xs
xsm
sm
md
lg

นโยบายขายฝัน : เหยื่อล่อประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง



ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งทั้งนักการเมือง และพรรคที่นักการเมืองสังกัด จะคิดค้นนโยบายและวาทกรรมเป็นเครื่องมือในการปราศรัยหาเสียงเพื่อหวังผลทางการเมืองคือ การได้รับเลือกเข้ามาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ส่วนว่าเมื่อได้รับเลือกเข้ามาแล้ว จะทำตามนโยบายที่ปราศรัยหาเสียงไว้หรือไม่ ก็ค่อยว่ากันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ปัจจุบันขอให้ได้รับเลือกเป็นผู้แทนก่อน

ดังนั้น ประชาชนในฐานะเป็นเจ้าอำนาจอธิปไตย จะต้องมีเหตุผลในการรับฟังนโยบายที่แต่ละพรรคการเมืองนำมาเสนอเพื่อเชิญชวนให้ท่านออกเสียงลงคะแนนให้ โดยใช้หลักตรรกะแบบง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1. นโยบายแต่ละด้านที่แต่ละพรรคการเมืองนำเสนอสอดคล้องกับศักยภาพของประเทศในปัจจุบัน รวมถึงอนาคตอีก 4 ปีข้างหน้าหรือไม่

2. บุคลากรของพรรคมีศักยภาพ โดยเฉพาะผู้ที่พรรคเสนอให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมีศักยภาพ ทั้งในด้านทฤษฎีและปฏิบัติเพียงพอที่จะนำนโยบายที่นำเสนอไว้ในแต่ละด้านไปดำเนินการให้บรรลุผลตามที่กำหนดไว้ได้หรือไม่ และมากน้อยเพียงใด

3. เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบทางการเมืองรอบด้านแล้ว พรรคการเมืองเจ้าของนโยบายมีโอกาสได้รับเลือกเข้ามามากพอที่จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้หรือไม่ ถ้าไม่สามารถเป็นรัฐบาทพรรคเดียว เป็นพรรคแกนนำได้หรือไม่ ถ้าไม่สามารถเป็นได้โอกาสที่จะนำนโยบายไปดำเนินการให้บรรลุผลในทางปฏิบัติเป็นไปได้ยาก

4. ในอดีตที่ผ่านมา พรรคการเมืองได้นำเสนอตอนหาเสียง ครั้นได้เป็นรัฐบาลไม่ได้ดำเนินการตามนโยบายที่บอกไว้หรือนำมาดำเนินการแล้วไม่เป็นไปตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้ อนุมานได้ในครั้งนี้ก็คงไม่ต่างไปจากอดีตคือ พูดได้ ทำไม่ได้เหมือนเดิม

อีกประการหนึ่ง พรรคการเมืองใดเคยเป็นรัฐบาล และมีประวัติความเป็นมาในการใช้อำนาจรัฐปกป้องและแสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง ถึงแม้ในครั้งนี้จะพูดถึงการปราบปรามการทุจริต ก็อย่าไปเชื่อว่าจะไม่โกง โดยเฉพาะพรรคที่ใช้เงินในการเลือกตั้งมากเท่าใด โอกาสที่คดโกงเพื่อเอาคืนมีมากเท่านั้น

โดยสรุปพรรคไหนเสนอนโยบายอะไรก็ขอให้ฟัง และนำไปคิด โดยใช้หลักตรรกะดังกล่าวข้างต้น แล้วท่านจะได้คำตอบว่าท่านควรจะเลือกหรือไม่เลือกพรรคใด แต่ขออย่าเลือกเพราะเห็นแก่เงินที่เขานำมาแจกเพื่อแลกกับการลงคะแนนให้ ถ้าท่านเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับช่วยให้เขาเข้ามาถอนทุนและบวกกำไร


กำลังโหลดความคิดเห็น