ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล
คณะสถิติประยุกต์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
หากเราพูดถึงฆาตกรต่อเนื่องระดับตำนานของโลกเราอาจจะนึกถึง Jack the Ripper ฆาตกรต่อเนื่องชายในย่านลอนดอนที่มักจะฆ่าโสเภณีโดยการปาดคอและคว้านท้องเอาอวัยวะภายในออกไป แต่สำหรับฆาตกรต่อเนื่องของไทย คนไทยก็คงจะนึกถึงซีอุย แซ่อึ๊ง เป็นรายแรก และหลายคนอาจจะนึกถึงบุญเพ็ง หีบเหล็ก และรายหลังๆ ได้แก่ สมคิด พุ่มพวง และ ไอซ์ หีบเหล็กแถวฝั่งธนบุรี เป็นต้น ในประเทศไทยอาจจะมีฆาตกรต่อเนื่องชายเป็นหลักที่เป็นข่าว และเราอาจจะไม่ได้ยินเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องหญิงมากนัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าประเทศไทยจะไม่มีฆาตกรต่อเนื่องหญิงไปเสียทีเดียว ในวันสองวันนี้อาจจะมีการจับกุมฆาตกรต่อเนื่องหญิงในประเทศไทยที่ฆ่าคนใกล้ชิดไปนับสิบคน
ในต่างประเทศเช่นในสหรัฐอเมริกามีนักวิจัยที่ศึกษาความแตกต่างระหว่างฆาตกรต่อเนื่องหญิงและฆาตกรต่อเนื่องชายเอาไว้อย่างน่าสนใจคืองานวิจัยของ Marissa A. Harrison, Susan M. Hughes, และ Adam Jordan Gott ในปี 2019 ชื่อความแตกต่างระหว่างเพศในฆาตกรต่อเนื่อง (Sex differences in serial killers) ตีพิมพ์ในวารสาร Evolutionary Behavioral Sciences ฉบับที่ 13 หน้า 1-16. โดยได้เล่าเรื่องได้อย่างน่าติดตามและน่าอ่านมาก
ฆาตกรต่อเนื่องหมายถึงฆาตกรที่จงใจฆ่าเหยื่อมากกว่าสามคนโดยมีระยะเวลาเว้นช่วงในการฆ่าแต่ละคนอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ บทความนี้พยายามใช้กรอบแนวคิดจิตวิทยาวิวัฒนาการ (Evolutionary psychology) ในการทำความเข้าใจฆาตกรต่อเนื่อง โดยอธิบายด้วยตัวแบบผู้ล่า (Hunter)-ผู้เก็บเกี่ยว (Gatherer) ของฆาตกรต่อเนื่อง
ทั้งนี้ตามทฤษฎีวิวัฒนาการ ฆาตกรต่อเนื่องชาย (Male Serial Killer: MSK) เป็นผู้ล่า ในขณะที่ฆาตกรต่อเนื่องหญิง (Female Serial Killer: FSK) เป็นผู้เก็บเกี่ยว บ่อยครั้งที่ฆาตกรต่อเนื่องชายจะฆ่าคนแปลกหน้าที่ตนลอบมอง ฆาตกรต่อเนื่องชายจะชอบเดินทางออกไปไกลๆ เพื่อไปล่าหรือฆ่า
ในทางตรงกันข้าม ฆาตกรต่อเนื่องหญิงจะฆ่าคนใกล้ตัวเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในสถานที่ที่คุ้นเคยหรืออาศัย อันเป็นไปตามวิวัฒนาการของมนุษย์ที่ผู้ชายออกไปล่าสัตว์มาเป็นอาหาร/บริโภค ในขณะที่ผู้หญิงเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหาร ซึ่งประมาณกันว่า 95% ของเวลาในประวัติศาสตร์มนุษย์ใช้ตัวแบบผู้ล่า-ผู้เก็บเกี่ยวเพื่อทำให้เกิดความอยู่รอดสูงสุดอันส่งผลมาถึงพฤติกรรมในปัจจุบัน
ทั้งนี้ฆาตกรต่อเนื่องหญิงจะฆ่าเพื่อผลประโยชน์ทางการเงินในขณะที่ ฆาตกรต่อเนื่องชายจะฆ่าเพื่อการมีเพศสัมพันธ์
ฆาตกรต่อเนื่องชายฆ่าเป็นนักล่าเพื่อแสวงสุข (Hedonistic) โดยการลักลอบแอบมองเหยื่อที่ไม่คุ้นเคยเพื่อความสราญใจทางเพศและทำให้เหยื่อตื่นตระหนกกลัว ชอบเดินทางไกลเพื่อไปล่าเหยื่อ อาจจะมีพฤติกรรมซาดิสม์ ทรมานเหยื่อ ทำให้เหยื่ออับอาย และทำให้เหยื่อเจ็บปวดก่อนลงมือฆ่า ก่อนที่จะลงมือข่มขืนเหยื่อแล้วจึงฆ่าโดยผู้หญิงอายุน้อยๆ ยังสาวมักเป็นเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่องชาย
