เปิดฉากสัปดาห์นี้...ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปว่ากันเรื่อง “เงินๆ-ทองๆ” น่าจะเหมาะกว่า โดยเฉพาะเรื่อง “เงินยูเอสดอลลาร์” ของคุณพ่ออเมริกาเขานั่นแหละ เพราะจากที่เคยเป็นที่ปรารถนา-ต้องการของผู้คนทั่วทั้งโลก มีอำนาจ อิทธิพล ระดับสามารถครอบงำ ครอบครอง ระบบการเงิน-การทองของบรรดาประเทศต่างๆ แทบจะทั่วทั้งโลก แต่หลังๆ นี้...คงต้องยอมรับว่า ออกอาการคล้ายๆ เป็นอะไรที่ “เสนียด-จัญไร” ยิ่งเข้าไปทุกที!!! ชนิดเรียกว่า...ใครต่อใครชักไม่อยากแตะ อยากต้อง พอๆ กับบทเพลงของ “น้องพลับ-จุฑาภัทร เหล่าธรรมทัศน์” เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว คือ...“ใครใครก็ไม่รักผม...ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย” อะไรประมาณนั้น...
ล่าสุด...เห็นว่าขนาดประเทศเศรษฐกิจอันดับหนึ่งแห่งละตินอเมริกา คุณพี่แซมบ้า-บราซิลกับพญามังกรอย่างคุณพี่จีน มหาอำนาจคู่แข่งอเมริกาและมหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก ที่ทำท่าว่ากำลังจะแซงหน้าแถวๆ ทางโค้งวัดเบญฯ จะเบียดซ้าย-เบียดขวามหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับ 1 อย่างอเมริกา ให้ตกคู-ตกคลอง อีกไม่ใกล้-ไม่ไกล เกิดได้ช่อง ได้จังหวะในการซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนระหว่างกันและกัน ด้วย “เงินหยวน” และ “เงินเรอัล” (Real Brasileiro) กันแทนที่ ไม่เอาแล้วสำหรับ “เงินดอลลาร์อเมริกัน” นี่...ถ้าว่ากันตามคำประกาศของสำนักงานประชาสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุน หรือ “ApexBrasil” (The Brazilian Trade and Investment Promotion Agency) ของบราซิลเอง เมื่อช่วงวันพุธ (29 มี.ค.) ที่ผ่านมา...
แล้วถ้าคิดเป็น “มูลค่า” การค้า-การขายระหว่าง 2 ประเทศ ก็ปาเข้าไปถึงระดับ 150,500 ล้านดอลลาร์เมื่อช่วงปีที่ผ่านมานี่เอง นั่นยังไม่รวมถึงการซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยน ระหว่างคุณพี่จีนกับคุณน้ารัสเซีย ที่ไม่เพียงเพิ่มพรวดๆ พราดๆ ใกล้ๆ ถึงปีละ 200,000 ล้านดอลลาร์อีกไม่ใกล้-ไม่ไกล ที่พร้อมอก-พร้อมใจ พร้อมส่ายหน้าให้กับเงินยูเอสดอลลาร์ ไม่คิดจะแตะ ไม่คิดจะต้องอีกต่อไป สู้หันมาใช้ “เงินหยวน” กับ “เงินรูเบิล” สบายกาย-สบายใจกว่าเป็นไหนๆ ไม่ต่างไปจากคุณปู่อินตะระเดียที่หันมาซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนกับคุณน้ารัสเซียด้วย “เงินรูเบิล” และ “เงินรูปี” ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อต้องซื้อน้ำมัน-ซื้อแก๊สจากรัสเซียโดยไม่คิดสนใจคำขู่ฟ่อดๆๆ ของคุณพ่ออเมริกาหรือบรรดาชาติตะวันตกต่อไปอีกแล้ว ด้วยเหตุเพราะอำนาจอธิปไตยอินเดียย่อมตั้งอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ชาวอินตะระเดียเป็นหลัก ไม่ใช่แค่ “พรมเช็ดเท้า” ให้ใครๆ เหมือนอย่างชาติยุโรปทั้งหลาย มูลค่าการค้า-การขายระหว่าง 2 ประเทศที่มีแต่เพิ่มกับเพิ่ม ปาเข้าไประดับ 3-4 หมื่นล้านดอลลาร์ไปแล้วทุกวันนี้ โดยยังไม่นับรวมถึงการซื้ออาวุธรัสเซียในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา อีกไม่รู้กี่หมื่นล้านดอลลาร์...
ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ...ประเทศอภิมหาเศรษฐีน้ำมันอย่างราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ที่เคยขายน้ำมันให้กับใครต่อใครด้วย “เงินดอลลาร์อเมริกัน” เป็นหลัก แต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมานี่เอง รัฐมนตรีคลังซาอุฯ “นายMohammed Al-Jadaan” ก็ได้ออกมาป่าวประกาศแบบเสียงดัง-ฟังชัด ว่าซาอุฯ พร้อมแล้วที่จะเปิดกว้างในการพูดคุยเรื่องการซื้อ-ขายน้ำมันกับประเทศต่างๆ ด้วยสกุลเงินที่ไม่ใช่ดอลลาร์อเมริกันอีกต่อไป โดยที่ก่อนหน้านั้นได้หันมาขายน้ำมันให้จีนด้วยการพร้อมยอมรับเงินสกุลหยวนอย่างไม่คิดจะปฏิเสธ แถมเมื่อวัน-สองวันนี้กษัตริย์ซาอุฯ ยังทรงลงนามสมัครเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศ “SCO” (The Shanghai Cooperation Organization) ไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนจีน โดยอีกไม่นานนักก็น่าจะเข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศ “BRICS” ที่มีบราซิล-รัสเซีย-จีน-แอฟริกาใต้เป็นแกนนำอยู่ในทุกวันนี้ การค้าๆ-ขายๆ การซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มประเทศดังกล่าว โดยไม่คิดจะหันไปพึ่งพาเงินดอลลาร์อเมริกันเอาเลยแม้แต่น้อย ดังที่รัฐมนตรีต่างประเทศแอฟริกาใต้ “นายNaledi Pandor” เคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าว “Sputnik” เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ถึงเป้าหมายของ “BRICS” ที่พยายามหาทาง “Bypass” การชำระหนี้ด้วยยูเอสดอลลาร์ หรือพยายาม “De-Dollarization” ให้จงได้ จึงยิ่งเป็นอะไรที่น่าหวาดหวั่นขวัญสยอง มิใช่น้อย สำหรับผู้ที่ยังคิดจะกำเงินดอลลาร์อเมริกันเอาไว้ในมือ ไม่คิดจะหาทางหลีก หาทางเลี่ยง หรือหาทาง “Diversified” เอาไว้ก่อนล่วงหน้า...
โดยเฉพาะเมื่ออภิมหาเศรษฐีน้ำมันซาอุฯ ที่อดีตเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำซาอุฯ “นายCharles W. Freeman” เคยเอ่ยปากเตือนเอาไว้ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2000 ด้วยคำพูดที่ว่า...“สิ่งสำคัญที่ประเทศซาอุดีอาระเบียได้สร้างเอาไว้อย่างชนิดต้องจดจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ก็คือ การยืนหยัด ยืนกราน ที่จะซื้อ-ขายน้ำมันของพวกเขาด้วยเงินสกุลดอลลาร์ และทำให้รัฐบาลของเราจึงยังสามารถพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมาซื้อน้ำมันได้เรื่อยๆ โดยอาศัยความได้เปรียบที่ประเทศอื่นไม่ได้มีเหมือนเรา แต่ด้วยสัมพันธภาพอันตึงเครียดระหว่างเรากับประเทศนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ...ผมกังวลว่าอีกไม่นาน-ไม่ช้า พวกเขาอาจไม่คิดที่จะทำสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อประชาชนชาวซาอุฯ ต่างร้องถามขึ้นมาว่า...ทำไมเราต้องใจดีกับพวกอเมริกันถึงขั้นนั้น...” ดังนั้น...ถ้าหากซาอุฯ ดันหันไปซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนน้ำมันด้วยเงินสกุลอื่นกับพวก “BRICS” พวก “SCO” โอกาสที่จะส่งผลให้สิ่งที่เคยเรียกขานกันในนาม “Petro Dollar” ย่อมมีสิทธิ “เจ๊ง...กับ...เจ๊ง” เอาง่ายๆ เพราะขนาดประเทศบริวารซาอุฯ อย่างยูเออี หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทุกวันนี้ ก็เริ่มหันไปซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนกับรัสเซียด้วยเงินสกุล “รูเบิล” กับ “เดอร์แฮม” (Dirham) โดยไม่คิดจะแตะต้องเงินยูเอสดอลลาร์ต่อไปอีกแล้ว...
และจะด้วย “แนวโน้ม” เช่นนี้หรือไม่? อย่างไร? ก็แล้วแต่จะคิด เลยทำให้แม้แต่การประชุมรัฐมนตรีคลังและธนาคารกลางกลุ่มประเทศ “อาเซียน” เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (28 มี.ค.) ว่ากันว่า...“วาระสำคัญ” ที่ถูกหยิบยกมาแลกเปลี่ยนความคิดความเห็นระหว่างกันและกันในกลุ่มประเทศดังกล่าว ก็คือแนวคิดที่จะ “ลดการพึ่งพา” เงินสกุลยูเอสดอลลาร์ ไปจนถึงยูโร เยน และปอนด์อังกฤษ เอาเลยถึงขั้นนั้น!!! หรือกระทั่งประเทศพันธมิตรอเมริกาเองก็เถอะ ถ้าว่ากันตามข้อมูล สถิติ ของ “IMF” (IMF’s Currency Composition of Foreign Exchange Reserves data) การลดปริมาณเงินยูเอสดอลลาร์ในฐานะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ลดฮวบๆ ฮาบๆ ลงไปถึงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ไปแล้วก็ว่าได้...
