ความหวังที่จะได้เห็นการเจรจาเพื่อนำไปสู่สันติภาพในสงครามทำลายล้างระหว่างยูเครนกับรัสเซียคงจะยาก ฝ่ายโลกตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ โดยมีองค์การนาโตเป็นตัวแทนยังจะมุ่งส่งอาวุธให้ยูเครนต่อเนื่อง ทั้งไม่เคยเอ่ยปากเรื่องสันติภาพ
เลขาธิการองค์การนาโต นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก ประกาศวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่ากลุ่มพันธมิตรนำโดย สหรัฐฯ ยังจะสนับสนุนด้านการเงิน และส่งอาวุธหนักให้ยูเครนโดยถือว่าเป็นสภาวะที่จำเป็นเพื่อให้ยูเครนชนะสงครามกับรัสเซีย
หมายความว่าฝ่ายโลกตะวันตกจะไม่มีวันเจรจากับรัสเซีย ทั้งสองฝ่ายได้กลายเป็นปฏิปักษ์ในการสู้รบ โดยใช้ยูเครนเป็นสมรภูมิและมีกำลังทหาร แต่อาวุธมาจากกลุ่มพันธมิตรในนาโต รุมกินโต๊ะรัสเซียด้วยมาตรการกดดันสารพัด
ความพินาศย่อยยับของเมืองต่างๆ ก็อยู่ในยูเครน ประชาชนที่ลำบากยากแค้นเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิตก็คือคนยูเครน ซึ่งมากกว่า 7 ล้านคน ได้อพยพลี้ภัยไปอยู่ยุโรปและประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ แคนาดา และสหรัฐฯ
นอกจากไม่แสวงหาการเจรจาเพื่อสันติภาพและหยุดยั้งสงครามแล้ว กลุ่มประเทศตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ ซึ่งมีรวมกันแล้วเกือบ 50 ชาติจะประชุมกันในวันศุกร์นี้ที่เมืองรัมสไตน์ ในเยอรมนีเพื่อวางแผนสนับสนุนยูเครนให้สู้รบต่อไป
สงครามเริ่มวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา ยืดเยื้อเกือบจะครบ 1 ปี ทั้งสองฝ่ายสูญเสียทหารไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน ยูเครนต้องยอมรับความพินาศของระบบสาธารณูปโภคและเศรษฐกิจที่ต้องใช้เงินเดือนละ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่ออยู่รอด
การประชุมของกลุ่มพันธมิตรก็เพื่อหาทางยกระดับของอาวุธให้หนักหน่วง และพร้อมที่จะสู้กับรัสเซีย สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลอังกฤษได้ตัดสินใจส่งรถถังประเภทหนัก Challenger 2 ให้ยูเครนคาดว่าจะมีประมาณ 10 คันเป็นการนำร่อง
ทั้งยังจะเป็นการกดดันให้เยอรมนีและฝรั่งเศสพิจารณาส่งรถถังขนาดหนักให้ยูเครนนอกเหนือจากยานรบขนาดเบา เพื่อสนับสนุนภารกิจของทหารราบ ที่เคยประกาศไว้ว่าจะส่งให้ยูเครนเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นรถรบตกรุ่นค้างอยู่ในกองทัพ
สภาวะที่ดูเหมือนจะไม่เต็มใจ ลังเลที่จะช่วยยูเครนทำให้เยอรมนีถูกมองว่า ไม่ได้สนับสนุนเต็มที่ รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี นางคริสติน แลมเบรชต์ ได้ประกาศลาออกหลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่มีประสิทธิภาพและหิวแสง
รถถังที่อังกฤษส่งไปให้มีจำนวนน้อยเกินไปที่จะสร้างแรงกดดันหรือความแตกต่างเป็นผลต่อการสู้รบ อาวุธที่ยูเครนต้องการจะต้องทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง แม้ก่อนหน้านั้นจรวดอย่างเช่น Himars จากสหรัฐฯ แม้จะมีประสิทธิภาพสูงก็ไม่สามารถเลี่ยงจากการถูกทำลายโดยกองทัพรัสเซีย
