หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ
ทักษิณ ชินวัตร ประกาศแล้วว่าจะกลับมาเพื่อยอมมาติดคุก หลังจากผมเคยเขียนไว้แล้วว่าเขาจะเลือกแนวทางนี้ เพราะเขาเล่าให้คนๆ หนึ่งที่ไปพบที่ดูไบฟังมาก่อน
จากนักธุรกิจที่ได้สัมปทานผูกขาดจากสายสัมพันธ์กับคณะรัฐประหารที่นำโดยพล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ทำให้ทักษิณ ร่ำรวยขึ้นมาอย่างทันตาเห็น จากนั้นเขาเข้าสู่การเมืองภายใต้การชักชวนของพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ภายใต้พรรคพลังธรรม จนมาตั้งพรรคการเมืองเองชื่อพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2541โดยกวาดต้อนนักการเมืองเข้ามาในสังกัดจำนวนมาก
ความที่เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ทำให้หลายคนเชื่อว่าทักษิณจะเป็นผู้นำพาประเทศไปสู่ความสำเร็จได้ ในการเลือกตั้งปี 2544 คนไทยมองว่าเขาเป็นอัศวินม้าขาว ทำให้พรรคของเขาชนะการเลือกตั้งได้ถึง248คน จากจำนวน 500 คน จากนั้นทักษิณก็ใช้วิธีเซ้งพรรคคือ ควบรวม พรรคเสรีธรรมที่มี 14 เสียง ทำให้พรรคที่เสียงมาถึง 262 เสียงเกินครึ่งหนึ่งของสภาเป็นครั้งแรก กล่าวได้ว่าเป็นการซื้อพรรคการเมืองทั้งพรรคแทนที่จะซื้อตัวส.ส.เป็นรายบุคคล
ต่อมาก็เซ้งพรรคการเมืองอีกสองพรรคคือ พรรคความหวังใหม่ของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธที่มี36 เสียง และ พรรคชาติพัฒนาที่มี 29 เสียง รวมเป็น 327 เสียงทำให้พรรคฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายไว้วางใจได้เพราะต้องใช้เสียง 2 ใน3 ของสภา นี่คือเป้าหมายสำคัญของการควบรวมพรรคการเมืองของทักษิณ เพื่อไม่ให้สภาสามารถตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้จนถูกเรียกว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา
จากนั้นด้วยนโยบายประชานิยมที่ติดตรึงตาประชาชน 30 บาทรักษาทุกโรค ขยายเวลาการพักชำระหนี้สำหรับเกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ทำให้การเลือกตั้งในปี 2548 นักการเมืองก็ยิ่งแห่เข้าพรรคไทยรักไทย ทำให้พรรคชนะการเลือกตั้งได้ส.ส.ถึง 377 เสียง
การที่มีเสียงในสภาอย่างท่วมท้นจนไม่สามารถตรวจสอบได้ทำให้ทักษิณเหิมเกริมในอำนาจเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่ใช้วิธีฆ่าตัดตอน ทำให้มีทั้งพ่อค้ายาเสพติดจริงและคนบริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อของมาตรการนี้ มีการทุจริตเชิงนโยบายผลประโยชน์ทับซ้อนและแก้กฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจของตัวเอง มีการควบคุมสื่อและตรวจสอบสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์ตัวเองด้วยอำนาจรัฐอย่างเข้มข้น กระทำการและกล่าววาจาอาจเอื้อมต่อเบื้องสูง
การใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลของทักษิณทำให้ประชาชนในนามของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาขับไล่ มีการจัดตั้งประชาชนอีกฝ่ายเพื่อให้เกิดการปะทะกันจนทหารภายใต้การนำของ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลินออกมาทำการรัฐประหาร ทำให้มีการอายัดทรัพย์สินของเขาถึง 76,000 ล้านบาท และมีการตั้งคณะกรรมการคตส.ขึ้นมาตรวจสอบการฉ้อฉลต่างๆ หลังทักษิณถูกรัฐประหารเขาเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศพักหนึ่งก่อนกลับมาก้มลงจูบแผ่นดิน ภายหลังพรรคของเขาที่ตั้งขึ้นใหม่คือ พรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้ง แต่ก่อนที่ศาลจะตัดสินคดีที่ดินรัชดา เขาได้หนีออกไปนอกประเทศจนทุกวันนี้
