จักรวรรดินิยมสหรัฐฯ ใกล้ล่ม

หลายประเทศทรงพลังด้านเศรษฐกิจ ทรัพยากรกำลังก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของขั้วอำนาจจาก 1 เดียวโดยสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่ปี 1944 พร้อมกับเงินดอลลาร์ เป็น 2-3 ขั้ว เริ่มจากการเลิกใช้เงินสกุลของสหรัฐฯ ที่ใช้เป็นอาวุธครองโลกมานาน

เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีหนี้มหาศาล 3.1 ล้านล้านดอลลาร์ ติดเพดานการกู้ ไม่มีทางจะใช้หนี้คืนได้ ทองคำในคลังที่เมืองฟอร์ตน็อกซ์ มีเหลือเท่าไหร่ สหรัฐฯ ไม่บอก

หลายประเทศไปทวงคืนทองคำที่ฝากไว้ ได้คืนหรือยังก็ไม่รู้

อำนาจของเงินดอลลาร์ใครท้าทายไม่ได้ ยุโรปมีเงินยูโร เป็นพันธมิตรสหรัฐฯ ยอมทนได้ อังกฤษมีเงินปอนด์ เชื้อสายแองโกล-แซกซัน สหรัฐฯ ทนได้

ญี่ปุ่นมีเงินเยน สวิสมีเงินฟรังก์ สหรัฐฯ ทนได้ แต่เมื่อเงินหยวนของจีนแผลงฤทธิ์ สหรัฐฯ ทนไม่ได้ เป็นสกุลเงินหลักท้าทายอำนาจเงินดอลลาร์ รัสเซียใช้รูเบิลค้าขาย

สหรัฐฯ เคยลงโทษผู้กำแหงจะไม่ใช้เงินดอลลาร์ในตลาดน้ำมันดิบ เรียกว่าเปโตรดอลลาร์ โทษนั้นถึงขั้นตาย บ้านเมืองล่มสลาย ตัวอย่างมีให้เห็นแล้ว

ผู้นำอิรัก ประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ประกาศจะขายน้ำมันโดยใช้เงินยูโร โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช หาเรื่องว่ามีอาวุธมหาประลัย สุมหัวกับอังกฤษบุกยึดประเทศ ฆ่าล้างคนอิรักหลายแสนคน เป็นการบุกครั้งที่ 2 หวังยึดบ่อน้ำมัน

อิรักมีน้ำมันดิบสำรองมากอันดับต้นๆ ของโลก สหรัฐฯ ต้องการเอามาให้ได้ จึงบุกไล่ล่าจับซัดดัมขึ้นศาลเตี้ยแขวนคอ อิรักบ้านแตกสาแหรกขาด วุ่นวายจนทุกวันนี้

ผู้นำลิเบีย ประธานาธิบดีมูฮัมหมัด กัดดาฟี ประกาศว่าจะขายน้ำมันดิบแลกกับทองคำเท่านั้น ไม่ใช้เงินดอลลาร์ สหรัฐฯ หาเรื่องยกทัพนาโตบุกลิเบีย บ้านเมืองพินาศย่อยยับ ใช้พวกกบฏจับกัดดาฟีฆ่าอย่างทารุณ สหรัฐฯ ก็ยังยึดบ่อน้ำมันไม่ได้

นี่คือการบุกปล้นประเทศ จับผู้นำฆ่าทิ้ง ชาวบ้านตายเบือ ฝีมือสหรัฐฯ ที่ซัดดัมและกัดดาฟีบังอาจท้าทายอำนาจสหรัฐฯ ไม่ยอมใช้เงินเปโตรดอลลาร์

แต่รัสเซียขายน้ำมันให้จีนด้วยเงินหยวน ซื้อขายน้ำมันดิบอินเดียด้วยเงินรูเบิลและรูปี ซาอุฯ ค้าขายน้ำมันให้จีนลูกค้ารายใหญ่ด้วยเงินหยวน บราซิลค้าขายกับจีนด้วยเงินเรอัลและเงินหยวน เงินใครเงินมัน ทั้งหมดนี้ไม่ใช้เงินดอลลาร์อีกต่อไป

อิทธิพลของเงินดอลลาร์กำลังเสื่อมรวดเร็ว สหรัฐฯ จะทำกับรัสเซียและจีนแบบอิรักกับลิเบียไม่ได้ ไม่กล้าแม้แต่จะคิด ทั้งสองประเทศเป็นมหาอำนาจอาวุธนิวเคลียร์

สหรัฐฯ ต้องกล้ำกลืน หาทางก่อความวุ่นวายต่อไป ใช้ยูเครนและยุโรปตัดกำลังรัสเซีย ใช้ไต้หวันเป็นตัวยั่วยุจีน พยายามปิดล้อม แต่ผลกระทบตีกลับรวดเร็ว

