สหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรป อดีตนักล่าอาณานิคม เริ่มเผชิญการแข็งข้อโดยประเทศในทวีปแอฟริกา ไม่ยอมรับคำบงการหรือการชี้แนะด้านนโยบายอีกต่อไป
ประกาศชัดเจนว่ายุคของการฟังคำสั่งของโลกตะวันตกสิ้นสุดแล้ว นั่นหมายถึงอิทธิพลของสหรัฐฯ และยุโรปที่เคยมีในแอฟริกาเสื่อมลงแทบไม่เหลือ และกำลังถูกทดแทนโดยรัสเซียและจีนซึ่งมุ่งการใช้ soft power พัฒนาเศรษฐกิจแทนการใช้กำลัง
ตัวเด่นที่อาจหาญ ไม่ยอมก้มหัวให้ประเทศตะวันตก อดีตนักล่าอาณานิคม คือประธานาธิบดี William Ruto ของเคนยา ซึ่งตอกหน้าลัทธิความเป็นเจ้าของตะวันตกที่กำหนดเส้นทางนโยบายว่าต้องเป็นประชาธิปไตย มีสิทธิมนุษยชน สารพัด
นโยบายเหล่านี้ได้สร้างวิกฤตด้านเศรษฐกิจ การเมืองให้ประเทศในแอฟริกา ดังนั้นสหภาพแอฟริกันจึงประกาศรวมตัวกันเพื่อไม่ยอมฟังคำสั่งจากตะวันตกต่อไป
ในเวทีการประชุมกลุ่มประเทศแอฟริกา ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี William Ruto ประกาศชัดเจนว่าหมดยุคแล้วที่ผู้นำ 54 ประเทศในแอฟริกา จะต้องถูกปฏิบัติอย่างด้อยค่าเมื่อต้องพบปะกับผู้นำประเทศตะวันตก
“ไม่มีอีกแล้วที่พวกเรา ผู้นำประเทศในแอฟริกาจะถูกต้อนขึ้นรถบัสเหมือนเด็กนักเรียน แล้วไปพบผู้นำโลกตะวันตกเพียงแค่ 1 คน ถึงเวลาที่เราต้องได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกัน ไม่ถูกต้องที่ 54 ผู้นำประเทศต้องถูกต้อนไปพบผู้นำตะวันตกแค่คนเดียว”
“ถ้าเราไม่เคารพตัวเอง คนอื่นก็จะไม่เคารพเรา” William Ruto ประกาศบนเวทีการเสวนา เรียกร้องให้ชาติในแอฟริกาสามัคคีกัน ซึ่งได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง
ก่อนหน้านี้ Robert Mugabe อดีตนายกรัฐมนตรีของซิมบับเว เคยเฉ่งพวกฝรั่งในที่ประชุมประเทศในแอฟริกา บอกว่าไม่เข้าท่าที่สหประชาชาติมีสำนักงานใหญ่ในกรุงนิวยอร์ก เทียบกับอินเดียและจีนซึ่งมีประชากรรวมกันมากกว่า 2.6 พันล้านคน
แอฟริกามีประชากรใกล้ถึง 1 พันล้านคนแล้ว “และมาดูพวกหน้าขาวๆ จมูกระเรื่อสีชมพู เอามานับกันหัวต่อหัว ดูว่าประชากรที่ไหนจะมากกว่ากัน ดังนั้นพวกตะวันตกควรหุบปากได้แล้ว” นี่เป็นคำพูดของ Mugabe ก่อนเสียชีวิตกว่า 2 ปีก่อน
ประธานาธิบดี Paul Kagame ของรวันดา วัย 65 ปี อยู่ในตำแหน่งมา 23 ปี ก็เป็นหนึ่งในผู้นำจอมห้าว หลังจากสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างชาวตุ๊ดซี่กับฮูเตา มีคนเสียชีวิตหลายแสนคน Kagame เป็นอดีตนายทหารยึดอำนาจและทำให้เลิกฆ่าฟัน
โลกตะวันตกมองว่า Kagame เป็นผู้นำเผด็จการ แต่เขาตอกกลับว่าทุกประเทศในแอฟริกามีสิทธิกำหนดชะตากรรมของตัวเองตามกฎสหประชาชาติ
Kagame ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวตะวันตกหลายรอบ ทั้งประณามชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตก และระบบ 2 มาตรฐาน ความโหดร้ายของชาวยุโรปในอดีต
