โลกฮือต้านสหรัฐฯ-ดอลลาร์

ถ้าเป็นนกอินทรีครองความเป็นจ้าวเวหานานตั้งแต่ปี 1944 หลังจากสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐฯ ผงาดในฐานะชาติมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจ แสนยานุภาพการทหารอันดับ 1 พร้อมกับเงินสกุลดอลลาร์ ไม่มีใครปฏิเสธหรือมีพลังต้านทานได้

มาถึงปี 2023 เกือบ 80 ปี นกอินทรีย่างเข้าสู่วัยชรา ร่วงโรย เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลจากการทำสงครามทั่วโลก ขนบนปีกและลำตัวหลุดร่วง

เคยทำเพดานบินสูงลิบ พร้อมจัดการใครก็ตามที่แตกแถว ก็มาถึงวันที่ใกล้จะถลาหัวทิ่มดิน จากชาติมั่งคั่งร่ำรวย กลายเป็นชาติมีหนี้สินมากที่สุดในโลกถึง 31.45 ล้านล้านดอลลาร์ หมดปัญญาที่จะใช้คืนได้ ต้องยกระดับเพดานให้กู้หนี้เพิ่ม

นกอินทรีชราภาพเรี่ยวแรงแทบไม่เหลือ ยังพยายามทำตัวให้ดูดี มีอำนาจ แต่ชาติต่างๆ ทั่วโลกมองว่าใกล้สิ้นสภาพ จะป้องกันตัวเองได้หรือไม่ก็ยังน่ากังขา

สหรัฐฯ ทำตัวเป็นชาติมหาอำนาจ ยุ่มย่ามในกิจการ แทรกแซง เปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศที่ไม่เดินตามนโยบาย อ้างความเป็นประชาธิปไตย ปกป้องสิทธิมนุษยชน

ใช้พลังเงินดอลลาร์คว่ำบาตรเศรษฐกิจประเทศอื่น หรือรุกรานด้วยกำลังทหาร เข่นฆ่าประชาชนทั่วโลก มีฐานทัพสำหรับทหารประจำการ 750 แห่งทั่วโลก

ไม่มีชาติใดทำเช่นนั้น สหรัฐฯ ยังประทับตรา กำหนดให้ชาตินั้น ชาติโน้นเป็นศัตรู ขัดขวางผลประโยชน์ อ้างอย่างหน้าด้านๆ อายัด ยึดทรัพย์สินชาติอื่นๆ ที่ฝากไว้ในธนาคารชาติตะวันตก ทำบ่อยๆ ทำให้ชาติอื่นๆ รู้ว่าไม่ปลอดภัยที่จะพึ่งเงินดอลลาร์

เงินดอลลาร์ที่เลิกผูกติดกับราคาทองคำในยุคประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน

การไม่ผูกติดกับทองคำ ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าสหรัฐฯ ยังมีทองคำสำรองในคลังฟอร์ต นอกซ์ อีกเท่าไหร่ ถ้ายังต้องพิมพ์เพิ่ม ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ค่าเงินมีแต่จะลด

การใช้มาตรการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

เกิดการแข็งข้อ กบฏต่ออำนาจสหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ ไม่ทำแบบโดดเดี่ยวเหมือนซัดดัม ฮุสเซนของอิรัก หรือโมฮัมหมัด กัดดาฟีของลิเบีย ที่โดนกองทัพสหรัฐฯ และนาโตบุกเข้าไปทำสงคราม จับทั้ง 2 คนฆ่า ปล้นทรัพยากร ทรัพย์สินต่างๆ

ยุคโจ ไบเดน หลายชาติไม่กลัวสหรัฐฯ จับขั้วเป็นพันธมิตรต่อต้าน เช่นกลุ่ม BRICS มีบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ได้ใช้เงินสกุลของประเทศตัวเองซื้อขายกันโดยมีเงินหยวนของจีนเป็นฐาน ทุกประเทศมีทองคำ ทรัพยากรหนุนฐาน

สงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้สหรัฐฯ และยุโรปคว่ำบาตรรัสเซียด้านเศรษฐกิจ ยึดเงินฝาก 300 แสนล้านดอลลาร์ที่ฝากไว้ในธนาคารโลกตะวันตก หวังให้รัสเซียล่มจม

นี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายบนหลังอูฐ หลายชาติมองว่าถ้ามีเงินดอลลาร์ และฝากไว้ในสถาบันการเงินตะวันตก ก็จะตกอยู่ในสภาพเหมือนรัสเซีย ก่อนหน้านี้อิรัก อิหร่าน ซีเรีย ลิเบีย เกาหลีเหนือ เวเนซุเอลา คิวบา เมียนมา ก็โดนเล่นงานแบบนี้

