“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
“ตู่-เหลี่ยม” เป็นถึง“ นายกฯ” บอก “รักเคารพ ยิ่งชีวิต..” แต่ไม่ทำตาม..“ในหลวงรัชกาลที่ 9”?!
“ในหลวงรัชกาลที่ 9” ทรงมีทั้ง “พระราชดำริ” และ “พระบรมราโชบาย” อย่างสร้างสรรค์ล้ำค่า ก่อเกิด “ผลงานดีเลิศ” หลายหลากมิติ เพื่อเสริมส่งให้ “ชาติ” เจริญทันโลก และหนุนส่งให้ “ประชาชน” มีคุณภาพ ในการดำรงชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย ฯลฯ
ทว่า “นักการเมือง” ชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น โดย “นายกฯ เหลี่ยม” ไม่ทำตามคำพูด หรือ “ตระบัดสัตย์” มาตลอด ด้วยมหาเศรษฐี “เหลี่ยม” ได้ประกาศ “รวยแล้วจะไม่โกงชาติ”
แต่หลังได้เป็น “นายกรัฐมนตรี” และพรรคพวกหลายคนได้เป็น “นายกฯ นอมีนี” ที่ “เหลี่ยม” บงการชี้นิ้วสั่งการได้ กลับมีพฤติกรรมโกงชาติมิรู้จักพอ แถมยังเหิมเกริมบังอาจกระทำการล้มเจ้า จนถึงขั้นกล้าแต่งตั้ง “คนล้มเจ้าหลายคน” ให้เป็น “รัฐมนตรี” ซึ่งปัจจุบันยังหนีทั้งคดีความกับหนีคุกอยู่ในต่างแดน..
พฤติกรรมอันชั่วร้ายสามานย์ดังกล่าว ได้สร้างความไม่พอใจอย่างใหญ่หลวง ให้กับประชาชนผู้รักชาติรักพระมหากษัตริย์ จนต้องออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล“เหลี่ยม”กับเครือข่าย อย่างต่อเนื่องนานแรมปีหลายครั้ง แม้จะถูก “อันธพาลการเมือง” กับ “กลไกรัฐเหลี่ยม” จับกุมคุมขังและเข่นฆ่า อย่างโหดร้ายป่าเถื่อน ต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ทั้งๆที่ชุมนุมอย่างสงบสันติด้วยสองมือเปล่า ทว่า “ประชาชนผู้รักชาติ” ก็มิได้ย่อท้อ ยังคงปักหลักต่อสู้ชนิด“ ตายเป็นตาย”..
ทำให้ “บิ๊กบัง-บิ๊กตู่” ฉวยโอกาสออกมาทำรัฐประหารถึง 2 ครั้ง 2 ครา ทว่ารัฐประหารทั้ง 2 ครั้ง ได้ทำให้ “รัฐประหารเสียของ” เพราะ “ผู้มีอำนาจเยี่ยวไม่สุด”!
โดยเฉพาะ “รัฐประหาร” ของ “บิ๊กตู่” มีอำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จ “มาตรา 44” ซึ่งประกาศอย่างแข็งกร้าวจะ “ปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง” แถม “ตู่” ยังขึ้นเป็น “นายกฯ” ด้วยตนเอง ยึดอำนาจรัฐในกำมือได้นานกว่า 5 ปี และ“ บิ๊กตู่” สืบทอดอำนาจผ่านเลือกตั้ง ได้เป็น “นายกฯ ตู่” อีก 4 ปี รวมแล้ว “นายกฯ ตู่” ใช้อำนาจรัฐ บริหารชาติกับประชาชนไทย ทั้ง “ยินยอม-ไม่ยินยอม-ชื่นชอบ-ต่อต้าน” อย่างต่อเนื่องนานเกือบ 9 ปี โดย “นายกตู่-ตระบัดสัตย์” เพราะไร้ “การปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง” มาโดยตลอด..?!
