เกาหลีใต้และไต้หวันได้เป็นจุดระอุสำหรับความขัดแย้งภูมิภาคคาบสมุทรเกาหลีและช่องแคบไต้หวัน โดยมีสหรัฐฯ เข้ามาเป็นตัวยุ อวดแสนยานุภาพในแผนปิดล้อมจีน มีญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรหลัก อีกฝ่ายมีเกาหลีเหนือเป็นและจีน มีรัสเซียผงาดอยู่ด้านหลัง
ผู้นำไต้หวัน นางไช่ อิงเหวิน นำไต้หวันซุกใต้ปีกพญาอินทรีสหรัฐฯ ซื้ออาวุธต่อเนื่อง อ้างว่าเพื่อปกป้องเกาะไต้หวันซึ่งมีประชากร 22 ล้านคน ให้พ้นจากความพยายามของจีนในการรวมประเทศจีนให้เป็นหนึ่งเดียว มีสหรัฐฯ เป็นตัวหนุนหลัก
นางไช่ ไม่คำนึงว่าด้วยแสนยานุภาพไต้หวันห่างจากจีน จะฮึดสู้ได้อย่างไร ขัดสภาพความเป็นจริง มิตรอย่างสหรัฐฯ อยู่ห่างไกล ทั้งไม่เคยรบชนะศึกที่ไหน
นางไช่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งปีหน้า คนไต้หวันต้องเลือกเอาว่าจะยังเอาพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของนางไช่ที่เลือกจะเผชิญหน้าท้าทายจีน หรือเลือกพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งมีแนวนโยบายการรวมชาติแบบค่อยเป็นค่อยไป จีนก็เห็นด้วย
จีนประกาศนโยบายว่าไม่ต้องการทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เดียวกัน แต่ถึงอย่างไรจะต้องรวมชาติให้ได้ มีศักดิ์ศรีของชาติจีนเป็นเดิมพัน สหรัฐฯ ไม่มีสิทธิ์ยุ่งด้วย
ด้านเกาหลีใต้ ประธานาธิบดียุน ซ็อก ย็อล หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เคยเป็นอัยการสูงสุดเกาหลีใต้ระหว่าง พ.ศ. 2562 ถึง 2564 ในรัฐบาลของมุน แจ-อิน นำประเทศเข้าเป็นสมุนสหรัฐฯ แน่นหนักกว่าเดิมยกระดับการซ้อมรบ คำพูดแข็งกร้าว
ยุนมีบทบาทสำคัญในการตัดสินลงโทษอดีตประธานาธิบดี พัก กึน-ฮเย ฐานใช้อำนาจในทางมิชอบ เอาชนะอี แจ-มยอง ผู้ท้าชิงจากพรรคประชาธิปไตยในการเลือกตั้งประธานาธิบดี รับตำแหน่งประธานาธิบดีวันที่ 10 พฤษภาคม 2565
ตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้มีวาระเดียวนาน 5 ปี ไปต่อไม่ได้
ยุนมีนโยบายนำประเทศเข้าใกล้ชิดญี่ปุ่น ประชาชนเกาหลีไม่พอใจนับตั้งแต่ญี่ปุ่นบุกยึดเกาหลีในสงครามโลกครั้งที่ 2 เข่นฆ่าคนเกาหลี เอาหญิงเกาหลีไปบำเรอความสุขให้ทหารญี่ปุ่น สร้างความคับแค้น เป็นรอยด่างในประวัติศาสตร์เกาหลี
หลังจากเข้ารับตำแหน่งได้ 3 เดือน ความนิยมของนายยุนตกต่ำเหลือเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เพราะนโยบายที่อี๋อ๋อกับญี่ปุ่น มีปัญหาเงินเฟ้อ นโยบายลดอายุเด็กเข้าเรียนชั้นประถมจาก 6 เหลือ 5 ปี พฤติกรรมเล่นพรรคเล่นพวกในการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่
มีปัญหาขัดแย้งกับคนในพรรค เรื่องการบริหารงานหน่วยงานตำรวจ สถานการณ์ความนิยมลดลงอยู่เพียง 19 เปอร์เซ็นต์ในเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมา แต่ฟื้นตัวมาอยู่ 40 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 5 เดือนหลังจากนั้น
