หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ
คนกลุ่มหนึ่งมองว่าอำนาจที่บริหารประเทศอยู่นี้เป็นอำนาจของฝ่ายอนุรักษนิยมที่ล้าหลังและไม่อาจสร้างความหวังที่จะนำพาชีวิตไปในวันข้างหน้าได้ พวกเขาไม่เพียงต้องการเปลี่ยนแปลงให้ฝ่ายที่พวกเขาสนับสนุนเข้าครอบครองอำนาจรัฐเท่านั้น หลายคนยังต้องการการเปลี่ยนแปลงเชิงระบอบด้วยซ้ำไป
คนกลุ่มนี้เชื่อว่าการแข่งขันด้วยกติกาที่เสรีที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาช่วงชิงกันเป็นประตูไปสู่ความเท่าเทียม หนุ่มสาวจำนวนมากต่างเชื่อว่า คนรุ่นเก่าฝั่งอนุรักษนิยมทำให้พวกเขาไม่อาจต่อสู้เพื่อแสวงหาโอกาสดีในชีวิตและต่างเชื่อว่า ความคิดของคนรุ่นเก่านั้นควรจะถูกทำลายลบล้างออกไปจากสังคมไทยไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่มีโอกาสเติบโตขึ้นมาในสังคมไทย คนกลุ่มนี้เชื่อว่าประวัติศาสตร์ของสังคมไทยเป็นเบ้าหลอมที่ทำให้พวกเขาไม่อาจเชิดหน้าชูตาขึ้นมาได้ กลุ่มนี้ไม่ศรัทธาหรือซาบซึ้งอะไรที่เกี่ยวกับความเป็นไทยเลย
แน่นอนพวกเขาไม่ศรัทธาในศาสนาที่ผู้นำทางความคิดของพวกเขาบอกว่าไม่ควรมอบกราบในพระเจ้าองค์ไหน ไม่ควรจะเชื่อมั่นในศาสนาไหนหรือศาสดาองค์ไหน หรือแม้แต่พ่อแม่ก็ไม่มีบุญคุณต่อกัน สังคมไทยที่เป็นอยู่ทุกวันนี้พวกเขาเห็นว่าควรจะถูกทำลายค่านิยมแบบเดิมลงไปให้หมดสิ้น
เมื่อไม่เชื่อศาสดาองค์ไหน ไม่หมอบกราบพระเจ้าองค์ไหน ไม่มีบุญคุณติดค้างกับพ่อแม่ที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่แน่นอนพวกเขาย่อมไม่เชื่อมั่นในรากเหง้าของสังคมที่เคารพนับถือต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นผู้นำมาพาชาติไทยให้อยู่รอดมาและเป็นจุดศูนย์กลางความศรัทธาของคนไทยอีกฟากฝั่งความคิด เพราะเมื่อไม่ศรัทธาแม้แต่พ่อแม่ของตัวเองแล้วจะศรัทธาต่อพ่อของแผ่นดินได้อย่างไร
ด้วยช่วงวัยที่ฮึกเหิมพวกเขาจึงออกมาท้าทายสังคมไทยเดิมแบบก้าวร้าวรุนแรงและหยาบคายเกินกว่าที่อีกฝั่งจะยอมรับได้ เพราะพวกเขาต้องการแตกหักไม่ต้องการประนีประนอม
คนกลุ่มนี้เชื่อว่า ความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้นต่างๆทั้งโอกาสในการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจและทางสังคมล้วนแล้วแต่เป็นเพราะโครงสร้างสังคมเก่ากดทับทำลายโอกาสของพวกเขา พวกเขาเชื่อว่าประเทศไทยไม่มีสิ่งดีมอบให้ชีวิตของพวกเขาเลย มีแต่จะแสวงหาโอกาสออกไปใช้ชีวิตในต่างแดนเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาได้สิ่งที่ทุกอย่างที่ปรารถนา แม้คนที่เคยไปสัมผัสชีวิตในต่างแดนบอกว่า ไม่มีทางที่จะมีความเท่าเทียมกันในการแข่งขันเสรีไม่ว่าจะหนีไปอยู่ที่ไหนในโลกนี้ เพราะไม่ว่าอย่างใดก็ย่อมมีผู้ที่เหนือกว่าและด้อยกว่า พวกเขาก็ยังโทษสังคมไทยและความเป็นไทยอยู่ดีว่าปิดกั้นหนทางชีวิตของพวกเขา
