พรรคการเมืองของท่านห้าวเป้งแปดเปื้อนเปิดตัวนโยบายประชานิยมแบบเกทับบลัฟแหลกคู่แข่งในงานปราศรัยกลางเมืองโคราชวันเสาร์ที่ผ่านมา โชว์ให้เห็นอย่างสมราคา ทำเอาบรรดาพวกเสพติดโครงการประชานิยมถมไม่เต็มอ้าปากค้าง
แม่เจ้าโวย อะไรมันจะขนาดนั้น! มีโครงการสารพัด ทุ่มเงินในรูปแบบของ “บิดาโครงการประชานิยม” ตลอด 8 ปี แปดเปื้อน ทำให้ท่านห้าวเป้งอยู่ต่อในอำนาจ
“ทำแล้ว ทำอยู่ อยู่ต่อ” กระหึ่ม! ที่ไม่ประกาศก็คือ “กู้แล้ว กู้อยู่ จะกู้ต่อ” แต่ไม่จำเป็นเพราะจะต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่กู้อีกจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อความนิยม
อยู่มา 8 ปี เรตติ้งต่ำกว่าคนไม่เคยเป็นรัฐมนตรี ต้องถือว่าย่ำแย่เกินจินตนาการ
น้ำเสียงออดอ้อน อ้างความเป็น “ลูกคนโคราช หลานย่าโม่ ตามรอยป๋าเปรม” ก็เพียงอยากอยู่ต่อ จัดเก้าอี้ไว้ 3.5 หมื่นตัวในพื้นที่ศาลากลาง ไม่มีใครยืนยันว่าได้ใช้จ่ายเงินไปมากน้อยเท่าไหร่ในการดึงดูดให้ชาวบ้านเสียเวลามาโดยได้ “ค่าฟัง”
จะเป็นผู้นำประเทศ แต่พูดได้เพียงครึ่งชั่วโมง มีสคริปต์ช่วย คงเป็นการฝืนใจไร้ลีลาลูกเล่นใหม่ ทั้งที่โดยปกติพ่นน้ำไหลไฟดับ ไมค์ไม่เคยห่างมือเมื่อเจอชาวบ้าน
พูดหาเสียงแต่ละครั้ง อ้างผลงานไม่เต็มปาก นอกจากอ้างนั่นนี่โน่นแหกตา
ถ้าจะได้ ส.ส.มาก ต้องลงทุนมาก ไม่อั้น เพราะ ส.ส.เกรดเอมีไม่กี่หัว ที่แวดล้อมมาจากพวกแสวงหารายได้ก้อนใหญ่ ทั้งยังมีพวกฉายแววโหงวเฮ้งโจร
ก่อนเข้าพรรคตั้งใหม่ รวมสารพัดนักเลือกตั้ง ท่านห้าวเป้งทำเป็นเอ่ยปากสงสัยดังๆ ว่าพวกนำเสนอโครงการประชานิยมลด แลก แจก แถมต่างๆ โดยเฉพาะพรรคลุงป้อม “ต้องดูนะว่าที่ประกาศไปนั้น จะเอาเงินที่ไหนมา” ทำให้ชาวบ้านไขว้เขว
มาถึงคราวพรรคตัวเอง ดันมีโครงการประชานิยมมากกว่าพรรคอื่นๆ ไม่ต้องถามว่า “จะเอาเงินมาจากไหน” เพราะท่านห้าวเป้งเป็น “บิดาแห่งการกู้หนี้” มาตลอด 8 ปี เป็นเจ้าของฉายา “นักกู้สารพัดทิศ” ด้วย มากกว่า 10 ทิศด้วยซ้ำ
ยุคนี้ เด็กเกิดใหม่ออกจากครรภ์มารดา ต้องแบกหนี้ทันทีกว่า 2 แสนบาท ท่านห้าวเป้งได้กู้หนี้รวมแล้วมากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ตลอด 8 ปี ไม่เคยทำงบสมดุล
โครงการประชานิยมถมไม่เต็มยุคท่านห้าวเป้งมีทุกอย่างเพื่อซื้อใจชาวบ้าน ซ้ำโครงการเดิมๆ เมื่อชาวบ้านเสพติด หลังจากลำบากช่วงการระบาดของโควิด-19 และเศรษฐกิจซบเซาก่อนหน้านั้น ทุกวันนี้ท่านห้าวเป้งได้สร้างคนจนมากกว่า 20 ล้านคน
ดูแล้ว ชาวบ้านเกรงจะซ้ำรอยอาร์เจนตินา ซึ่งดำเนินโครงการประชานิยม สร้างหนี้ตั้งแต่ยุคช่วงปี 1980 ล้มลุกคลุกคลานเพราะปัญหาหนี้สิน ต้องขายทรัพย์สินประเทศใช้เจ้าหนี้ ฟื้นตัวได้ก็หันไปหานโยบายประชานิยมอีก ดิ้นไม่หลุดจากกับดัก
อาร์เจนตินากู้เงินจากไอเอ็มเอฟ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2018 แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ต้องกู้อีก 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม มีหนี้เต็มสิทธิกู้ 100 เปอร์เซ็นต์ จนสร้างความกังวลว่าจะผิดนัดชำระหนี้ อัตราเงินเฟ้อใกล้ 100 เปอร์เซ็นต์