สหรัฐฯ และพวกเล่นงานรัสเซียไม่สำเร็จ เพราะรัสเซียมีทรัพยากร เช่นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ แร่เหล็ก ปุ๋ยเคมี ข้าวสาลี ธัญพืช เป็นแหล่งผลิตอาหาร มีทองคำสำรองที่สำคัญ ได้เตรียมพร้อมรับมาตรการคว่ำบาตร มีระบบการเงินกันแรงกระแทก

รัสเซียจึงไม่เป็นเหยื่อการคว่ำบาตรถึงขั้นเศรษฐกิจพินาศ สามารถอยู่รอดได้ด้วยการขายพลังงานให้จีนและอินเดีย เป็นลูกค้ารายใหญ่ ไม่ต้องใช้เงินดอลลาร์

กลุ่ม BRICS มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่ากลุ่ม G7 ซึ่งมีสหรัฐฯ เป็นหัวโจก จีนมีกลุ่มความร่วมมือความมั่นคงเซี่ยงไฮ้ ล่าสุดได้ซาอุฯ และกลุ่มประเทศอ่าวเปอร์เซียมาเข้าร่วมเป็นมิตรกับเครือข่ายจีน รัสเซีย ไม่ใช้เงินดอลลาร์ซื้อขายน้ำมัน

จีนกับบราซิลมีข้อตกลงค้าขายสินค้าโดยไม่ใช้เงินดอลลาร์ วันนี้มีอย่างน้อย 85 ประเทศตกลงที่จะไม่ใช้เงินสกุลดอลลาร์ รายใหญ่ขายคืนพันธบัตรสหรัฐฯ

ซาอุฯ และรัสเซียเป็นแกนหลักในโอเปกและโอเปกพลัส เป็นกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำหนดราคาตลาดด้วยระดับการผลิต สหรัฐฯ ทำอะไรไม่ได้เหมือนในอดีตเพราะมีจีนและรัสเซียกางปีกป้องอยู่ ทั้งซาอุฯ ยังคืนดีกับอิหร่าน

สหรัฐฯ สูญเสียอำนาจในตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกาโดยสิ้นเชิง ชาติแอฟริกันไม่ยอมก้มหัวให้ชาติยุโรปนักล่าอาณานิคม อ้างสิทธิมนุษยชน

ทั้งยังตอกหน้าสหรัฐฯ ว่าเป็นชาตินักค้าทาส รุกรานเข่นฆ่าคนชาติอื่นๆ ทั่วโลก

การลุกฮือ ไม่เอาสหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ เท่ากับไม่ยอมรับพลังของชาติมหาอำนาจซึ่งไม่ใช่ขั้วเดียวอีกต่อไป มีขั้วจีน-รัสเซียร่วมกันเป็นอีก 1 ขั้ว

อาเซียนมีประชากรกว่า 630 ล้านคน ประกาศไม่เอาดอลลาร์ซื้อขายสินค้าในกลุ่มสมาชิก ใช้เงินสกุลในประเทศอาเซียน ถือว่าเป็นการแข็งข้ออย่างไม่หวั่นสหรัฐฯ

จริงอยู่ สิงคโปร์และฟิลิปปินส์เป็นเด็กดีของสหรัฐฯ ไม่อี๋อ๋อกับจีน แต่ต้องพึ่งอาเซียนด้านการค้า การลงทุนและทรัพยากร รู้ดีว่าการมีมิตรไกลบ้าน มีศัตรูใกล้บ้านนั้นเป็นอย่างไร เห็นความพินาศย่อยยับของยูเครนแล้วว่าจะพึ่งพาสหรัฐฯ ไม่ได้

De-industrialization กำลังเกิดขึ้นในยุโรปที่ขาดก๊าซธรรมชาติสำหรับภาคอุตสาหกรรม การค้า ที่อยู่อาศัย ขณะที่ De-dollarization กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช้เงินดอลลาร์เป็นทุนสำรองและเป็นตัวกลางในการซื้อขาย

ผู้นำฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง กลับจากการพบกับผู้นำจีน สี จิ้นผิง บอกเพื่อนๆ ในชาติยุโรปว่าถึงเวลาที่ลดการพึ่งพาสหรัฐฯ และเงินดอลลาร์

เพียงแค่ ส.ส., ส.ว. สหรัฐฯ ทำตัวเฮ้าเลี่ยน ประกาศจะทำสงครามกับจีน ที่แท้พวกนี้ก็เป็นสมุนของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่บริจาคสนับสนุนทุนเลือกตั้ง นักการเมืองอเมริกันยังหลงตัว ไม่รู้ชะตา นึกว่าตัวเองยังยิ่งใหญ่ เป็นพวกประสบการณ์น้อยในโลกกว้าง