“นายกฯ เหลี่ยม-ตู่”โกหกประชาชนด้วยการ “ตระบัดสัตย์” โดยไม่สนใจแม้แต่ “คำพูดของตัวเอง” ซึ่งเป็น “คำมั่นสัญญา” ของ “นายกฯ ทั้งคู่” ที่รู้กันกว้างขวางทั่วชาติไทย จึงถือเป็นเรื่องการหลอกลวง “ประชาชน” อย่างหน้าด้านๆ ชนิดไม่น่าเชื่อว่า “คน” ที่เป็นถึง “นายกรัฐมนตรี” อย่าง “บิ๊กเหลี่ยม” และ “บิ๊กตู่” จะเป็น “ผู้นำชาติจอมกะล่อน” โกหกหลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่องยาวนานถึงขนาดนี้!
“เหลี่ยม” ยังคงใช้ชีวิตหนีคดีอยู่ในแดนอาหรับ แต่ได้ประกาศจะกลับมา “ติดคุก” เพื่อชดใช้ความผิดที่ “โกงชาติ” ส่วนจะ “กลับ” หรือ “ไม่กลับ” นั้น-ยังไม่รู้ เพราะ“เหลี่ยม” มักโกหก “คนทั้งชาติ” เนืองนิจเป็นอาจินต์ จนประชาชนเบื่อหน่าย “คำลวงหลอก” มานานแล้ว..จริงไหม?
“บิ๊กตู่” ยังคงใช้ชีวิตหลงใน “อำนาจ” และ “หลงตัวเอง” กับหลงมัวเมาเชื่อว่า “คนส่วนใหญ่” ในชาติไทยใหญ่อุดม แต่ยากจนข้นแค้น ล้วน “รักตู่-ชอบตู่” ยินยอมให้ “บิ๊กตู่” เป็น “นายกฯรัฐประหาร”ครั้งแรก! และเป็น “นายกฯ สืบทอดอำนาจ” ผ่านเลือกตั้ง! ทั้งยังขอเป็น “นายกฯ สืบทอดอำนาจ” อีกครั้งด้วย! แม้ “ศาลฯ” จะมีมติด้วยเสียงข้างมาก ให้“บิ๊กตู่” เป็น “นายกฯ” ได้อีกเพียงแค่ 2 ปี แต่ “ตู่” อยากอ๊ะ!..อยากครับ!..อยากโว้ย! ฯลฯ ยังอยากจะเป็น “นายกฯ” ต่อไปเรื่อยๆว่ะ..
เอ๊า!..ในเมื่ออดีตนายกฯ “เหลี่ยม” ยังคงจมปลักในการยื้อแย่งอำนาจรัฐ! ส่วน“บิ๊กตู่”ยังอยากสืบทอดอำนาจรัฐต่ออีกเช่นกัน! แต่ “ใคร” จะได้ดังหวัง ก็ต้องตามไปดู!
ทั้งนี้ทั้งนั้น.. “ใคร” ได้อำนาจแล้ว “ทำดี” ย่อมได้รับความชื่นชมและ “คำยกย่อง”
ถ้า “ทำชั่ว” หรือโกงชาติล้มเจ้า ย่อมถูกเปิดโปงประณามสาปแช่ง ให้ “เสียชื่อเสียง” ไปถึง “วงศ์ตระกูล” อีกทั้งต้องถูกขับไล่ออกจาก “อำนาจรัฐ” ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอย่างแน่นอน..จริงไหม?
แม้ยุค “เหลี่ยม-ตู่” มีอำนาจ จะมิได้นำ “พระราชดำรัส” และ “พระบรมราโชวาท” ของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง “เรา” ก็ยังต้องอัญเชิญสิ่งอันล้ำค่ายิ่ง ต่อปวงชนชาวไทย ของ “พระองค์ท่าน” มานำเสนอต่อไป..