ยุโรปกำลังจะสิ้นสภาพความเป็นชาติอุตสาหกรรม ประชาชนเดือดร้อนด้วยเงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูง สินค้าขาดแคลน คนว่างงาน ธุรกิจเผชิญวิกฤต เพราะไม่มีก๊าซและน้ำมันราคาถูกจากรัสเซีย ต้องซื้อจากแหล่งอื่น รวมทั้งสหรัฐฯ ด้วยราคาแพง

ยุโรปอยู่ในสภาพเป็นรัฐบริวารของสหรัฐฯ โดยสภาพ ฝรั่งเศสกำลังดิ้นรนให้พ้นจากอำนาจและอิทธิพลของสหรัฐฯ ไม่อยากยุ่งกับสงครามยูเครน แต่จะรอดหรือไม่

โลกกำลังหันหลังให้สหรัฐฯ และอำนาจเงินดอลลาร์ ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซในตะวันออกกลางภายใต้องค์กรความร่วมมืออ่าวเปอร์เซีย ไม่เอาสหรัฐฯ แล้ว

ละตินอเมริกา นำโดยบราซิล ไม่เอาสหรัฐฯ เม็กซิโกกำลังมีปัญหากับสหรัฐฯ รวมทั้งประเทศอื่นๆ ที่กำลังวางแผนใช้เงินสกุลเฉพาะสำหรับทวีปอเมริกาใต้

ผู้นำประเทศในแอฟริกาประกาศชัด ไม่เอาสหรัฐฯ และยุโรปซึ่งล้วนเป็นประเทศนักล่าอาณานิคม สร้างความโหดร้าย ปล้นทรัพยากรหลายทวีปทั่วโลก

สหรัฐฯ เหลือเพื่อนในรูปแบบบริวารคือยุโรป อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ พันธมิตรอย่างแคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ กับอีกไม่กี่ประเทศ

เมื่อมีทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ อำนาจเงินดอลลาร์ลดลง พันธบัตรสหรัฐฯ ถูกปฏิเสธ นักการเมืองสหรัฐฯ กำลังดิ้นรนหาทางออกเพื่ออุ้มเศรษฐกิจซึ่งมีฐานหลักคืออุตสาหกรรมผลิตอาวุธ ซึ่งเป็นทุนใหญ่สำหรับนักการเมืองในศึกเลือกตั้ง

สหรัฐฯ ประสบวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำในช่วงปี 1929-1939 แก้ปัญหาด้วยการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเริ่มปี 1939 สิ้นสุดในปี 1945 ใช้อุตสาหกรรมผลิตอาวุธฟื้นฟูเศรษฐกิจตกต่ำ ภายใต้ประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี. รูสเวลท์

สงครามยูเครน-รัสเซียทำให้อุตสาหกรรมผลิตอาวุธได้รับการอัดฉีดจากรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากนี้ไปจะเร่งบีบให้ไต้หวันซื้ออาวุธเพิ่มต่อต้านจีน

สหรัฐฯ อยู่มาได้ด้วยการทำสงครามนับตั้งแต่สงครามเกาหลี เวียดนาม เรื่อยมา ทำตัวเป็นเจ้าโลก มีฐานทัพทั่วโลกกว่า 750 แห่ง ทำลายประเทศต่างๆ โดยอ้างว่าต้องเป็นประชาธิปไตย เริ่มด้วยการรุกราน พิชิตศึก ปล้นทรัพยากร และครอบครอง

ทั้งที่สหรัฐฯ อ้างสิทธิมนุษยชน ทุกประเทศสามารถกำหนดชะตากรรมของตัวเอง ในทางปฏิบัติ ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ยอมให้มีใครทำตัวเป็นกลาง จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ประกาศระเบียบโลกใหม่ อย่างอหังการ ก่อนบุกอิรักว่า “ถ้าไม่อยู่ข้างเรา ก็เป็นศัตรูของเรา”

คนไทยยุคหลังสงครามโลก เรียกรุ่น Baby Boomer หรือรุ่นก่อน 14 ตุลา 2516 ถูกปั่นหัวโดยโฆษณาชวนเชื่อของสหรัฐฯ ผ่านโครงการต่างๆ เช่นหน่วยงาน USOM, USAID, USIS, JUSMAG มีหน่วย SEABEE รับงานก่อสร้างถนน งานโยธาต่างๆ

มีนิตยสาร “เสรีภาพ” แจกในโรงเรียน ห้องสมุด ปลุกผีคอมมิวนิสต์ มีวิทยุ “เสียงอเมริกา” ปั่นกระแส ก่อนบุกฆ่าคนเวียดนามกว่า 2 ล้านคนสร้างฐานทัพในไทยหลายจังหวัด รัฐบาลไทยส่งกองพันจงอางศึก กองพันเสือดำ ไปร่วมรบกับสหรัฐฯ

สหรัฐฯ จะต้องรบในสงครามเศรษฐกิจปกป้องดอลลาร์ด้วยกำลังอ่อนล้า