ทักษิณถูกกล่าวหาว่าระหว่างอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเขาได้ใช้อำนาจโดยมิชอบ เพื่อเอื้อประโยชน์ธุรกิจครอบครัว รวม 5 กรณี คือ 1. ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้บริษัท เอไอเอส หลังแปลงสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต ทำให้รัฐเสียหายกว่า 6 หมื่นล้านบาท 2. ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้บริษัท เอไอเอส หลังปรับลดส่วนแบ่งค่าสัมปทานโทรศัพท์ระบบเติมเงิน หรือพรีเพด 3. ได้รับประโยชน์จากการแก้สัญญาให้รัฐร่วมรับผิดชอบค่าใช้เครือข่ายร่วมกับเอไอเอส ทำให้ ทศท และ กสท ได้รับความเสียหาย 4.การสนับสนุนธุรกิจดาวเทียมไอพีสตาร์เอื้อประโยชน์บริษัทชินคอร์ปและไทยคม และ 5. สั่งให้เอ็กซิมแบงก์อนุมัติเงินกู้ให้พม่า 4,000 ล้านบาท เอื้อประโยชน์บริษัทไทยคม และชินคอร์ป
ต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งยึดทรัพย์ทักษิณ โดยชี้ให้เห็นว่า คุณหญิงพจมานอดีตภรรยา มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจและการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกับทักษิณที่เป็นนายกรัฐมนตรีตลอดมา โดยผลประโยชน์จากการขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปมาจากการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และให้ยึดทรัพย์โดยอิงราคาหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. 2544 ซึ่งเป็นวันที่ทักษิณเป็นนายกฯ บวกดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 46,373,687,454.74 บาท
พรรคไทยรักไทยที่ถูกยุบพรรคแปรมาเป็นพรรคพลังประชาชนของเขาชนะการเลือกตั้งในปี 2550 ได้เข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้งโดยมี นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯนอมินี และต่อมาเมื่อนายสมัครต้องพ้นจากตำแหน่งบริษัทรับเงินบริษัทที่จ้างทำรายการทำอาหารทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่การมอบให้นายสมัครเป็นนอมินีนั้นทักษิณต้องประสบกับการที่ไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อนายสมัครพ้นจากตำแหน่งทักษิณ จึงมอบหมายให้น้องเขยของตัวเองคือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน
ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ยุบพรรคพลังประชาชน ทำให้นายสมชายต้องพ้นจากตำแหน่งและทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน เพราะกลุ่มส.ส.ในพรรคพลังประชาชนจำนวนหนึ่งที่นำโดยนายเนวิน ชิดชอบ แปรพักตร์มาสนับสนุนนายอภิสิทธิ์
จากนั้นก็เกิดการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ราชดำเนินและราชประสงค์ที่ทักษิณเป็นผู้หนุนหลังมีการวิดีโอมาจากต่างประเทศเพื่อปลุกปั่น และประกาศว่า หากเสียงปืนดังขึ้นก็จะกลับมานำคนเสื้อแดง แม้รัฐบาลจะเข้าไปเจรจาเพื่อให้ยุติการชุมนุมต่อรองกับการยุบสภาทำท่าจะจบลงแล้ว แต่แกนนำเสื้อแดงจำนวนหนึ่งกลับเปลี่ยนใจ มีการเปิดเผยต่อมาว่าทักษิณโทรศัพท์มาถามว่า หากยุติการชุมนุมผมจะได้อะไร ทำให้แกนนำจำนวนหนึ่งไม่ยอมรับเงื่อนไขของรัฐบาล จนสุดท้ายรัฐบาลต้องใช้กำลังสลายจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ทักษิณก็ไม่ได้กลับมานำมวลชนตามที่ประกาศไว้