ประธานาธิบดี Félix Tshisekedi สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เป็นอีกคนหนึ่งที่ฝีปากจัดจ้าน ตอกหน้าประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ช่วงที่เดินทางเยือน 4 ประเทศในแอฟริกา และยอมรับว่าอิทธิพลของตะวันตกสิ้นสุดแล้ว
ในการแถลงข่าวร่วมกัน Tshisekedi บอกว่าทำไมทุกอย่างที่พวกฝรั่งผิวขาวพูดนั้นต้องให้คนอื่นยอมรับว่าถูกต้องทั้งหมด และคำพูดของคนแอฟริกันนั้นผิดหมด
ทำเอามาครงไปไม่เป็น ต้องอ้อมแอ้มยอมรับว่าทัศนคติมุมมองของโลกตะวันตกที่มีต่อกลุ่มประเทศโลกที่ 3 ต้องเปลี่ยนไป และจะเป็นอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นช่วงที่ประเทศในแอฟริกาปลีกตัวจากสหรัฐฯ และยุโรป ไปหาจีน รัสเซีย
ทั้งเป็นช่วงที่หลายประเทศทั่วโลกเลิกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายสินค้า หันมาใช้สกุลเงินท้องถิ่นและเงินหยวน รูปี รูเบิล และเงินของชาติตะวันออกกลาง ยิ่งกลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน ก็ยิ่งพยายามไม่ใช้ Petrodallar ที่สหรัฐฯ กำหนด
อดีตรัฐมนตรีคลังของกรีซ Yanis Varoufakis เคยตอบคำถามนักข่าวฝรั่งอังกฤษเรื่องการรุกคืบหน้าของจีนในด้านเศรษฐกิจ ในทวีปแอฟริกา ใช้โครงการก่อสร้างต่างๆ เพื่อสร้างหนี้สินให้กลุ่มประเทศนั้น สร้างอิทธิพลรูปแบบใหม่
ผู้สื่อข่าวบอกว่ากรณีของจีนซึ่งก่อสร้างท่าเรือ ถนน สนามบิน นั้น...แต่ไม่ทันพูดจบก็โดนสวนโดย Varoufakis ว่าการก่อสร้างท่าเรือเสียหายอย่างไร เมื่อประชาชนในประเทศนั้นต้องการ และเคยเห็นว่าจีนไปที่ไหน ยกกองทหารไปหรือไม่
Varoufakis ชี้ให้เห็นว่าจีนเข้าไปในเอธิโอเปีย เสนอสร้างท่าเรือ สนามบิน ถนนหนทาง การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคให้ แล้วไม่คิดเงินแม้แต่แดงเดียว อย่างนี้ดีมั้ย
จีนไม่ได้เข้าไปบีบคอบังคับหรือตั้งกฎเกณฑ์เงื่อนไขสำหรับความช่วยเหลือ Varoufakis บอกว่าแนวนโยบายอย่าง “1 แถบ 1 เส้นทาง” ของจีนเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นการสร้าง soft power ต่างจากสหรัฐฯ ที่มีฐานทัพทั่วโลก
นักข่าวฝรั่งเงียบ ไม่สามารถเถียงได้ Varoufakis เป็นนักการเมืองแนวซ้าย เคยเป็นรัฐมนตรีคลังของกรีซในยุคที่ประเทศเกือบล้มละลายเพราะปัญหาหนี้สิน ถูกเรียกเข้ามารับตำแหน่งและแข็งขืนกับระบบตะวันตกของธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟ
แต่ผู้นำรัฐบาลกลับยอมรับเงื่อนไขแลกกับเงินกู้ Varoufakis จึงลาออก เดือนมีนาคมที่ผ่านมาโดนกลุ่มกุ๊ยรุมชกต่อยขณะรับประทานอาหารหลังจากตระเวนหาเสียงทำให้บาดเจ็บดั้งจมูกหัก หน้าตาแตก เพราะมีคนจ้างกุ๊ยแก๊งมอเตอร์ไซค์ให้ทำร้าย
ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต Robert F. Kennedy Jr. บอกว่า “สหรัฐฯ ได้ใช้เงิน 8 ล้านล้านดอลลาร์ ทำลายบ้านเมืองในประเทศอื่นๆ แต่จีนใช้เงิน 8 ล้านล้านดอลลาร์พัฒนาท่าเรือ ถนน สนามบินใน ประเทศอื่นๆ”