ฆาตกรต่อเนื่องหญิงเป็นผู้เก็บเกี่ยวโดยฆ่าคนคุ้นเคยและคนใกล้ตัว โดยเฉพาะที่รู้จักดี ได้ดูแล หรือมีความสัมพันธ์ด้วย ฆาตกรต่อเนื่องหญิงจะฆ่าแม้แต่เด็กเล็กๆ หรือคนแก่ที่ตนเองดูแลเลี้ยงดู นอกจากนี้ฆาตกรต่อเนื่องหญิงยังมักจะอาศัยอยู่ที่เดียวที่คุ้นเคย ไม่มีการลอบมองเหยื่อ ฆาตกรต่อเนื่องหญิงยังฆ่าสามีเพื่อผลประโยชน์ทางการเงินเช่นฆ่าเพื่อเงินกรมธรรม์ประกันชีวิต แล้วไปแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ในภายหลัง
การศึกษาวิจัยนี้ใช้การวิเคราะห์เอกสารจากข่าวที่เสนอในสหรัฐอเมริกา โดยเลือกข่าวฆาตกรต่อเนื่องหญิงมาจับคู่ (Matching) กับฆาตกรต่อเนื่องชายที่มีอายุไล่เลี่ยกันเมื่อเวลาลงมือฆ่าเพื่อให้เปรียบเทียบกันได้
ผลการวิเคราะห์แสดงใน ตารางด้านล่างนี้โดยพบว่า
ฆาตกรต่อเนื่องชายฆ่าคนแปลกหน้าเป็นหกเท่าของฆาตกรต่อเนื่องหญิง ในขณะที่ฆาตกรต่อเนื่องหญิง ฆ่าคนคุ้นเคยเป็นสองเท่าของฆาตกรต่อเนื่องชาย ฆาตกรต่อเนื่องหญิงยังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด/การแต่งงานกับเหยื่อ และยังพบว่าฆาตกรต่อเนื่องหญิงฆ่าคู่สมรสมากกว่าฆาตกรต่อเนื่องชายเป็นสองเท่า
ฆาตกรต่อเนื่องชายชอบลอบมองเหยื่อก่อนลงมือฆ่ามากกว่าฆาตกรต่อเนื่องหญิง และชอบออกไปฆ่าเหยื่อนอกรัฐที่ตนเกิดและในรัฐต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ฆาตกรต่อเนื่องชายยังมาจากชนชั้นทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่า ในขณะที่ฆาตกรต่อเนื่องหญิงมักมาจากชนชั้นกลาง ฆาตกรต่อเนื่องชายยังมีระดับการศึกษาที่ต่ำกว่าฆาตกรต่อเนื่องหญิงอีกด้วย
แรงจูงใจในการฆ่าของฆาตกรต่อเนื่องชายส่วนใหญ่คือเพศสัมพันธ์ ในขณะที่แรงจูงใจของฆาตกรต่อเนื่องหญิงคือผลประโยชน์ทางการเงิน
ฆาตกรต่อเนื่องชายฆ่าเหยื่อเป็นจำนวนมากกว่าฆาตกรต่อเนื่องหญิง โดยที่เหยื่อมักจะเป็นผู้หญิงมากกว่า ในขณะที่ฆาตกรต่อเนื่องหญิงฆ่าได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายหากได้ผลประโยชน์ นอกจากนี้ฆาตกรต่อเนื่องชายมักจะฆ่าผู้ใหญ่และแทบจะไม่ฆ่าเด็กซึ่งแตกต่างจากฆาตกรต่อเนื่องหญิงค่อนข้างมากที่ฆ่าแม้กระทั่งเด็กหรือลูกของตนเอง
ฆาตกรต่อเนื่องชายมีปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าฆาตกรต่อเนื่องหญิง และมักใช้วิธีการฆ่าโดยทำให้ขาดอากาศหายใจ (Asphyxiation) ในขณะที่ ฆาตกรต่อเนื่องหญิง ใช้การวางยาพิษ (Poisoning) มากที่สุด
ศาลมักจะตัดสินพิพากษาประหารชีวิตฆาตกรต่อเนื่องชายมากกว่าฆาตกรต่อเนื่องหญิง
ข้อจำกัดของการศึกษานี้จากสหรัฐอเมริกาคือไม่ได้เปรียบเทียบลักษณะนิสัยทางจิตวิทยา (Psychological traits) โดยตรงเพราะเป็นข้อมูลที่ไม่มีในข่าว ในอนาคตควรศึกษาความแตกต่างระหว่างเพศของฆาตกรต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการ ฮอร์โมน ความเครียดทางเศรษฐกิจ การทำงานของระบบประสาท (Neurological functioning) เป็นต้น
สำหรับประเทศไทย จะมีความแตกต่างระหว่างฆาตกรต่อเนื่องหญิงและฆาตกรต่อเนื่องชายหรือไม่ก็เป็นประเด็นที่น่าค้นคว้าศึกษาเช่นกัน หากมีจำนวนคดีหรือข่าวที่มากพอสำหรับการศึกษาวิจัย แต่เชื่อว่าน่าจะมีความคล้ายกันอยู่มากสำหรับความแตกต่างระหว่างเพศของฆาตกรต่อเนื่องชายและหญิง ที่มีแรงจูงใจและวิธีการฆ่าที่แตกต่างกันค่อนข้างมากและชัดเจน ทั้งนี้น่าจะเป็นไปตามทฤษฎีวิวัฒนาการของมนุษย์ที่ยังคงสืบทอดมาจนปัจจุบัน