เดือนเมษายน ความนิยมตกไปที่ 30 เปอร์เซ็นต์ ประชาชนไม่พอใจทิศทางและนโยบายของนายยุนที่มีต่อประเทศญี่ปุ่น พยายามกระชับความสัมพันธ์ มีสหรัฐฯ เป็นตัวหนุน นายยุนต้องหาทางฟื้นความนิยมโดยเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ เดือนก่อน
นายยุนได้แสดงความเป็น “เด็กดี” ของสหรัฐฯ เมื่อพบปะกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งมีความนิยมตกต่ำในกลุ่มคนอเมริกัน จึงไม่ต่างจากสภาพผีเน่ากับโลงผุ
นายยุนทำตัวเป็นคนนิยมวัฒนธรรมอเมริกัน ร้องเพลง American Pie โดย Don McLean ซึ่งโด่งดังในปี 2514 หรือ 52 ปีก่อน สร้างความครึกครื้นเฮฮา เป็นกันเอง โจ ไบเดน เป็นปลื้มที่เกาหลีใต้พร้อมจะเป็นพันธมิตรร่วมปิดล้อมจีนด้วย
นายยุนยังได้ยอมให้สหรัฐฯ เอาเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ประจำการในเกาหลีใต้ให้เป็นนโยบายป้องปรามเกาหลีเหนือซึ่งได้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และได้ทดสอบขีปนาวุธต่อเนื่อง สร้างความกังวลให้เกาหลีใต้และญี่ปุ่น จึงมีการซ้อมรบตลอด
สหรัฐฯ ยังจะส่งเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดไปมาหาสู่เกาหลีใต้ สนับสนุนกำลังทหารมากกว่า 2 หมื่นนายที่อยู่ในเกาหลีใต้รัฐบาลเกาหลีรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
เกาหลีใต้ต้องจ่ายหนักเพื่อซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ ต่อเนื่อง ไม่ต่างจากไต้หวัน แลกกับความคุ้มครองของสหรัฐฯ ที่ต้องการขยายแนวอิทธิพลของนาโตมาปิดล้อมจีน
นายยุนได้ไปกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอกว่ากำลังพิจารณาส่งอาวุธไปให้ยูเครนรบกับรัสเซีย ตามคำขอของโจ ไบเดน ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ “ขอยืม” กระสุนปืนใหญ่ 5 แสนนัดจากเกาหลีใต้
นายยุนไม่สนใจคำเตือนของนายดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซียว่า เกาหลีใต้จะคิดอย่างไรถ้ารัสเซียจะส่งอาวุธร้ายแรงให้เกาหลีเหนือ
การซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น บางครั้งมีอังกฤษ ออสเตรเลีย อินเดีย ฟิลิปปินส์เข้าร่วม สร้างความไม่พอใจให้จีน ตัวแทนประชาคมยุโรปยังบอกว่ายุโรปควรส่งเรือรบไปตระเวนย่านช่องแคบไต้หวันเพื่อรับประกันเส้นทางเดินเรือ
สหรัฐฯ ได้เพิ่มจุดวิกฤตร้อนแรงจากสงครามยูเครน-รัสเซียไปช่องแคบไต้หวัน คาบสมุทรเกาหลี และทะเลจีนใต้ อ้างความเป็นชาติมหาอำนาจ ผู้พิทักษ์โลก ขณะที่อ่อนล้าด้านเศรษฐกิจ การเมือง และพลังของเงินดอลลาร์ที่ใช้ควบคุมโลกโดยตลอด
เกาหลีใต้เห็นสหรัฐฯ สำคัญกว่าเกาหลีเหนือ คนเชื้อชาติเดียวกัน ไต้หวันเห็นสหรัฐฯ ดีกว่าจีน เป็นแบบ “เห็นขี้ดีกว่าไส้” เห็นฝรั่งหัวแดงดีกว่าคนสายเลือดเดียวกัน
ทั้งเกาหลีใต้และไต้หวันดำรงนโยบายชักศึกเข้าบ้าน สร้างปัญหาในภูมิภาค ความพินาศย่อยยับของยูเครนน่าจะเป็นบทเรียนสำคัญว่าคบกับสหรัฐฯ มีแต่หายนะ
ถ้าวันใดขัดใจสหรัฐฯ จะโดนอายัด ยึดทรัพย์ในต่างประเทศ อย่างเบาะๆ ก็โดนมาตรการคว่ำบาตรเหมือนเกาหลีเหนือ อิหร่าน คิวบา เวเนซุเอลา รัสเซีย ฯลฯ