เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงหนีไม่พ้นต้องชวนกันไปแวะแถวๆ ประเทศซีเรีย-ตุรกีหรือตุรเคีย เขาไว้ก่อนนั่นแหละท่าน เพราะออกจะเป็นอะไรที่น่าเศร้า น่าสลด น่าเป็นห่วง เป็นใยเสียเหลือเกิน อันเนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อช่วงวันจันทร์ที่แล้ว (6 ก.พ.) ที่จู่ๆ พระธรณีท่านเกิดพิโรธขึ้นมาดื้อๆ เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับความแรงถึง 7.5-7.8 แมกนิจูด เล่นเอามนุษย์มนาตาดำๆ ที่ต่างมีเลือด มีเนื้อ มีจิตวิญญาณไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าตั้งแต่เด็กตัวเล็กๆ ที่ยังไม่รู้ประสีประสาต้องกำพร้าพ่อ กำพร้าแม่ ไปจนคนแก่ คนเฒ่า ที่ต่างต้องล้มหายตายจากกันไปเป็นหมื่นๆ คน...
โดยตัวเลขล่าสุดเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว...เห็นว่าทะลุหลัก 20,000 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตุรกี-ตุรเคียนั้นหนักหน่อย คือปาเข้าไปถึง 17,674 คนเข้าไปแล้ว ส่วนซีเรียแม้จะตายไปประมาณ 3,337 คน แต่ด้วยเหตุเพราะโรคซ้ำ กรรมซัด ต้องเจอกับ “สงครามกลางเมือง” มาโดยตลอด เพิ่งจะเริ่มฟื้นๆ หลังรัสเซีย-อิหร่าน-ตุรกีเข้าไปช่วยประคับประคอง พอได้ลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้มั่ง แต่ยังดันต้องมาเจอกับ “ภัยพิบัติทางธรรมชาติ” ที่มิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้เข้าไปอีกดอก ด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิต หรือด้วยอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ เลยหนีไม่พ้นต้องมีอัน “วิบัติเป็น-มิเล็งเห็นที่ซึ่งจะพึ่งพา” อีกจนได้....
แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุที่โลกทั้งโลกยังมีน้ำจิต-น้ำใจ ยังคงยึดมั่น-ถือมั่นกับคตินิยมว่าบรรดามวลมนุษย์ทั้งหลายล้วนแต่เป็นพี่ๆ-น้องๆ เป็นเพื่อนร่วมวัฏสังสารไปด้วยกันทั้งสิ้น บรรดาความช่วยเหลือ ความเป็นห่วง เป็นใย จึงทยอยหลั่งไหลไปสู่ทั้งสองประเทศ อย่างอุ่นหนา-ฝาคั่งพอสมควร ดูเหมือน...ประเทศหมีขาวรัสเซียที่แม้ยังคงต้องรบ ต้องทำศึกสงครามอยู่กับโลกตะวันตกในยูเครนนั่นแหละ ที่ออกจะกระตือรือร้น ออกจะว่องไวอย่างเป็นพิเศษ ขนอุปกรณ์ เครื่องมือ ทีมกู้ภัยและความช่วยเหลือด้านต่างๆ ไปยังซีเรียและตุรเคียเป็นอันดับต้นๆ ตลอดไปจนพญามังกรอย่างคุณพี่จีน ตามด้วยประเทศอิหร่าน ที่เพิ่งถูกคุณน้อง “ธนาธร” บ้านเราออกมาด่าแบบสาดเสีย เทเสีย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หรือบรรดาพวกที่ถูกจัดว่าเป็น “รัฐอันธพาล” เป็น “อักษะแห่งปิศาจ” ตามมาตรฐานของคุณพ่ออเมริกาเขา ต่างออกมาช่วยเหลือกันคนละไม้ คนละมือ รวมทั้งประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ที่ไม่เคย “แล้งน้ำใจ” ไม่ว่ากับใครต่อใครมาโดยตลอด ตั้งแต่ราชวงศ์ไปจนรัฐบาล รวมทั้งภาคเอกชน ต่างล้วนแสดงออกถึง “จิตวิญญาณความเป็นมนุษย์” อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจ มิใช่น้อย...
อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยก่อให้เกิดข้อเปรียบเทียบ เปรียบเปรย เกิดอารมณ์-ความรู้สึกที่ขัดแย้ง แปลกแยกขึ้นมาตามสมควรต่อท่าทีและพฤติกรรมของ “ประมุขโลก” อย่างคุณพ่ออเมริกา ที่น่าจะมีหัวจิต-หัวใจ มีน้ำจิต-น้ำใจ ไม่ต่างไปจากบรรดามนุษย์โดยทั่วๆ ไป แต่ครั้นเมื่อบรรดานักข่าว ผู้สื่อข่าว เขาได้ลองไปสอบถามความคิด-ความเห็นของโฆษกทำเนียบขาว “นายNed Price” ว่าคิดจะช่วยเหลือ เฟือยฟายต่อบรรดามนุษย์ตาดำๆ ที่กำลังประสบเคราะห์กรรมในแบบไหน? อย่างไร? ได้บ้าง โดยเฉพาะชาวซีเรีย ประเทศซีเรีย ที่เคยเป็นไม้เบื่อ-ไม้เมา ต่อรัฐบาลอเมริกันมาโดยตลอด ถึงขั้นเคยรวมหัว รวมตัวกับโลกตะวันตกคิดหักโค่น ทำลายล้าง รัฐบาลประธานาธิบดี “Bashar al-Assad” ชนิดครั้งแล้ว ครั้งเล่า ว่ายังพอหลงเหลือน้ำจิต-น้ำใจ หัวจิต-หัวใจ พอที่จะหาโอกาส หาช่องทาง เพื่อช่วยบรรเทาเบาบาง ความทุกข์ ความเดือดร้อนของบรรดา “เพื่อนมนุษย์” ด้วยกันหรือไม่? เพียงใด?...
โดยเฉพาะสิ่งที่ออกจะเป็นอุปสรรคขัดขวางต่อการส่งความช่วยเหลือด้านต่างๆไปให้กับชาวซีเรีย ไม่ว่าจะเป็นข้าว-ปลา-อาหาร เวชภัณฑ์ พลังงาน ฯลฯ ที่กำลังขาดแคลน แร้นแค้น ด้วยเหตุเพราะต้องเจอกับ “มาตรการแซงชั่น” ของอเมริกาและโลกตะวันตกมาตั้งแต่แรก จนตราบเท่าทุกวันนี้ แต่สิ่งที่ถือเป็นคำตอบ คำอธิบายของโฆษกผู้นี้ ก็คือ...ถือเป็นเรื่อง “Ironic” หรือเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะเย้ยเอามากๆ ถ้าหากรัฐบาลอเมริกันคิดจะทำเช่นนั้นกับรัฐบาลที่ป่าเถื่อน ที่กดขี่ประชาชนมาโดยตลอด ส่วนความช่วยเหลือด้านอื่นๆ ด้วยเหตุเพราะอเมริกาเป็นหุ้นส่วนกับองค์กรความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมโดยทั่วไปอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปแสดงน้ำจิต-น้ำใจ หัวจิต-หัวใจ อะไรมาก!!! นี่...ฟังแล้วบาดหู บาดใจ ฟังแล้วน่า “ตบปาก” มาก-น้อยขนาดไหน??? คงต้องไปวินิจฉัยตาม “รสนิยม” ของใคร-ของมันเอาเองก็แล้วกัน...
คือถ้าไม่คิดจะช่วยเหลือ ไม่ได้คิดจะแสดงน้ำจิต-น้ำใจอะไรเลย ทั้งที่ตัวเองยังพยายามดิ้นรน ตะเกียกตะกาย หวังจะรักษาความเป็นประมุขโลกอีกต่อไปให้จงได้ ก็ยังไม่ถึงกับเปรี้ยวมือ เปรี้ยวเท้า มากมายสักเท่าไหร่ แต่ก่อนหน้านั้นไม่นาน หรือเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี่เอง โดยหลักฐานข้อพิสูจน์ ที่สำนักข่าว “ซานา” ของซีเรียได้นำมาเปิดเผย ยังแสดงให้เห็นอย่างเป็นที่ประจักษ์ ว่าด้วยกำลังทหารประมาณ 1,000 คนของอเมริกา ที่ยังคงวนเวียนอยู่แถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย หรือในแถบถิ่นที่อยู่ของชาวเคิร์ดในซีเรีย ได้กระทำการ “ปล้น” น้ำมันและข้าวสาลีของชาวซีเรีย ขนน้ำมันประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากแหล่งผลิตในแต่ละวัน ใส่ขบวนรถถังกว่าร้อยคัน ส่งไปขายหรือส่งไปให้ทหารอเมริกันในอิรัก แบบโจ่งแจ้ง โจ๋งครึ่ม โดยไม่คิดให้คำตอบ คำอธิบายใดๆ แม้ว่ารัฐบาลซีเรีย ไปจนถึงรัฐบาลจีน ออกมาเรียกร้องให้หยุดการปล้นสะดมชาวซีเรีย อย่างเป็นระบบและกิจการไปแล้วก็เถอะ...
การไม่คิดจะช่วย แต่พร้อมที่จะปล้นอะไรต่อมิอะไรก็ตาม...ของผู้ที่ตัวเองถือเป็นศัตรู-คู่กัด อย่างแทบไม่เหลือหัวจิต-หัวใจไม่หลงเหลือน้ำจิต-น้ำใจใดๆ แม้แต่นิด อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้ความเป็นประมุขโลก ความเป็นจ้าวโลกของคุณพ่ออเมริกาจึงเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่าชัง เกินกว่าที่จะยอมรับได้อีกต่อไป คือไม่ใช่แค่ประเทศซีเรียรายเดียวเท่านั้น ที่ต้องเจอกับความเป็น “บัวแล้งน้ำ” ของอเมริกาในลักษณะเช่นนี้ เพราะครั้งที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดโกดังเก็บน้ำมันใน “คิวบา” เมื่อช่วงปีที่แล้ว หรือเมื่อช่วงวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 2022 นี่เอง ที่คลังน้ำมัน “Matanzas” เกิดระเบิดไฟลุกท่วมชนิดแดงฉานไปทั้งประเทศ ต้องอพยพชาวคิวบากว่า 4,900 รายออกจากที่เกิดเหตุ ระบบไฟฟ้าที่ต้องพึ่งพาน้ำมันจากคลังดังกล่าวต้องหยุดชะงักเป็นอัมพาตทั้งประเทศ ขณะที่ประเทศเล็กๆ อย่างเวเนซุเอลา ที่แม้กำลังเจอภาวะเงินเฟ้อทะลุเมฆ ทะลุหลังคา ผู้คนจนแสนจนไปจนถึงประเทศใกล้เคียงอย่างเม็กซิโก ต่างกุลีกุจอส่งทีมกู้ภัย เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ไปช่วยกันดับไฟในคิวบา รวมทั้งคุณพี่จีนที่อยู่ถึงเอเชีย อยู่ไกลจากทะเลแคริบเบียนไม่รู้กี่พัน กี่หมื่นโยชน์ ต่างพยายามแสดงออกถึงความมีน้ำจิต-น้ำใจไปด้วยกันทั้งสิ้น แต่สำหรับประมุขโลกอย่างคุณพ่ออเมริกาแล้ว นอกจากเพียงแค่ให้ “คำปรึกษาทางเทคนิค” เท่านั้น กระทั่งแค่คิดยกเลิก “การแซงชั่น” ชั่วครั้ง ชั่วคราว ต่อประเทศเล็กๆ ประเทศนี้เอาไว้ก่อน ยังเป็นไปไม่ได้เอาเลย...
ด้วยเหตุนี้...จึงไม่น่าแปลกใจ ว่าเพราะเหตุใดผู้ที่หวังจะเป็นประมุขโลกสืบต่อไป อย่างคุณพ่ออเมริกาถึงได้ “ใจจืด-ใจดำ” ต่อชะตากรรมของเพื่อนมนุษย์ เพื่อนผู้ร่วมวัฏสังสาร อย่างชนิดหน้าด้าน หน้าหนา เอามากๆ หรืออย่างที่สื่อทางการของจีน “Global Times” เขาอดรนทนไม่ไหว ถึงขั้นต้องร่ายเรียง บรรยายเอาไว้ในข้อเขียน บทความ เรื่อง “Cold-hearted US ignores humanitarianism in Syrian quake relief” เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะสิ่งที่เรียกว่า “ความช่วยเหลือ” ของอเมริกานั้น ย่อมหนีไม่พ้นไปจากสิ่งที่ “ตัวกูเอง” จะได้ผลตอบแทนกลับคืนมามาก-น้อยขนาดไหน เช่นการส่ง “ความช่วยเหลือทางทหาร” ไปให้กับยูเครน เพื่อให้ “พี่น้องชาวสลาฟ” หรือชาวรัสเซีย-ยูเครน หันมาเข่นฆ่ากันเอง จนกว่าจะไม่เหลือ “ชาวยูเครนรายสุดท้าย” อีกต่อไป สลับด้วยการพร้อมที่จะ “ปล้นสะดม” ใครต่อใครทั่วทั้งโลก เพื่อให้ตัวเองยังคงความเป็น “ประมุขโลก” ต่อไปให้จงได้!!!
อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้การต้องตกอยู่ภายใต้ “โลกของอเมริกา” หรือ “โลกตะวันตก” จึงเป็นอะไรที่โหดเหี้ยมอำมหิต แห้งแล้ง ไร้หัวจิต-หัวใจ ไร้น้ำจิต-น้ำใจ เอามากๆ อันน่าจะส่งผลให้บรรดาประชากรโลก หรือประชาคมโลกทั้งหลาย มีแต่ต้องหันมาร่วมมือ-ร่วมใจ ร่วมแรง-ร่วมใจ ในอันที่จะปรับเปลี่ยนพื้นฐาน รากฐาน ของ “ระเบียบโลก” แบบเดิมๆ ให้กลายมาเป็น “ระเบียบโลกแบบใหม่” ที่ตั้งอยู่บนความมีน้ำจิต-น้ำใจ หัวจิต-หัวใจ ความพร้อมยอมรับถึง “จิตวิญญาณความเป็นมนุษย์” ขึ้นมาได้มั่ง แม้แต่เล็กๆ-น้อยๆ ก็ยังดี....