xs
xsm
sm
md
lg

ทุจริตในภาครัฐ : อุปสรรคในการพัฒนาประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง



การทุจริตหรือการโกงกินในภาครัฐ ไม่ว่าในส่วนราชการหรือในรัฐวิสาหกิจ รวมไปถึงในองค์กรอิสระมิใช่ของใหม่ แท้จริงแล้วได้เกิดขึ้นมานานแล้ว หรืออาจพูดได้ว่า พร้อมกับการเกิดขึ้นของมนุษย์ ทั้งนี้เนื่องจากว่าการโกงกินมีสาเหตุมาจากความโลภ และความเห็นแก่ตัว ซึ่งเป็นกิเลสที่มีอยู่ในกมลสันดานของมนุษย์ทุกคน แต่แสดงออกมามากน้อยไม่เท่ากัน และที่เป็นเช่นนี้ขึ้นอยู่กับคุณธรรม และจริยธรรม อันเกิดจากการฝึกอบรมบ่มนิสัย และการปลูกฝังคุณธรรมเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้คำสอนของทุกศาสนาจึงมีข้อห้ามมิให้มีการลักขโมยโดยการถือเอาสิ่งของผู้อื่นมาเป็นของตัว โดยที่เจ้าของไม่อนุญาต

จากที่มีคำสอนของทุกศาสนาดังกล่าวข้างต้น อนุมานได้ว่าการโกงกินได้เกิดขึ้นและดำรงอยู่ในสังคมมนุษย์มานานแล้ว และได้มีการเปลี่ยนรูปแบบเรื่อยมาตามกาลเวลา และความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุซึ่งเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางด้านวิชาการแขนงต่างๆ และในขณะเดียวกัน ศีลธรรม จริยธรรมอันเป็นตัวกำกับการใช้ความรู้ ความสามารถเสื่อมถอยลง

ในยุคโบราณที่รายได้ของรัฐมาจากการเก็บส่วยจากผลผลิตของประชาชนเช่น เก็บข้าวเปลือกจากชาวนาแล้วนำส่งเข้าคลังหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐในแต่ละท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ แต่มีเจ้าหน้าที่บางคนเก็บส่วยเกินกว่าที่ควรจะเก็บ และส่งเข้าคลังหลวงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น พฤติกรรมเช่นนี้เรียกว่า ฉ้อราษฎร์บังหลวงคือโกงประชาชน และโกงรัฐ

แต่ในปัจจุบันการทุจริตในภาครัฐมีให้เห็นดาษดื่น และหลากหลายรูปแบบ ทั้งในรูปแบบของตามน้ำและทวนน้ำ ซึ่งมีทั้งที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเองโดยตรง และใช้อำนาจหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้กระทำการทุจริตแล้วเรียกร้องผลประโยชน์เป็นค่าตอบแทน ดังเช่นหลายๆ คดีที่ปรากฏเป็นข่าวใหญ่อยู่ในขณะนี้

การทุจริตในภาครัฐเกิดขึ้นได้อย่างไร และส่วนใหญ่ใครเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง และถ้าจะแก้ไขป้องกันปัญหาให้ได้ผลจริงจัง จะดำเนินการได้อย่างไร?

ก่อนที่จะตอบปัญหานี้ ผู้เขียนใคร่ขอให้ท่านผู้อ่านหันไปมองดูโครงสร้างการบริหารของส่วนราชการ เพื่อจะมาเป็นจุดที่ทำให้เกิดปัญหา และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับปัญหาได้ชัดเจนขึ้น

โครงสร้างการบริหารของส่วนราชการในปัจจุบัน มีรูปแบบเหมือนรูปทรงพีระมิดหรือรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว และมีการสั่งการสายบังคับบัญชา 2 ทางคือ

1. จากบนลงล่าง (Top Down) คือสั่งจากข้างบนลงมาตามลำดับชั้นจนถึงระดับปฏิบัติการ

2. จากล่างขึ้นบน (Bottom Up)

คือเสนอจากระดับปฏิบัติการขึ้นไปตามลำดับชั้นเพื่อขออนุญาตจากผู้มีอำนาจสั่งการ

บุคลากรในภาครัฐแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

1. ข้าราชการการเมือง ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย และสั่งการให้ข้าราชการประจำนำไปปฏิบัติ และรายงานผลกลับมาให้ทราบและรับผิดชอบในสิ่งที่ส่งไป

2. บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งเข้าไปทำธุรกิจและธุรกรรมกับภาครัฐ

การทุจริตในภาครัฐเกี่ยวข้องกับบุคคล 2 ประเภทนี้ ประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือ 2 ประเภทรวมกันในรูปแบบ 2 ประสานร่วมกันโกงกินงบประมาณ ซึ่งเป็นเงินที่เรียกเก็บจากประชาชนในรูปแบบของภาษี และค่าธรรมเนียมต่างๆ

ดังนั้น การแก้ไขและป้องกันปัญหาการทุจริตในภาครัฐ จะต้องแก้ที่คนก่อนโดยการสรรหาคนดี คนเก่ง มีความรู้ มีความสามารถในด้านต่างๆ ตรงกับความต้องการของประเทศ และบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งให้ตรงกับความสามารถ โดยยึดหลักคุณธรรม และส่งเสริมให้ก้าวหน้าในอาชีพราชการ ตามนัยแห่งงานด้านบริหารบุคคล

เมื่อได้คนดี คนเก่งเข้ามาทำงานในภาครัฐ และได้รับการส่งเสริมให้ก้าวหน้า คนเหล่านี้ก็จะอุทิศตนเองให้กับงาน โดยการพัฒนาระบบงานให้ดีขึ้นด้วยการแก้ไขระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีปฏิบัติงานซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับสภาพการที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อรองรับคนดีที่ต้องการเข้ามาทำงานในภาครัฐ และในขณะเดียวกัน ก็จะปิดกั้นมิให้คนเลวเข้ามาสู่ภาครัฐ ถ้าบังเอิญหลุดรอดเข้ามาได้โดยอาศัยระบบอุปถัมภ์ ก็จะถูกระบบที่ดีควบคุมให้แสดงพฤติกรรมชั่วร้ายออกมาได้ยาก เพราะจะต้องไม่ลืมว่า คนเป็นผู้สร้างระบบ และทำลายระบบ

ดังนั้น ในระบบใดมีคนดีมากกว่าคนเลว ระบบนั้นก็สามารถดำเนินการไปได้ด้วยดี ในทางตรงกันข้าม ถ้าคนส่วนใหญ่เลวไม่สามารถจะดำเนินการไปได้ ในที่สุดก็ล่มสลาย

ในไม่ช้านี้ ประเทศไทยก็มีโอกาสเลือก ส.ส.ซึ่งเป็นข้าราชการการเมืองเข้าสู่ภาครัฐ ถ้าเลือกได้คนดีเป็นส่วนใหญ่ระบบการเมืองไทยก็จะดีขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าเลือกได้คนไม่ดีเป็นส่วนใหญ่ การเมืองไทยก็คงล้มเหลวและอาจกลับไปสู่วังวนการเมืองอีกครั้งคือ ประชาชนต้องออกมาไล่ และเปิดโอกาสให้การทำรัฐประหารโดยอ้างความเลวของนักการเมืองอีกครั้งก็เป็นได้


กำลังโหลดความคิดเห็น