เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมทักษิณได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียของเขาว่า “เช้าวันนี้ผมดีใจมากที่ได้หลานคนที่ 7 เป็นชายชื่อพฤจ์ธาษิณจากน้องอิ๊ง แพทองธารหลานทั้ง 7 คนคลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลานเพราะผมอายุจะ 74 ปีกรกฎาฯ นี้แล้วพบกันเร็วๆ นี้ครับขออนุญาตนะครับ”
คำถามที่ตามมาคือทักษิณขออนุญาตจากใคร และใครที่อนุญาตให้ทักษิณกลับบ้านได้ หรือว่าใครที่ไม่อนุญาตให้ทักษิณกลับบ้าน
แม้ทักษิณจะเคยพูดว่าจะกลับบ้านมาแล้วหลายหน เคยเป็นชนวนให้คนเสื้อแดงเสียชีวิตมาแล้วเพราะเชื่อว่าทักษิณจะกลับมาหากเสียงปืนดังขึ้น แต่ปีนี้เป็นปีที่ทักษิณพูดว่าจะกลับบ้านอย่างหนักแน่นหลายครั้ง
วันที่ 25 มกราคม 2566 ทักษิณกล่าวทางคลับเฮ้าส์ในรายการ CARE คิดเคลื่อนไทยว่า “ผมอยู่เมืองนอกมานานพวกใส่ร้ายมากขึ้น พวกกล่าวหาทางคดีก็ให้การเท็จและย้ำว่าถ้าผมกลับจะไม่อาศัยพรรคการเมืองใดๆ รวมทั้งเพื่อไทยจะอาศัยแค่หัวใจตัวเองฉะนั้นไม่ต้องกังวลแล้วไม่ว่าอย่างไร ‘อิ๊ง’ จะเป็นคนประกาศว่าผมจะกลับเมื่อไหร่รับรองว่าไม่มีการเกี้ยเซียะกับพรรคพลังประชารัฐหรือออกกฎหมายช่วยเหลือใดๆ”
วันที่ 24 มี.ค. 2566 ทักษิณให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเกียวโดว่า เขาพร้อมที่จะรับโทษจำคุกในประเทศไทยหากได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัวไม่ว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปจะออกมาอย่างไร “ตอนนี้ผมติดคุกใหญ่มา 16 ปีแล้วเพราะพวกเขากีดกันไม่ให้ผมอยู่กับครอบครัว”
“ผมทรมานมามากพอแล้วถ้าผมต้องทนทุกข์ทรมานอีกครั้งในคุกที่เล็กกว่านั้นก็ไม่เป็นไร”
“แม้ไม่ใช่ราคาที่ต้องจ่ายแต่ผมยอมจ่ายเพื่อให้ได้อยู่กับหลานๆ ผมควรจะใช้ชีวิตที่เหลือกับลูกหลาน”
ชัดเจนว่าทักษิณยังไม่ยอมรับว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นผิด
จนถึงล่าสุดที่เพิ่งประกาศหลังลูกสาวแพทองธาร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ของพรรคเพื่อไทยคลอดลูก
แต่ความจริงก็คือ คนในประเทศนี้น่าจะไม่มีใครไม่อยากให้ทักษิณไม่กลับบ้านไม่ว่าคนสีเสื้อไหน ทุกคนทั้งเสื้อแดงเสื้อเหลืองต่างรอคอยให้ทักษิณกลับบ้านกันทั้งนั้น และจริงๆ แล้วทักษิณสามารถกลับประเทศไทยได้ทันทีที่อยากกลับเพราะทักษิณมีเครื่องบินส่วนตัว
แม้ว่าวันนี้น้ำเสียงของทักษิณจะดูจริงจังมากกว่าทุกครั้ง มีการเอ่ยคำว่า “ขออนุญาต” ในข้อความสั้นๆ ถึงสองครั้ง ครั้งนี้จึงเชื่อว่าทักษิณน่าจะกลับมาจริงๆ เสียทีแต่ตามกฎหมายแล้วมีทางเดียวที่ทักษิณจะต้องเผชิญทันทีที่เหยียบแผ่นดินไทยก็คือ ต้องถูกควบคุมตัวจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะทักษิณมีฐานะนักโทษหนีคดี
ถ้านับคดีต่างๆ ที่ศาลตัดสินแล้วตอนนี้ทักษิณยังมีโทษจำคุกอีก 10 ปี จากคดีทุจริตโครงการหวยบนดิน 2 ปีคดีให้ธนาคารเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้เงินแก่เมียนมา 3 ปีคดีให้นอมินีถือหุ้นชินคอร์ป 5 ปี ส่วนคดีจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกที่ศาลจำคุก 2 ปีนั้นหมดอายุความไปแล้ว
มีบางคดีที่ศาลยกฟ้อง และยังมีคดีที่ ป.ป.ช.กำลังไต่สวน 2 คดี คือคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) อีก 4 สัญญาสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์โดย ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาว่าทักษิณมีบทบาทและอยู่เบื้องหลังในการสั่งการ และคดีอนุมัติการสั่งซื้อเครื่องบินแบบA340-500 จำนวน 4 ลำเมื่อปี 2545-2547 และปี 2554 อนุมัติโครงการจัดหาเครื่องบินจำนวน 75 ลำไม่คุ้มค่าทำให้การบินไทยมีหนี้สินเพิ่มขึ้น ป.ป.ช.กล่าวหาทักษิณพร้อมพวกรวม 5 ราย
ดังนั้นโทษที่รอทักษิณอยู่แน่ๆ แล้วคือ 10 ปี ทักษิณก็ต้องไปชดใช้ความผิดในเรือนจำเสียก่อน มีการกล่าวว่า สมศักดิ์ เทพสุทินปูทางไว้แล้วว่า สามารถคุมขังในบ้านพักหรือโรงพยาบาลได้ แต่เชื่อว่า คงไม่กล้าทำอย่างนั้นเพราะสังคมไม่ยอมแน่
เมื่อเปิดกฎหมายทุกตัวแล้วทางเดียวของทักษิณที่จะออกมาเลี้ยงหลานได้ก็คือ การขอพระราชทานอภัยโทษ
อย่างไรก็ตาม การขอพระราชทานอภัยโทษนั้นมีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1. บุคคลนั้นต้องสำนึกผิดเสียก่อน 2. คำร้องขอต้องไม่กล่าวถึงความไม่ถูกต้องหรือความไม่เป็นธรรมของคำพิพากษา 3. บุคคลดังกล่าวต้องเป็นนักโทษชั้นดี
คำถามว่า วันนี้ทักษิณสำนึกผิดแล้วยัง หรือยังกล่าวหาว่ากระบวนการที่ตัดสินโทษตัวเองไม่เป็นธรรมอยู่ไหม เพราะที่ผ่านมาเราได้ยินทักษิณกล่าวหากระบวนการยุติธรรมเสมอมา
ประเด็นที่สำคัญคือ ทักษิณต้องเป็นนักโทษชั้นดีเสียก่อน แม้ว่าคนระดับนี้เข้าไปแล้วจะได้เป็นนักโทษชั้นดีไม่ยาก แต่การให้ก็มีเงื่อนเวลาของมันคือ เมื่อเข้าไปแล้วจะได้ชั้นเป็นนักโทษชั้นกลาง จะเลื่อนชั้นเป็นชั้นดีได้ต้องได้รับโทษมาแล้ว 3 เดือน และการเลื่อนชั้นนักโทษให้ทำในสิ้นเดือนมิถุนายนและเดือนธันวาคม นั่นแสดงว่า ถ้าทักษิณเข้าคุกไปหลังเดือนมิถุนายนแม้จะครบ 3 เดือนแล้วก็ต้องรอให้ถึงเดือนธันวาคมจึงจะมีการพิจารณาเลื่อนชั้น
เมื่อได้เป็นนักโทษชั้นดีแล้ว ทักษิณจึงจะมีสิทธิ์ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ แน่นอนว่า หากพรรคของทักษิณได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกระบวนการต่างๆ ซึ่งต้องทำผ่านกระทรวงยุติธรรมคงจะราบรื่น แต่เราไม่อาจก้าวล่วงได้ว่าทักษิณจะได้รับพระราชทานอภัยโทษหลังจากกลับมายอมติดคุกหรือไม่ จึงไม่ขอแสดงความเห็นในเรื่องนี้
แม้ว่าวันนี้แม้ทักษิณยังไม่ได้เอ่ยออกมาว่า เขาจะกลับมาติดคุกแล้วขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ แต่ดูเหมือนช่องทางนี้ทางเดียวที่ทักษิณจะกลับมาได้ ส่วนช่องทางอื่นในทางกฎหมายที่ทักษิณจะหลุดรอดไปได้นั้นยังมองไม่เห็น
แต่ก็มีคำถามว่า พรรคเพื่อไทยที่ก่อตั้งขึ้นมาจากพรรคที่ทักษิณก่อตั้งขึ้นมานั้นหากได้เป็นรัฐบาลแล้วจะเอาพรรคก้าวไกลเข้ามาร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะชัดเจนว่า พรรคก้าวไกลนั้นสนับสนุนการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ต้องการลดทอนบทบาทและสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งแสดงตัวชัดเจนในการเข้าไปช่วยเหลือประกันตัวผู้ที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 มีการอภิปรายการใช้งบประมาณของสำนักงานส่วนพระมหากษัตริย์อย่างดุดัน
รวมถึงการสนับสนุนให้มีการยกเลิกมาตรา 112 และมีความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 ที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์
เข้าใจว่าการพูดว่าจะกลับบ้านครั้งนี้ของทักษิณเพราะมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
วันนี้พรรคเพื่อไทยออกมาประกาศแล้วว่า จะไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับบางพรรคการเมือง แม้ว่าคำพูดของนักการเมืองอาจจะเชื่อไม่ได้ แต่ชัดเจนว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่พูดว่าจะไม่จับมือกับพรรคก้าวไกล
ในทางนิตินัยอาจจะถือว่า ทักษิณเป็นบุคคลภายนอกไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย แต่ในทางความเป็นจริงทุกคนในประเทศนี้ต่างรู้ว่า ในทางพฤตินัยนั้นทักษิณยังมีบทบาทสำคัญอยู่
เมื่อทักษิณอยากจะกลับมาบ้านเชื่อว่าทุกคนในประเทศนี้ยินดีให้ทักษิณกลับมา แต่อยากจะได้ยินความชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan