ยุฐิษพักตร์ ตะวันนา
เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างวัฒนธรรม เอเอฟเอส ประเทศไทย
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอารยธรรมยาวนาน มีวัฒนธรรมที่ถูกฝังรากลึกและแผ่ขยายไปยังวัฒนธรรมของชาติอื่น ๆ ทั่วโลก ปัจจุบันประเทศจีนนับว่าเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ นับตั้งแต่สมัยที่ประธานาธิบดี เติง เสี่ยวผิง ประกาศนโยบายปฏิรูปทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก จนทำให้เศรษฐกิจของจีนมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าขนาดเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มที่จะแซงหน้าประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกอย่างสหรัฐอเมริกาในไม่ช้า ประเทศจีนมีเป้าหมายที่จะเป็นประเทศทันสมัยตามอัตลักษณ์จีนภายในปี ค.ศ. 2035 โดยตั้งเป้าจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว (GDP) เทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้ว และได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างสังคมที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น และจีนยังมีเป้าหมายต่อไป คือ การพัฒนาประเทศให้มีความยิ่งใหญ่รอบด้าน มีความเจริญรุ่งเรือง แข็งแกร่ง มีความเป็นประชาธิปไตยแบบจีน และก้าวหน้าทางวัฒนธรรม ภายในปี ค.ศ. 2050
จีนมีประชากร 1.4 พันล้านคน ถือเป็นอันดับ 1 ของ โลก และชาวจีนได้ตั้งหลักปักฐานและได้นำวัฒนธรรมของชาติของตนแผ่อิทธิพลไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้ภาษาจีนถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะส่งผลให้ผู้รู้ภาษาจีนสามารถติดต่อสื่อสารทำธุรกิจและประกอบกิจการ รวมทั้งสามารถเข้าถึงฐานการผลิตที่มีกำลังการผลิตมากเป็นอันดับ 1 ของโลกได้ อีกทั้งภาษาจีน ยังเป็นภาษาที่สำคัญที่นักเรียนและนักศึกษาให้ความสนใจเรียนเป็นภาษาที่สาม เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาต่อและโอกาสทางการทำงานหลังสำเร็จการศึกษา ดังนั้น การเรียนรู้ภาษาจีนและเข้าใจในวัฒนธรรมจีนจะเพิ่มประโยชน์ให้แก่เยาวชนไทยในอนาคตอย่างปฏิเสธไม่ได้ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยมีความสัมพันธ์ทางด้านการค้าและวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ชาวจีนได้เดินทางอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานและดำรงชีวิตในประเทศไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยวัฒนธรรมจีนได้ถูกหล่อหลอมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย ดังจะเห็นได้จากศาลเจ้า สมาคมตระกูลแซ่ สมาคมกลุ่มภาษา สมาคมอาชีพ และสถาบันการศึกษาจีน โรงเรียนจีน ธุรกิจห้างร้าน ส่งผลให้ชาวไทยเชื้อสายจีนในปัจจุบันยังคงรักษาวัฒนธรรมจีนในชีวิตประจำวันไว้ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร และการเฉลิมฉลองเทศกาลของจีนในวาระต่าง ๆ ในประเทศไทย
เอเอฟเอส ประเทศไทย ได้เห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นของการเรียนรู้และเข้าใจภาษาและวัฒนธรรมจีน จึงได้จัดกิจกรรม “ค่ายจอหงวน รุ่นที่ 2” ระหว่างวันที่ 28 – 30 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นค่ายที่ออกแบบสำหรับน้องๆ อายุ 13 - 16 ปี ที่มีความสนใจในภาษาและวัฒนธรรมจีน ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐาน ขอมีแค่ใจใฝ่เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรม หรืออยากลองศึกษาตนเองก่อนต่อยอดศึกษาและเปลี่ยน ณ ประเทศจีนในอนาคต ค่ายจอหงวนเป็นการเรียนรู้รูปแบบ Active Learning เรียนจริง รู้จริง ต่อยอดได้จริง จบกิจกรรมแล้วรับ Certificate จากเอเอฟเอส ประเทศไทย ซึ่งทักษะการใช้ภาษาจีนควรได้รับการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการเรียนรู้วัฒนธรรมจีน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในภาษาและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งจนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้การเรียนรู้ภาษาจีนที่สอดแทรกความรู้ทางวัฒนธรรมจีนยังทำให้เกิดความสนุกสนานและเพิ่มความเข้าใจในการเรียนภาษาและวัฒนธรรมจีนได้ในระดับลึกซึ้ง และก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ภาษาจีนมากยิ่งขึ้น
ภายในค่ายจอหงวน รุ่นที่ 2 นี้ น้องๆ จะได้เรียนรู้การใช้ภาษาจีนพื้นฐานในเบื้องต้นกับเหล่าซือที่มีความเชี่ยวชาญในภาษาจีนโดยตรง และได้เรียนรู้วัฒนธรรมจีนผ่านการลงมือสัมผัสจริง โดยเอเอฟเอส ประเทศไทย ได้ยกเอาวัฒนธรรมจีนที่น้องๆ สามารถเรียนรู้ได้อย่างง่ายดายและสนุกสนานมาให้ได้เรียนรู้กัน เช่น การถักเชือกจีน การปั้นเกี๊ยวจีน การชงชาจีน และการวาดภาพจากพู่กันจีน ตลอดจนน้องๆ ยังมีโอกาสได้พบเจอกับรุ่นพี่นักเรียนเก่าเอเอฟเอสที่ไปแลกเปลี่ยน ณ ประเทศจีน มาเล่าประสบการณ์ระหว่างศึกษาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอยู่ที่ประเทศจีน และการเตรียมความพร้อมเพื่อเรียนต่อทางด้านจีนศึกษาหรือไปแลกเปลี่ยน ณ ประเทศจีนอีกด้วย สำหรับผู้ปกครองหรือน้องๆ ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมค่ายจอหงวน รุ่น 2 สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - 20 เมษายน 2566 ทาง https://thailand.afssite.afs.org/icl-chinese-camp-2 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร. 062-521-6554
เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างวัฒนธรรม เอเอฟเอส ประเทศไทย
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอารยธรรมยาวนาน มีวัฒนธรรมที่ถูกฝังรากลึกและแผ่ขยายไปยังวัฒนธรรมของชาติอื่น ๆ ทั่วโลก ปัจจุบันประเทศจีนนับว่าเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ นับตั้งแต่สมัยที่ประธานาธิบดี เติง เสี่ยวผิง ประกาศนโยบายปฏิรูปทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก จนทำให้เศรษฐกิจของจีนมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าขนาดเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มที่จะแซงหน้าประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกอย่างสหรัฐอเมริกาในไม่ช้า ประเทศจีนมีเป้าหมายที่จะเป็นประเทศทันสมัยตามอัตลักษณ์จีนภายในปี ค.ศ. 2035 โดยตั้งเป้าจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว (GDP) เทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้ว และได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างสังคมที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น และจีนยังมีเป้าหมายต่อไป คือ การพัฒนาประเทศให้มีความยิ่งใหญ่รอบด้าน มีความเจริญรุ่งเรือง แข็งแกร่ง มีความเป็นประชาธิปไตยแบบจีน และก้าวหน้าทางวัฒนธรรม ภายในปี ค.ศ. 2050