“เมืองไทยของเราประกอบด้วยคนหลายจำพวก หลายวัย หลายความคิด หลายหน้าที่ ซึ่งทั้งหมดจะต้องอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งจะอยู่ได้โดยลำพัง”
พระราชดำรัส พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดารโหฐาน วันที่ 4 ธันวาคม 2517
“ความสงบหนักแน่นเป็นเครื่องผ่อนปรนระงับความรุนแรง ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจในกันและกันได้ทุกกรณี โดยเฉพาะความสงบหนักแน่นในจิตใจนั้น ทำให้เกิดความยั้งคิดพิจารณาตามเหตุตามผล จึงช่วยให้สามารถขบคิดวินิจฉัยเรื่องราวปัญหา”
พระราชดำรัส พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันที่ 2 กรกฎาคม 2535
“ผู้มีอำนาจ” ในแต่ละยุคมักลืมตัวหลงอำนาจ นึกว่า “ตนเอง” กับพรรคพวก “ถูกต้อง” เสมอ จนละเลยไม่สนใจ “ความคิดต่าง” ของคนอื่นเรื่อยมา สุดท้าย..มักใช้อำนาจก่อความรุนแรง หวังจะสยบ “ความคิดเห็นต่าง” ของ “คนอื่น ”เสมอ
ทว่า..การ “ทำชั่ว” แล้วใช้ลิ้นลวงโกหกว่า “ดี” นั้น ถือเป็นการบริหารชาติกับประชาชน ด้วย “วาทะกรรมเพ้อฝัน” มิใช่ “ความจริง” ดังนั้น “อำนาจ” แห่ง “กฎหมาย-อาวุธ” จึงไร้ค่าไร้ผลไร้ความสงบคืนสู่สังคม..บทเรียนข้างต้น “เหลี่ยม-ตู่” มิเคยทำตามเลย..จริงไหม?
“..การทำงานใดๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งเป้าหมาย ขอบเขต และหลักการไว้ให้แน่นอน เพราะช่วยให้สามารถปฏิบัติเข้าสู่ผลสำเร็จได้โดยตรง และถูกต้องเหมาะพอดี เป็นการป้องกันและขจัดความล่าช้า ความสิ้นเปลือง ความสูญเปล่า ได้อย่างสิ้นเชิง และเมื่อปฏิบัติดำเนินงานสู่เป้าหมายนั้น ผู้มีการศึกษาต้องไม่ละทิ้งหลักวิชาการ ไม่ละทิ้งความคิดพิจารณาตามเหตุผล และความชอบธรรมถูกต้อง..”
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2530
“นายกฯเหลี่ยม-ตู่”บริหารชาติชนิดเห็นแก่ตัว ไม่เคยทำตาม“พระบรมราโชวาท”นี้ แถมยัง“ตระบัดสัตย์”ทำตรงกันข้าม กับ“ในหลวงรัชกาลที่ 9”ด้วย คิดหวังเพียง“อำนาจ-เงินทอง-ผลประโยชน์”
ชีวิต “เหลี่ยม” จึงเป็น “โมฆะบุรุษ” ไปแล้วในวันนี้! ส่วนชีวิต “ตู่” ก็กำลังเดินไปสู่เส้นทาง “โมฆะบุรุษ” เช่นเดียวกับ “เหลี่ยม”!
อ้อ!..อย่าได้คลาดสายตาเชียว! เพราะไม่ช้าก็เร็ว หลังเลือกตั้ง “ปี 2566” อาจได้รู้ชะตากรรม “ตู่” จะดิ่งเหวเช่นไรแล้วล่ะ?
คงต้องจบบทความนี้ด้วยสิ่งที่ “เหลี่ยม-ตู่” มิได้ทำตาม “พระบรมราโชวาท” ทั้งต่อ “ตัวเอง” และ “พรรคพวก” ที่ควรต้อง “ทำดี” แต่กลับกระทำเรื่อง “ไม่ดี” มากมาย..นั่นคือ
“ในบ้านเมืองนี้มีคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512
เฮ้อ!.. “ใครก็ตาม” ยามมี “อำนาจ” แล้วไม่ทำ “ความดี” ให้ชาติบ้านเมือง จะบอกว่า
“รักชาติรักพระมหากษัตริย์” หรือบอก “รักประชาชนได้อีกหรือ?” .. เฮ้ย!.. มันก็แค่ “ไอ้กับอี” พวกโกหกลวงหลอกผู้คนว่ะ..?