สงครามล่าสุด หน่วยทหารรับจ้างรัสเซียที่ชื่อ Wagner Group ประสบความสำเร็จในการเข้ายึดเหมืองเกลือที่เมือง Soledar โดยสังหารทหารยูเครนกว่า 500 นายตามคำประกาศของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ซึ่งถือว่าเป็นชัยชนะสำคัญในการตัดกำลังและเส้นทางของทหารยูเครนในการรุกคืบต่อไป
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียก็ได้ใช้จรวดและโดรน รวมทั้งปืนใหญ่ถล่มหลายเมืองในยูเครนรวมทั้งกรุงเคียฟเมืองหลวง เมืองคาร์คอฟ และเมืองลวิฟ สร้างความเสียหายให้เครือข่ายโรงงานไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ
รัสเซียประกาศว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจโดยสหรัฐฯ และพันธมิตรไม่สามารถส่งผลกระทบอย่างหนักต่อรัสเซียได้ และยังมีความแข็งแกร่งด้านแสนยานุภาพสามารถผลิตอาวุธเพื่อใช้ในการสู้รบต่อเนื่อง
รัสเซียได้ประกาศจะเพิ่มระดับอายุของกองกำลังที่จะเข้าข่ายเกณฑ์ทหาร ไปที่ 30 ปีเพื่อจะเพิ่มกำลังพลของกองทัพจาก 1.2 ล้าน เป็น 1.5 ล้านคน ซึ่งจะทำให้มีความพร้อมในการเผชิญการขยายตัวของสงครามในกรณีที่ลามเข้าไปในพื้นที่นาโต
รัสเซียมีความพร้อมทางด้านเศรษฐกิจ อาหาร และพลังงานสามารถส่งออกพลังงานไปขายให้จีนและอินเดียรวมถึงตลาดอื่นๆ สร้างรายได้และเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 5.8 แสนล้านดอลลาร์ แม้จะถูกยึดไป 3 แสนล้านดอลลาร์
สถาบันการเงินในโลกตะวันตกกำลังหาเหตุที่จะยึดเงินไว้อย่างเด็ดขาด อ้างว่าจะใช้บูรณะยูเครนหลังจากสงครามยุติลง แต่ยังหาเหตุผลด้านกฎหมายไม่ได้
เมื่อไม่มีสันติภาพเพื่อการเจรจาโดยฝ่ายพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ก็หมายความว่าสงครามจะต้องดำเนินต่อไปด้วยความพินาศของยูเครน ขณะที่องค์การสหประชาชาติยังเป็นเพียงเสือกระดาษที่ไม่มีพลังในการเป็นตัวกลางให้เกิดการเจรจา
สหรัฐฯ ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด แต่มีกำไรมากที่สุดในการขายอาวุธและก๊าซธรรมชาติเหลวให้ยุโรป ซึ่งยังไม่มีทางเลือกในการหาแหล่งพลังงานทดแทนหลังจากการตัดขาดไม่ซื้อน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ทำให้ประเทศอุตสาหกรรมหลักอย่างฝรั่งเศสและเยอรมนีรวมทั้งอังกฤษแทบสิ้นสภาพ
ประชาชนยุโรปและอังกฤษจะต้องประสบภาวะทุกข์ยากลำบากเพราะค่าครองชีพสูงเกิดจากเงินเฟ้อ 2 หลักกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ และราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นทำให้มาตรฐานชีวิตตกต่ำลงโดยยังไม่มีทางออกด้านพลังงานทางเลือก
เมื่อเป็นเช่นนี้ ประชาคมโลกยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนต่อไปทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมระดับสากล เพราะเหตุสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียเพียงแต่หวังว่าจะไม่ขยายไปนอกสมรภูมิที่เป็นอยู่ขณะนี้เท่านั้น
เป็นการประเมินผิดพลาดอย่างแรงว่ารัสเซียจะถูกมาตรการคว่ำบาตรให้โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศล่มสลาย แต่กลับเป็นยุโรปที่รับเคราะห์หนัก