จีนมีประชากร 1.4 พันล้านคน ถือเป็นอันดับ 1 ของ โลก และชาวจีนได้ตั้งหลักปักฐานและได้นำวัฒนธรรมของชาติของตนแผ่อิทธิพลไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้ภาษาจีนถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะส่งผลให้ผู้รู้ภาษาจีนสามารถติดต่อสื่อสารทำธุรกิจและประกอบกิจการ รวมทั้งสามารถเข้าถึงฐานการผลิตที่มีกำลังการผลิตมากเป็นอันดับ 1 ของโลกได้ อีกทั้งภาษาจีน ยังเป็นภาษาที่สำคัญที่นักเรียนและนักศึกษาให้ความสนใจเรียนเป็นภาษาที่สาม เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาต่อและโอกาสทางการทำงานหลังสำเร็จการศึกษา ดังนั้น การเรียนรู้ภาษาจีนและเข้าใจในวัฒนธรรมจีนจะเพิ่มประโยชน์ให้แก่เยาวชนไทยในอนาคตอย่างปฏิเสธไม่ได้ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยมีความสัมพันธ์ทางด้านการค้าและวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ชาวจีนได้เดินทางอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานและดำรงชีวิตในประเทศไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยวัฒนธรรมจีนได้ถูกหล่อหลอมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย ดังจะเห็นได้จากศาลเจ้า สมาคมตระกูลแซ่ สมาคมกลุ่มภาษา สมาคมอาชีพ และสถาบันการศึกษาจีน โรงเรียนจีน ธุรกิจห้างร้าน ส่งผลให้ชาวไทยเชื้อสายจีนในปัจจุบันยังคงรักษาวัฒนธรรมจีนในชีวิตประจำวันไว้ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร และการเฉลิมฉลองเทศกาลของจีนในวาระต่าง ๆ ในประเทศไทย
เอเอฟเอส ประเทศไทย ได้เห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นของการเรียนรู้และเข้าใจภาษาและวัฒนธรรมจีน จึงได้จัดกิจกรรม “ค่ายจอหงวน รุ่นที่ 2” ระหว่างวันที่ 28 – 30 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นค่ายที่ออกแบบสำหรับน้องๆ อายุ 13 - 16 ปี ที่มีความสนใจในภาษาและวัฒนธรรมจีน ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐาน ขอมีแค่ใจใฝ่เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรม หรืออยากลองศึกษาตนเองก่อนต่อยอดศึกษาและเปลี่ยน ณ ประเทศจีนในอนาคต ค่ายจอหงวนเป็นการเรียนรู้รูปแบบ Active Learning เรียนจริง รู้จริง ต่อยอดได้จริง จบกิจกรรมแล้วรับ Certificate จากเอเอฟเอส ประเทศไทย ซึ่งทักษะการใช้ภาษาจีนควรได้รับการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการเรียนรู้วัฒนธรรมจีน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในภาษาและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งจนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้การเรียนรู้ภาษาจีนที่สอดแทรกความรู้ทางวัฒนธรรมจีนยังทำให้เกิดความสนุกสนานและเพิ่มความเข้าใจในการเรียนภาษาและวัฒนธรรมจีนได้ในระดับลึกซึ้ง และก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ภาษาจีนมากยิ่งขึ้น
ภายในค่ายจอหงวน รุ่นที่ 2 นี้ น้องๆ จะได้เรียนรู้การใช้ภาษาจีนพื้นฐานในเบื้องต้นกับเหล่าซือที่มีความเชี่ยวชาญในภาษาจีนโดยตรง และได้เรียนรู้วัฒนธรรมจีนผ่านการลงมือสัมผัสจริง โดยเอเอฟเอส ประเทศไทย ได้ยกเอาวัฒนธรรมจีนที่น้องๆ สามารถเรียนรู้ได้อย่างง่ายดายและสนุกสนานมาให้ได้เรียนรู้กัน เช่น การถักเชือกจีน การปั้นเกี๊ยวจีน การชงชาจีน และการวาดภาพจากพู่กันจีน ตลอดจนน้องๆ ยังมีโอกาสได้พบเจอกับรุ่นพี่นักเรียนเก่าเอเอฟเอสที่ไปแลกเปลี่ยน ณ ประเทศจีน มาเล่าประสบการณ์ระหว่างศึกษาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอยู่ที่ประเทศจีน และการเตรียมความพร้อมเพื่อเรียนต่อทางด้านจีนศึกษาหรือไปแลกเปลี่ยน ณ ประเทศจีนอีกด้วย สำหรับผู้ปกครองหรือน้องๆ ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมค่ายจอหงวน รุ่น 2 สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - 20 เมษายน 2566 ทาง https://thailand.afssite.afs.org/icl-chinese-camp-2 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร. 062-521-6554