ค่ายการเมืองระดมพลังตระเวนหาเสียงเลือกตั้งอย่างเต็มที่ แม้จะยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้งว่าจะเป็นเมื่อไหร่ กลุ่มพรรคใหญ่เชื่อว่าคงไม่เกินเดือนมีนาคม เป็นเส้นตายสุดท้ายที่ท่านห้าวเป้งแปดเปื้อนจะอยู่ในอำนาจได้ จะยื้อต่อไปไม่ได้
แกนนำพรรคใหม่ของท้านห้าวเป้งแปดเปื้อนก็เชื่อว่าการยุบสภาฯ เพื่อให้เลือกตั้งใหม่จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมแน่นอน ดังนั้นต้องเตรียมพร้อมสู้ศึกเพื่อจะได้ไปต่อ
การที่ยืดถึงเดือนมีนาคมเพราะต้องการให้นักเลือกตั้งมีเวลาย้ายค่าย ไม่ว่าจะมีกล้วยเป็นแรงจูงใจหรือด้วยปัจจัยอื่นที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักตัวก็ตาม
ถึงมีคำพูดแซวกันในกลุ่มนักเลือกตั้งว่าพวกย้ายค่ายมีน้ำหนักตัวเพิ่ม คงเป็นด้วยเหตุต้องแบกปัจจัยหนัก 20-30 กิโล ตามราคาและโอกาสที่จะชนะเลือกตั้ง
บันทึกรำพึงรำพันของลุงป้อมเรื่องท่านห้าวเป้งถือว่าเป็นจดหมายสะบั้นไมตรี ชิงดีชิงเด่นการเป็นผู้นำประเทศหลังเลือกตั้ง ต้องทุ่มทั้งกำลังกายและปัจจัยให้เต็มที่
การลงทุนเลือกตั้งจะประหยัดไม่ได้ ถ้าเอาพฤติกรรมตังเมเรียกพี่ หรือระดับเกลือทิพย์ คงไม่สามารถซื้อใจชาวบ้านที่ท่องคำขวัญ “เงินไม่มา กาไม่เป็น”
เดิมพันครั้งนี้จึงใหญ่หลวงสำหรับท่านห้าวเป้งที่จะขออยู่ต่อจากแปดปี แปดเปื้อนให้ได้ จำเป็นต้องหักกับพี่ใหญ่ จะว่าเนรคุณก็ไม่ได้ เพราะการเมืองเป็นเหมือนสังคมพาราสาวัตถี ไม่มีใครปรานีใคร แม้การเมืองไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวรก็ตาม
เรื่องพรรค์นี้ไม่มีใครยอมเสียสละ โดยเฉพาะเก้าอี้ผู้นำรัฐบาล ที่มีตัวเดียว
พรรคใหม่ของท่านห้าวเป้งสร้างความหวัง ผสมฝันบรรเจิดว่าจะคว้าที่นั่งได้ถึง 50 ที่ แม้ปัจจุบันยังไม่มีแม้แต่ 1 เก้าอี้ ความหวังฝากไว้กับบรรดานักย้ายพรรคที่ต้องการเพิ่มน้ำหนักตัว โอกาสจะได้นั่งเก้าอี้เสนาบดี มีผลประโยชน์จากการถอนทุน
ค่ายใหญ่ของท่านดูไบยิ่งฮึกเหิม ท่องคาถา “แลนด์สไลด์” ไม่ว่าจะไปหาเสียงที่ไหน โดยเฉพาะอีสาน ทายาทคนสุดท้องของท่านดูไบเริ่มเจนเวที ลีลาคำพูดหาเสียงกระตุกต่อมคนรุ่นใหม่ และพวกที่เคยได้ประโยชน์จากกองทุนหมู่บ้าน
“อิ๊ง” ประกาศว่าตัวเองพร้อมจะเป็นตัวแทนพรรคเข้าชิงเก้าอี้นายกฯ แม้จะอยู่ในวัย 36 ปี ไม่มีประสบการณ์ชีวิตมากนัก เพียงอาศัยชื่อสกุลของพ่อเป็นจุดขาย
นอกจากนั้น “อิ๊ง” ยังมีเศรษฐีนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาร่วมเป็นตัวแทนชิงเก้าอี้นายกฯ หน้าพรรคการเมือง หมอชลน่าน ก็น่าจะมีชื่อติดให้ครบ 3 ที่ เพื่อให้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย ใครจะเป็นตัวจริงนั้นต้องรอ
“อิ๊ง” ยังมีปัญหา กระดูกไม่ติดเบอร์ การจะนั่งเก้าอี้นายกฯ ด้วยวัยไร้ประสบการณ์งานบริหาร หรืองานใหญ่ระดับชาติ เป็นผู้นำประเทศ มันเกินตัว
วิกฤตที่ครอบงำประเทศช่วง 8 ปีภายใต้ท่านแปดเปื้อนทำให้ยากต่อการแก้ไข การจะเป็นนายกฯ ในรูปแบบของหุ่นเชิดหรือหัวโขน มีที่ปรึกษาแวดล้อม ทำให้ศักดิ์ศรี เกียรติภูมิชาติเสียหายในฐานะที่มีขนาดเศรษฐกิจอันดับ 2 ของอาเซียน
