"โสภณ องค์การณ์"
“ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” นี่คือสโลแกนหาเสียงของท่านห้าวเป้งแปดเปื้อน ชาวบ้านฟังดูแล้วเหมือนมีนัยสำคัญ แต่คนรู้ทันมองว่าเป็นเลศนัยแหกตา มากกว่า
วัตถุประสงค์ที่ไม่ประกาศแต่คนรู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองก็คือต้องการ “ อยู่ต่อ” นั่นเองแบบ“ ไม่ได้เล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา” นั่นเลย
ไม่รู้ว่าใครคิดสโลแกนนี้ให้ หรือว่าท่านห้าวเป้งคิดเอง และนึกว่าเป็นคำพูดที่สุดเจ๋งกินใจลึกซึ้งสำหรับชาวบ้านแล้วมั้ง แต่พวกติ่งบ้องตื้นเข้าใจง่าย
ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไร ฟังดูแล้วเป็นสโลแกนที่มักง่าย ไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ได้ในการสนับสนุนผลงาน หลายสำนักโพลก็ไม่ให้ราคานอกจาก โพลตามสั่ง
จะได้ผลเต็มที่ก็ เพราะใช้ ปั่นหัวเป่าหูพวกติ่งบ้องตื้นที่หลงใหลนิยมชมชอบท่านห้าวเป้งแปดเปื้อนอย่างหัวปักหัวปำไม่ลืมหูลืมตา ใช้สติปัญญาวิเคราะห์ถูกผิด
บ้านเมืองมีปัญหาเชิงโครงสร้างทุกภาคส่วนทุกวันนี้เพราะท่าน ห้าวเป้งแปดเปื้อน ทำมาต่อเนื่อง ระยะเวลากว่าแปดปีทั้งนั้น โดยเฉพาะความเสื่อมโทรมด้านคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ที่เห็นชัดคือการทุจริตประพฤติมิชอบคอร์รัปชั่นกระจายสู่สังคมทุกระดับในภาคราชการ ตั้งแต่งานปกครองส่วนท้องถิ่นจนถึงระดับยอดของประเทศ
บริหารประเทศกันแบบไหนถึงมีคนจนกว่า 20 ล้านคน หนี้ครัวเรือน เกือบ 90% ของจีดีพี หนี้สาธารณะที่ท่านห้าวเป้งกู้มารวมกันแล้วมากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา
เสียงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปและปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชั่นอย่างจริงจังไม่ได้รับการตอบสนองถ้าถูกคำถามจี้หนักก็อ้างว่าเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบทำอยู่และตัวเองได้กำชับไปแล้ว แต่ไม่เกิดผลอะไร เหมือนสั่งขี้มูกทิ้ง
ดังนั้นคำว่า “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ก็คือ “ การไม่ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ทำอะไรที่จำเป็นอย่างจริงจัง” ที่ทำอยู่คือการลอยตัวเหนือปัญหา และจะยังทำต่อไป
ที่ผ่านมาเลี่ยงภารกิจจำเป็นไม่มีความเด็ดขาด ไม่สามารถพิสูจน์ความซื่อสัตย์สุจริต อ้างแบบลอยๆ แค่ว่า “ผมไม่ทุจริต แม้แต่บาทเดียว” ฟังดูขึงขัง สมบทบาท
แน่นอนคำประกาศตาไม่กระพริบอย่างนี้ต้องโดนใจพวกติ่งบ้องตื้น “เห็นมั้ยละ ท่านใจซื่อมือสะอาด พวกคุณมีหลักฐานว่าท่านโกงมั้ย” อะไรทำนองนั้น
แต่พวกรู้ทัน หรือหาเรื่องตีความพิสดารก็แซวว่า “ไม่โกงแม้แต่บาทเดียว ไม่โกงเงินบาท แต่รับสกุลเงินตราต่างประเทศหรือเปล่า ฝากไว้บัญชีเมืองนอกแม่นบ่”
หรือ “บาทเดียวไม่โกง แต่ว่ากันเป็นร้อยเป็นพันล้านอ๊ะป่าว” เป็นคำพูดแซว ที่คนฟังฉุกคิด “เออ น่าจะจริง “ พวกที่แวดล้อมดูหน้าตาล้วนมีโหงวเฮ้งโจรทั้งนั้น
การอ้างว่าตัวเองซื่อสัตย์สุจริต “ไม่โกงแม้แต่บาทเดียว” แต่ต้องประกาศ สงคราม กับการทุจริต คอรัปชั่น แบบปีเว้นปี แสดงให้เห็นว่าที่ “ทำแล้ว ทำอยู่” นั้นไม่สำเร็จ ล้มเหลวไม่เป็นท่า
การทุจริตเวลาว่าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรียังไม่ครบ 8 ปี จึงเป็นเรื่องมหัศจรรย์พันลึก ซึ่งคนทั้งโลกที่นับเลขเป็นต้องคิดหนักว่าผู้นำประเทศแบบนี้ก็มีด้วยหรือ
ทุกวันนี้หาเสียงด้วยกการหาเรื่องไปตรวจราชการต่างจังหวัดแต่แวดล้อมด้วยบริวารและบ่าวที่อยู่ในพรรคตัวเองจะเป็นคู่ชิงนายกฯ สะท้อนให้เห็นว่าเอาบริวารและบ่าวในพรรคการเมืองมารับผลประโยชน์ กินตำแหน่งจากงบประมาณแผ่นดิน
นี่แหละคือ “ทำแล้ว ทำอยู่ และคงจะต้องทำต่อไป” ยิ่งความอยากอยู่ต่อด้วยการหาเรื่อง “รักษาการ” ให้นานที่สุดหลังจากเลือกตั้ง ก็สะท้อนให้เห็นนิสัยและพฤติกรรมชัดเจนว่าเป็นคนเยี่ยงใด
แน่นอน บรรดาสมุนบริวารและบ่าวในพรรคก็จะอยู่กินเงินเดือนจนถึงวันสิ้นสุดของการรักษาการ จากนั้นจะได้อยู่ในตำแหน่งเดิมต่อไปอย่างที่เรียกว่า “อยู่ต่อ” นั้นเป็นไปได้หรือไม่ต้องรอดูผลเลือกตั้ง
และการเลือกตั้งจะเป็นไปรูปแบบใด มีการใช้งานเจ้าหน้าที่รัฐเอื้ออวยหรือไม่ หรืออย่างที่ชาวบ้านเริ่ม ซุบซิบกันทั่วก็คือ อาจมีประเด็นยุบ 3 พรรคใหญ่คู่แข่ง เป็นการตัดหนทางคู่ชิง เปิดช่องให้ดูดเพื่อให้สมเจตนารมณ์แฝงเลศนัย
โบราณว่า “ไม่มีไฟ ย่อมไม่มีควัน” ดังนั้นทุกอย่างในการเมืองน้ำเน่าแบบบ้านเราอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะผลประโยชน์มาก่อน ประชาชนเป็นเพียงเครื่องมือให้ก้าวสู่อำนาจด้วยการใช้สิทธิ์ 4 วินาทีในคูหาเลือกตั้ง
ในยุคที่มีการหาเสียงแบบ “ตกเขียว” ด้วยงบประมาณรัฐ เช่นการขึ้นเงินเดือนเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นหรือโครงการประชานิยมถมไม่เต็มอื่นๆ ล้วนแฝงเร้นเจตนาของการใช้เงินหลวงหาเสียง
การเอาเปรียบคู่แข่งโดยพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลขณะนี้โดยอ้างการตรวจราชการใช้งบหลวง เกณฑ์ชาวบ้านและเด็กนักเรียนมายืนตากแดด ต้อนรับให้สมความอยากนั้น ต้องถือว่าเป็นความอุจาดทางการเมือง
มีแต่พวกถือคติ “ความหน้าด้านเท่านั้นที่จะครองโลก” เท่านั้นที่กระทำโดยมีบริวารบ่าวโหงวเฮ้งโจรเป็นตัวเสริม เป็นมือไม้ในการกระทำ จัดตั้งกองเชียร์ โดยทั่วไปมีสินน้ำใจหัวละ 200 บาท
ชาวบ้านบอกว่าดีกว่าอยู่เปล่าๆ ไปนั่งเอาหูทวนลมเมื่อพวกพล่าม โว โม้ บ้า มาหาเสียงยกมือไหว้ประหลกๆ ทำตัวเป็นนายแสนดีวจีไพเราะ อยากได้คะแนนเสียง ย้อนให้นึกถึงคำพูด “งาช้างย่อมไม่งอกจากปากสุนัข” แล้วซึ้งกว่า
เมื่อใด้เป็นผู้แทนแล้ว จะไม่มองเห็นหัวประชาชน ที่ไปเรียกร้องขอความช่วยเหลือหน้ากระทรวงหรือทำเนียบรัฐบาล ทำตัวเป็นเจ้าขุนมูลนาย
บางพวกวางมาดยิ่งกว่าเทวดาเดินดิน ทั้งที่ชาวบ้านเห็นว่าเป็นพวกคางคกขึ้นวอ หรือกิ้งก่าได้ทอง สวมเสื้อผ้ามันเลื่อมระยับ ดูแล้วเหมือนคนมีเกล็ด
รอดูว่าใครจะมีวาสนาได้เป็นผู้นำประเทศ หรือว่าบ้านเมืองยังคงจมปลัก ของความทุกข์ ติดอยู่ในบ่วงกรรมไม่สิ้นสุดจนอาจสิ้นชาติเพราะการทุจริตคอรัปชั่นในแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา นายทุนเป็นใหญ่ กุมชะตากรรมของประเทศต่อไป