เมื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ยุบสภา พรรคเพื่อไทยของทักษิณที่ส่งยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณที่ไม่รู้เลยว่าเธอมีความสามารถอย่างไรมาเป็นนายกรัฐมนตรี กลายเป็นเครือญาติชินวัตรคนที่สามที่ขึ้นสู่อำนาจ รัฐบาลของยิ่งลักษณ์ทำท่าจะไปได้ดี แม้จะไม่ได้แสดงความสามารถและสติปัญญาในการนำพาประเทศชาติออกมาเลย ยิ่งลักษณ์บริหารประเทศเกือบ 3 ปีจึงมีความคิดที่จะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมือง ในตอนแรกนั้นหลายฝ่ายเห็นด้วย แต่ต่อมามีความพยายามเปลี่ยนแปลงเป็นการนิรโทษกรรมสุดซอยเพื่อให้ทักษิณได้ประโยชน์ จนถูกประชาชนอกมาต่อต้านในนามของกปปส.ซึ่งเป็นการชุมนุมที่มีผู้ร่วมชุมนุมมากที่สุดในประวัติศาสตร์จนบ้านเมืองเกือบจะเป็นมิคสัญญี สุดท้ายทหารเข้ามายึดอำนาจอีกครั้งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หลังจากนั้นอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องยิ่งลักษณ์ พร้อมกับพวกอีก 28 คน ในคดีโครงการรับจำนำข้าว โดยมีข้อกล่าวหาว่าปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตโดยไม่ยับยั้ง แต่ก่อนจะตัดสินคดียิ่งลักษณ์ก็หลบหนีไปต่างประเทศปล่อยให้รัฐมนตรีในรัฐบาลตัวเองและข้าราชการกระทรวงพาณิชย์จำนวนหนึ่งถูกศาลตัดสินให้จำคุกคนละหลายปี
เมื่อปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ทักษิณออกมาประกาศหลายครั้งว่าเขาจะกลับมาประเทศไทย ดังนั้นเป้าหมายสำคัญที่สุดของเขาคือการได้อำนาจรัฐมาอยู่ในมือ และมีการผลักดันทายาทคนสุดท้องของตัวเองคือ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตรให้ขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในนามของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ด้วยความเป็นลูกของทักษิณ และมนต์ขลังของทักษิณที่ยังอยู่ทำให้อุ๊งอิ๊งมีคะแนนนิยมที่สูงมาก แม้เธอไม่เคยประกอบอาชีพอะไรที่ชัดเจนมาก่อน มีประวัติการศึกษาที่ด่างพร้อย แต่การสำรวจของโพลก็มีแนวโน้มที่สูงมากที่เธอจะเป็นนายกรัฐมนตรีสืบสายเลือดชินวัตรต่อจากพ่อและอา ที่ถูกพิพากษาว่าใช้อำนาจฉ้อฉลและทุจริตจนต้องหนีไปต่างประเทศ
ถ้าคนส่วนใหญ่ของสังคมไทยยอมรับได้กับตระกูลที่ทุจริตจนเป็นที่ประจักษ์และแสวงหาประโยชน์จากอำนาจ หรือมองเห็นประโยชน์ที่ทักษิณมอบให้แม้จะทุจริตคอร์รัปชั่นจนพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากและจัดตั้งรัฐบาลได้ก็คงต้องยอมรับนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ แพทองธาร ชินวัตร สืบทอดอำนาจต่อจากพ่อ อาเขย และอาของเธอ ก็เป็นชะตากรรมที่คนไทยเลือกเอง
หากไม่ใช่ด้วยอำนาจเผด็จการในพรรคเพื่อไทยที่ตกอยู่ใต้เงื้อมมือของทักษิณ พรรคที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยอย่างพรรคเพื่อไทย คงไม่มีวันที่หญิงสาวที่ยังไม่รู้ว่ามีความสามารถเพียงไหนและเคยทำอะไรประสบความสำเร็จมาในชีวิตจะขึ้นมาเป็นผู้นำของพรรค และผลักดันให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้
นับเป็นชะตากรรมของคนไทยที่หนีไม่พ้นเงื้อมมือของตระกูลชินวัตร แม้ก่อนหน้านั้นถูกพิสูจน์แล้วว่าฉ้อฉลในอำนาจอย่างไร เมื่อประชาชนส่วนใหญ่เขาเลือกอย่างนั้นก็คงต้องจำทน เพราะมีคนบอกว่านี่คือระบอบที่ดีที่สุดแล้ว
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan