณว่า “เตรียมแพ้” หรือ “เตรียมทำใจ” เอาไว้ได้เลย ทำนองนั้น...

ส่วนหัวโจก หัวหอก ประธานสมาคมเสือกกิตติมศักดิ์ อย่างคุณพ่ออเมริกา...ก็แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง แค่เจอกับปัญหาเงินเฟ้อ ปัญหาการเพิ่มเพดานหนี้ ไปจนถึงปัญหาความระส่ำระสายของบรรดา “ธนาคาร” ทั่วทั้งระบบ แค่นี้ก็แทบต้อง “หายใจทางเหงือก” ไม่ใช่แค่ทางปากเอาเลยก็ว่าได้ ยิ่งเมื่อผู้เชี่ยวชาญด้านธนาคารแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด อย่าง “นายAmit Seru” ออกมาเปิดเผยว่าธนาคารกว่า 2,400 ธนาคารจาก 4,800 ธนาคารทั่วทั้งระบบ กำลัง “จมอยู่ใต้น้ำ” หรือกำลัง “ล้มละลาย” เพียงเท่านี้ก็หมดแล้ว!!! ไม่ไหวจะฮาอีกต่อไปแล้ว!!! นั่นยังไม่รวมถึงคำพูดคำให้สัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ด้านการเมืองและเศรษฐกิจชาวแคนาดา อย่าง “ดร.Radhika Desai” แห่งมหาวิทยาลัย “Manitobo” และผู้อำนวยการ “The Geopolitics Economy Research Group” ที่ออกมาส่งสัญญาณ ฟันธงและฟันเฟิร์ม ว่า “แนวโน้มแห่งการละทิ้งเงินดอลลาร์อเมริกัน (De-Dollarization) กำลังปรากฏอยู่ทั่วทุกหน-ทุกแห่ง” อันจะก่อให้เกิด “ความเสี่ยง” ต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจอเมริกา ชนิดไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี กุสะลา ธัมมา-อกุสะลา ธัมมา ชนิดมีแต่ต้องเตรียมน้ำมะพร้าวไว้ล้างหน้า เตรียมสวดศพ ขึ้นเมรุ ไม่ต่างไปจากที่กรรมการผู้จัดการ “IMF” “นางKristalina Georgieva” ได้ออกมาย้ำ ออกมาเน้น เอาไว้อีกครั้ง ระหว่างการพูดจาปราศรัย ณ เวที “Brussels Economic Forum” เมื่อช่วงวันพุธ (3 พ.ค.) ที่ผ่านมานั่นแหละว่า เศรษฐกิจโลกทั้งโลกจะโตไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ไปอีกตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า และประเทศที่จะหนักหนา-สาหัสที่สุดสำหรับภาวะเช่นนี้ ก็คือยุโรปและอเมริกา นั่นแล...

ดังนั้น...ในเมื่อบรรดาขาป่วน ขายุแยงตะแคงรั่วทั้งหลาย มีแต่จะต้อง “สาละวันเตี้ยลง...เตี้ยลง” อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ โอกาสที่ฝ่ายผู้รักและปรารถนาดีต่อ “สันติภาพ” ผู้ที่อยากค้าๆ-ขายๆ ไม่ต้องการให้เกิดการรบรา ฆ่าฟัน กันอีกต่อไปย่อมน่าจะมีบทบาท มีโอกาส ที่จะบรรลุเป้าหมายต่อสิ่งที่ตัวเองปรารถนาและต้องการไม่มาก-ก็น้อย แนวโน้มแห่งการสิ้นสุด ยุติ “สงคราม” ไม่ว่าในแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแนวรบทะเลจีนใต้ ก็น่าที่จะพอ “เป็นไปได้” หรือพอที่จะตั้งความหวังได้มั่ง ไม่ใช่แค่ความฝันลมๆ-แล้งๆ เอาเสียเลย...