ต้องคำนึงถึงขีดความสามารถเมื่อปรากฏตัวบนเวทีการประชุมระดับนานาชาติ การแสดงความคิดเห็น นโยบาย การพบปะพูดคุยเจรจากับผู้นำประเทศอื่นๆ
สถานภาพของประเทศไทยไม่ใช่กระจอก เอาพวกมือไม่ถึงมาเป็นนายกฯ แม้อยู่ได้นาน ก็เห็นอยู่แล้วทุกวันนี้ว่าบ้านเมืองเสี่ยงต่อความวิบัติทางเศรษฐกิจอย่างไร ทุกวันนี้ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าอนาคตของประเทศจะเป็นอย่างไร เมื่อไร้คนดี
โครงสร้างบ้านเมืองผุกร่อน การเมือง เศรษฐกิจ สังคม กระบวนการยุติธรรม ระบบข้าราชการ องค์กรอิสระล้วนมีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือ การทุจริตเฟื่องฟู
ดังนั้น “อิ๊ง” อาจเป็นเพียงตัวหลอก เหมือนกับเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ เรื่องนี้ไม่ใช่ท่านดูไบจะตัดสินใจได้ตามลำพัง ยังมีปัจจัยเงื่อนไขแฝงเร้นเป็นตัวกำหนด
ที่สำคัญ จำนวน ส.ส.หลังวันเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้ขาดว่าอะไรเป็นอะไร
นักเลือกตั้งเริ่มโยนหินถามทางเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล สภาพปัจจุบันดูเหมือนจะแบ่งเป็น 3 ขั้ว หรือขั้วลุงป้อม ขั้วท่านห้าวเป้ง และพรรคก้าวไกลที่ไม่เอาลุงคนไหน
ขั้วลุงป้อมน่าจะมีค่ายท่านดูไบ ค่ายหนุนกัญชาร่วม มีเจตนาชัดเจนว่าต้องการสกัดไม่ให้ท่านห้าวเป้งแปดเปื้อนได้เข้ามาอีก แต่การเมืองไว้ใจไม่ได้ ค่ายหนุนกัญชาสามารถเป็นตัวแปรถ้าได้เสียงมากถึงยี้ห้อย 120 เก้าอี้ตามคำประกาศ
“เสี่ยหนู” หัวหน้าพรรค อาจไม่ยอมรับบทบาทเป็นตัวช่วยราชสีห์หรือเสือตัวไหน ถ้ามีโอกาสต้องขอเป็นเอง ไม่ยอมเป็นห้างร้านให้ใครนั่ง กินน้ำใต้ศอก
ดังนั้นค่ายเสี่ยหนูจึงทุ่มทรัพยากรอย่างเต็มที่ สามารถดูดนักเลือกตั้งผ่านท่อตรงและการตกปลาในบ่อเพื่อน ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเลือกวิธีการ ถ้าต้องชนะ
นักเลือกตั้งก็พร้อมจะขายตัวให้ผู้เสนอราคาสูงสุด เป็นที่พอใจ ดังนั้นจะเห็นว่านักเลือกตั้งหลายคนทิ้งค่ายเก่าไปอยู่ค่ายใหม่ได้ไม่กี่วันก็ย้ายอีกแล้ว ถ้าได้เพิ่มน้ำหนักอย่างน้อย 30 กิโล รวมทั้งค่ายใช้จ่ายรายเดือน โอกาสได้คุมพื้นที่ คุมเงิน
นายทุน เจ้าสัวเข้าใจดีว่านี่เป็นฤดูกาลของการลงทุน ฝนตกต้องให้ทั่วฟ้า มากน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดและโอกาสของพรรค ผลประโยชน์ที่ตามมาเกินคุ้ม
ที่ผ่านมาก็ยิ่งกว่าคุ้ม มีอภิมหาเศรษฐีแจ้งเกิดใหม่หลายรายจากการขายไฟฟ้า
ถ้าแทงม้าถูกเบอร์ ก็จะยิ่งโกยเงินได้อีก ถ้าพวกหน้าเดิมได้สืบทอดอำนาจ
ได้ 2-3 โครงการระดับหลายร้อยล้าน หรือพันล้าน ก็พอใจ ทั้งยังใช้เป็นทุนหว่านสร้างฐานเพื่อผลประโยชน์ต่อเนื่อง ร่วมกับผู้มีอำนาจ ช่วงเศรษฐกิจถูกกระตุ้นด้วยธุรกิจการท่องเที่ยว โอกาสที่จะลงทุนในโครงการใหม่ดูมีความหวังกว่าเดิม
ผู้รับเคราะห์คือประชาชนกลุ่มด้อยโอกาสที่จะรับสภาพวิกฤตกระทบบ้านเมือง