อาร์เจนตินาเคยเป็นประเทศมั่งคั่ง มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ในละตินอะเมริกา แต่ปัญหาหนี้จากนโยบายประชานิยม การพิมพ์เงินเปโซมาใช้ไม่อั้น บวกกับปัญหาคอร์รัปชัน สภาพเลวร้าย ประชาชน 4 ใน 10 คนมีชีวิตต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจน
มีคนเถียงว่า “ไทยไม่มีวันเป็นอย่างอาร์เจนตินา เพราะมีเงินทุนสำรองมากกว่า 2.14 แสนล้านดอลลาร์ ติดอันดับต้นๆ ของโลก ยังไม่มีอะไรน่าห่วง”
หนี้ครัวเรือนประเทศไทยสูงเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี หนี้สาธารณะสูงต้องยกเพดานหนี้ กู้เงินให้สูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี เผื่อให้ท่านห้าวเป้งต้องกู้ต่อ
ความหวังที่จะให้รัฐบาลจัดงบประมาณสมดุลในยุคท่านห้าวเป้งคือความเพ้อฝัน เป็นคนใช้เงินเก่ง กู้เก่ง แต่หาเงินไม่เก่ง ถือเช็คเปล่าสำหรับงบกลางใช้จ่ายมันมือ
มีเสียงนินทาว่าช่วงนี้สั่งจ่ายงบกลางวันละ 100 ล้าน ไม่รู้ว่าไปไหน ทำให้สงสัยว่าเป็นการจ่ายในพื้นที่จำเป็นสำหรับการหาคะแนนเสียงก่อนเลือกตั้งวันที่ 7 พฤษภา
การคุยเรื่องเงินสำรองระหว่างประเทศนั้น ทำให้ชาวบ้านนึกว่าเรามีเงินเยอะ เงินก้อนนี้ลดลงได้ถ้าต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ หรือรัฐบาลเกิดสภาวะเงินไหลออก ถ้าปัญหาคอร์รัปชันขาดเสถียรภาพ หนี้เกินระดับอันตราย เงินเฟ้อสูง
ท่านห้าวเป้งและพวกอาจอุ่นใจว่าช่วงนี้การท่องเที่ยวกำลังคึกคัก นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่กันขนเงินเข้ามาใช้ในเมืองไทย ดังนั้น จึงอยากอยู่ต่อให้นานที่สุด
ไม่ว่าพรรคไหนจะชนะการเลือกตั้ง หรือเป็นรัฐบาลผสม ต้องไม่พ้นจากการกู้หนี้เพิ่ม เพื่อให้โครงการประชานิยมถมไม่เต็ม ตำน้ำพริกครกใหญ่ละลายแม่น้ำ รักษาความนิยม มีคนกว่า 20 ล้านคนถือบัตรคนจน เท่ากับ 30 เปอร์เซ็นต์ของประชากร
หายนะรออยู่ข้างหน้า ถ้าไม่สามารถสร้างรายได้ให้งบประมาณสมดุล ลดการกู้ ก่อนจะไม่อยู่ในสภาพที่มีรายได้ใช้คืนเงินกู้ได้ จะไม่ต่างจากอาร์เจนตินา ศรีลังกา ปากีสถาน เลบานอน หรือประเทศอื่นๆ ที่มีปัญหาเงินเฟ้อ ค่าเงินตก เศรษฐกิจเดี้ยง
การหาเสียงโดย 4 พรรคใหญ่วันเสาร์ ด้วยโครงการประชานิยมถมไม่เต็ม น่าจะทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสงสัยว่าเป็นนโยบายทำได้จริงแค่ไหน เอาเงินมาจากไหน อาจเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ถ้าหลังเลือกตั้งทำตามคำประกาศไม่ได้
แต่ว่า กกต.เป็นใคร มาจากไหน ชาวบ้านคอการเมืองรู้กันทั่ว ต้องเลิกสงสัย
การเลือกตั้งจะเป็นศึกเจ้าบุญทุ่ม เดิมพันสูง เกทับไม่ไว้หน้ากัน ชาวบ้านห่วงแต่ว่าหลังจากนั้นผู้ชนะจะเร่งกอบโกยถอนทุน ก่อนบ้านเมืองเป็นแบบอาร์เจนตินา