ยิ่งเมื่อคุณพ่ออเมริกาท่านขยันหาเรื่องทะเลาะกับใครต่อใครไปแทบจะทั่วทั้งโลก อีกทั้งพยายามข่มขู่ บีบบังคับ ให้แต่ละประเทศต้องหันไปเป็น “ศัตรูกับศัตรู” ของตัวเอง มันเลยยิ่งส่งผลไปถึงสถานะของเงินยูเอสดอลลาร์อย่างเห็นได้ชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที ด้วยเหตุเพราะดอลลาร์ถูกทำให้กลายเป็น “อาวุธ” ในการเล่นงานศัตรูอเมริกา หรือผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับอเมริกา อันส่งผลให้ “จุดมุ่งหมายที่แท้จริง” ของเงินดอลลาร์ เลยถูกเปลี่ยนแปลง บิดเบน ไปจากพื้นฐานเดิมๆ แบบคนละเรื่อง-ละม้วน หรือทำให้ “เงินตรา” ไม่ได้เป็นแค่สิ่งแลกเปลี่ยนสำหรับการซื้อ-การขายโดยทั่วไปอีกต่อไป แต่กลายสภาพเป็นอาวุธที่มีลักษณะไม่ต่างอะไรไปจาก “ดาบสองคม” คือสามารถหันไปบาดมือ-บาดไม้ใครก็ตามที่ยังคิดจะกำเอาสิ่งเหล่านี้ไว้ในมือ หรือกลายเป็นสิ่งที่ “อันตราย” เอามากๆ สำหรับผู้ที่ยังคงไว้เนื้อ-เชื่อใจ ยังคงไว้วางใจต่อเงินตราชนิดนี้...
ดังนั้น...การหันมา “เททิ้งดอลลาร์” หันมา “De-Dollarization” เลยกลายเป็น “แนวโน้ม” ที่กำลังเพิ่มขึ้นๆ ในบรรดาประเทศต่างๆ แทบจะทั่วทั้งโลก และอาจถือเป็นการ “ส่งสัญญาณ” ถึงความฉิบหายวายวอด ที่ไม่ใช่เพียงแค่สถานะของเงินสกุลนี้เท่านั้น แต่ยังอาจหมายถึงความฉิบหายวายวอด ของมหาอำนาจสูงสุดของโลกอย่างคุณพ่ออเมริกา รวมไปถึงผู้ที่ยังคงเชื่อถือ-ศรัทธาต่อเงินดอลลาร์ในระดับทั่วทั้งโลกอีกด้วย หรืออย่างที่นักคิด-นักเขียนชาวอเมริกัน ชื่อว่า “นายDan Eden” แห่ง “View Zone Magazine” เคยปรารภ รำพึง ไว้เมื่อเกือบสิบปีที่แล้วนั่นแหละว่า... “น้ำมันและดอลลาร์...ได้กลายเป็นกระแสเลือดของพวกเรา ซึ่งมีชีวิตอยู่ภายใต้อารยธรรมปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้...เมื่อไหร่ก็ตามที่มันเกิดการพังทลายของระบบเงินตราแบบ Fiat Dollars (เงินที่พิมพ์ออกมาโดยไม่ได้มีอะไรหนุนหลัง) ไม่เพียงแต่มันจะเป็นตัวทำลายระบบเศรษฐกิจของอเมริกา และวิถีชีวิตของชาวอเมริกันทั้งมวลเท่านั้น แต่มันยังจะเป็นตัวสร้างความฉิบหายในระดับล้างผลาญโลกทั้งโลกได้อย่างครบถ้วน บริบูรณ์ เพราะโดยความจริงแล้ว...บรรดาความมั่งคั่งทั้งหลายในโลกนี้ล้วนมีพื้นฐานมาจากระบบเศรษฐกิจแบบดอลลาร์และการพึ่งพาน้ำมันไปด้วยกันทั้งสิ้น บรรดาพวกนักการเมือง ผู้มีอำนาจตัดสินใจในประเทศต่างๆ จึงพยายามบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ ปฏิเสธข้อเท็จจริง และจมอยู่กับมายาภาพของระบบชนิดนี้มานานแสนนาน การพังทลายของระบบชนิดนี้จึงย่อมส่งผลให้โลกทั้งโลกพังพินาศตามไปด้วย โดยท้ายที่สุดแล้ว...แนวโน้มแห่งการพังทลายก็ได้ถูกคาดหมายเอาไว้แล้วล่วงหน้าอย่างชัดเจนว่า...มันเป็นสิ่งที่...มิอาจหลีกเลี่ยงได้โดยเด็ดขาด!!!” นี่...จริง-ไม่จริง น่าเชื่อ-ไม่น่าเชื่อ ก็ลองเก็บไปคิดเป็นการบ้านเอาเองก็แล้วกัน...