แน่นอนว่าคนเหล่านี้จะเลือกพรรคก้าวไกล เพราะพรรคนี้สร้างขึ้นโดยศาสดาที่พวกเขาเชื่อมั่นและกล้าที่จะท้าทายโครงสร้างของสังคมไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คนไทยเคารพ คนของพรรคนี้จึงสนับสนุนการเรียกร้องให้ทำลายกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีไว้เพื่อผู้ป้องกันการดูหมิ่น หมิ่นประมาท อามาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ราชินี และรัชทายาท การอ้างว่าต้องยกเลิกเพื่อความปลอดภัยในการพูดก็เพื่อจะได้ทำในสิ่งที่มาตรา 112 ห้ามนั่นเอง
ต้องยอมรับว่าคนหนุ่มสาวจำนวนมากเชื่อมั่นในสิ่งที่กล่าวถึงมา และคนหนุ่มสาวที่มีสิทธิ์กาบัตรเลือกตั้งที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปถึงอายุ 30 ปี แทบทั้งหมดที่มีความคิดเช่นนี้ แน่นอนว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะกาบัตรเลือกพรรคที่พวกเขาเชื่อมั่นว่าพรรคการเมืองพรรคนี้จะสามารถทำลายโครงสร้างของสังคมไทย และเป็นผู้นำทางความคิดของพวกเขาที่จะนำพาให้พวกเขาก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ ไม่เพียงเท่านั้นคนอายุตั้งแต่ 31-45 ปีไม่น้อยที่เชื่อมั่นในความคิดของพรรคนี้เช่นเดียวกัน
นอกจากนั้นพ่อแม่จำนวนไม่น้อยด้วยความรักต่อลูกของตัวเองก็เปลี่ยนไปคล้อยตามความคิดของลูก คนจำนวนหนึ่งเคยออกมาร่วมขับไล่ระบอบทักษิณ เคยร่วมชุมนุมการนิรโทษกรรมสุดซอยวันนี้ก็มาสารภาพผิดต่อลูก เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ลูกของตัวเองคิดอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ถูก และหันมาศรัทธาต่อพรรคก้าวไกลเช่นเดียวกัน
ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วพรรคก้าวไกลอาจจะได้คะแนนส่วนหนึ่งจากการที่พรรคไทยรักษาชาติที่เป็นพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทยถูกยุบในพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ลงสมัคร แต่ในการแข่งขันครั้งนี้พรรคก้าวไกลเป็นคู่แข่งสำคัญของพรรคเพื่อไทยเพื่อแย่งชิงฐานมวลชนเดียวกัน ขณะที่หลายคนเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกลท้าทายต่ออำนาจเก่าของสังคมไทยมากกว่าในขณะที่ไม่เชื่อมั่นต่อพรรคเพื่อไทยมากนักว่าจะกล้าต่อต้านต่ออำนาจเก่าของสังคมไทย
ส่วนคนอีกกลุ่มเชื่อมั่นในระบอบทักษิณและศรัทธาต่อทักษิณ ชินวัตร คนเหล่านี้มีทั้งที่เชื่อว่า ทักษิณโกงแต่ทักษิณก็ให้ประโยชน์แก่พวกเขาด้วยดีกว่านักการเมืองคนอื่นที่โกงและหาประโยชน์เช่นกันแต่ไม่ตกถึงประชาชน แต่มีคนไม่น้อยเช่นกันที่ศรัทธาทักษิณแต่ไม่เชื่อว่าทักษิณโกง แม้ศาลจะพิพากษาลงโทษทักษิณแต่ก็ยังเชื่อว่า เป็นเพราะความอยุติธรรมทักษิณถูกกลั่นแกล้งเพราะอำนาจเก่าอิจฉาที่ทักษิณทำให้คนจำนวนมากศรัทธาต่อตัวเอง แม้ว่าในกระบวนการยุติธรรมจะบรรยายความผิดของทักษิณออกมาอย่างไรพวกเขาก็ไม่เชื่อ เพราะปักใจไปแล้วว่าทักษิณถูกใส่ร้ายนั่นเอง
น่าแปลกที่คนที่ศรัทธาในทักษิณก็ชอบอ้างความเท่าเทียมและประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน แต่มองไม่เห็นว่าทักษิณเอาเปรียบสังคมไทยอย่างไร ทักษิณใช้อำนาจแก้ไขกฎหมายและระเบียบต่างๆเพื่อให้บริษัทและตัวเองร่ำรวยขึ้นอย่างไร คิดไม่ได้ว่า ทำไมรัฐมนตรีและนักการเมืองในฝั่งของทักษิณจำนวนมากจึงถูกศาลสั่งจำคุก เช่นเดียวกับทักษิณและยิ่งลักษณ์น้องสาวที่ถูกจำคุกและหนีคดี
ไม่มีใครคิดว่ามันจะเป็นไปได้เหรอที่คนเหล่านั้นทั้งหมดถูกจำคุกเพราะโดนกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่บ่งชี้ว่าคนเหล่านี้กระทำมิชอบต่ออำนาจหน้าที่และต่อแผ่นดิน
และหากพูดถึงประชาธิปไตยในพรรคเพื่อไทยของทักษิณก็ไม่มีสิ่งนี้เลย ทุกอย่างขึ้นกับทักษิณชี้นิ้วและกำหนดว่าจะให้ใครอยู่ตรงไหนมีบทบาทอย่างไร ไม่เช่นนั้นอยู่ๆ ทักษิณจะให้น้องเขยของตัวเองขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือ หรือน้องสาวของทักษิณอยู่ๆ จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือ ถ้ามันมีประชาธิปไตยในพรรคจริง แล้ววันนี้คนพรรคเพื่อไทยทั้งพรรคก็ต้องค้อมหัวยอมรับลูกสาวของทักษิณแพทองธารที่มีประวัติการศึกษาที่ด่างพร้อยจากผลการทำคะแนนข้อสอบสองรอบที่ต่างกันมหาศาลแล้วผลสอบสวนต่อมายืนยันว่ามีข้อสอบรั่ว แถมเธอยังไม่ปรากฎเลยว่ามีความสามารถตรงไหนเคยทำอะไรประสบความสำเร็จมาแล้วบ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทยนั้นต้องยอมรับว่า เป็นวิสัยของเผด็จการทั้งสิ้นที่ถูกชี้นำโดยทักษิณคนเดียว แม้ว่าคนในพรรคจะปฏิเสธอย่างไรก็ไม่มีคนเชื่อ แต่ที่ต้องปฏิเสธเช่นนั้นเพราะกลัวความผิดที่พรรคจะถูกครอบงำจากคนนอกเท่านั้น แต่ความจริงก็เป็นอย่างที่คนเชื่อกันว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสมบัติของทักษิณและจะต้องตกทอดต่อกันไปตระกูลของทักษิณเท่านั้น
แน่นอนไม่มีใครไปห้ามคนที่จะเลือกพรรคเพื่อไทยได้ เพราะพวกเขาเชื่อว่าพรรคการเมืองพรรคนี้เป็นพรรคที่ทำให้พวกเขาลืมตาอ้าปากได้แม้นักการเมืองพรรคนี้จะถูกศาลจำคุกว่าคดโกงกี่คนก็ตาม จนกว่าวันหนึ่งพวกเขาจะสำนึกได้ว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติที่ถูกโกงกินไปกับสิ่งที่เขาได้เศษเนื้อเล็กน้อยๆ จากนักการเมืองตระกูลนี้นั้นมันแตกต่างกันมาก
ถ้าวันนี้คนในสังคมไทยยังเชื่อมั่นต่อพรรคการเมืองที่มีผลงานทุจริตจนเป็นที่ประจักษ์จากการถูกดำเนินคดีต่างๆ มากมาย หรือคนรุ่นใหม่จะศรัทธาต่อพรรคการเมืองของพวกเขาที่เชื่อว่าจะสามารถนำพาสังคมที่ดีกว่าเพื่อเปิดโอกาสให้พวกเขาเติบโตได้ และถ้าเสียงของคนสองกลุ่มนี้รวมกันกลายเป็นเสียงของคนส่วนใหญ่ในสังคม คนที่เหลือก็ต้องยอมรับชะตากรรมร่วมกัน
เราต้องยอมรับด้วยว่า การที่คนจำนวนมากต้องการการเปลี่ยนแปลง คนจำนวนมากยังโหยหาระบอบทักษิณก็เพราะอำนาจภายใต้ระบอบที่มันเป็นอยู่นั้นก็ไม่ได้สมบูรณ์จนทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อมั่นที่จะนำพาประเทศไปได้ แม้เราจะมองเห็นสิ่งที่พวกเขาเชื่อจะอันตรายต่อสังคมไทยยิ่งกว่า แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ต้องการเช่นนั้นเราก็คงต้องยอมให้มันเป็นไป
และหากคนส่วนใหญ่ออกไปกาบัตรให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเกินครึ่งของสภาเพื่อล้มขั้วรัฐบาลเดิมก็คงเป็นชะตากรรมที่ทุกฝ่ายต้องยอมรับด้วยกัน