หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ
ตอนนี้พรรคเพื่อไทยเริ่มปูพรมป้ายหาเสียงนโยบายต่างๆของพรรคโดยมีรูปของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเป็นตัวชูโรงเต็มไปหมด ฟันธงได้เลยว่าอุ๊งอิ๊งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยแน่ๆ แม้นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในทางนิตินัยประกาศว่ายังไม่ประกาศชื่อแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยเพราะยังอยู่ในกระบวนการแต่จะประกาศทันทีหลังยุบสภา
กระบวนการใต้คำอธิบายของชลน่านก็เป็นเพียงการพูดให้ดูเหมือนว่าพรรคมีกระบวนการขั้นตอนที่ถูกต้องชอบธรรมไม่ใช่ทำตามใบสั่งของใครเท่านั้นเอง แต่ข้อเท็จจริงก็เป็นที่รู้กันนั่นแหละว่า ใครจะไปใครจะมานั้นขึ้นอยู่กับทักษิณเจ้าของพรรคในทางพฤตินัย
เชื่อขนมกินได้เลยว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคคนหนึ่งต้องเป็นอุ๊งอิ๊งแน่นอน ถ้าเป็นไปตามกระบวนการของพรรคนั้นคิดหรือว่า อยู่ๆ เด็กคนหนึ่งซึ่งยังไม่รู้ประสาอะไรจะก้าวขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค นักการเมืองทั้งหลายที่คร่ำหวอดในวงการมานานจะยอมรับให้เด็กคนหนึ่งขึ้นมาเป็นผู้นำของพวกเขาหรือ ถ้าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกสาวของทักษิณ
แต่ความเป็นไปได้ที่จะมีนายกรัฐมนตรีชื่ออุ๊งอิ๊งหรือไม่เล่ามาดูกัน
ถ้าเราจำสไตล์ของพรรคเพื่อไทยได้ในการโหวตนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้นถ้าพรรคชนะแน่นอนเท่านั้นจึงส่งแคนดิเดตของพรรคตัวเองเข้าไปแข่งขันในสภา จำได้ไหมว่าครั้งหนึ่งที่รู้ว่าแพ้แน่คือการโหวตแข่งกับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคเพื่อไทยยอมเปิดทางให้พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก จากพรรคเพื่อแผ่นดินลงไปโหวตแข่งแทน เช่นเดียวกันตอนโหวตแข่งกับพล.อ.ประยุทธ์ พอรู้ว่าแพ้แน่ก็ยอมเปิดทางให้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคอนาคตใหม่ลงไปแข่งแทน
ตอนนี้ความนิยมในโพลต่างๆ ของอุ๊งอิ๊งมีคะแนนนำมาเป็นอันดับ 1 ด้วยความเป็นลูกสาวของทักษิณนั่นแหละ เพราะต้องยอมรับว่า ยังมีคนรักทักษิณมากมายในประเทศนี้ เพราะคนจำนวนมากยังเชื่อว่า ทักษิณถูกกลั่นแกล้งเพราะผู้มีอำนาจอิจฉาทักษิณที่มีมวลชนรักจำนวนมาก
ทักษิณเป็นคนเดียวที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ถูกรัฐประหารแล้วยังไม่ยอมแพ้ แม้จะเป็นนักโทษหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศเขาก็ไม่อยู่เฉยๆ เงียบเหมือนคนอื่นที่หายเข้ากลีบเมฆไป แต่ทักษิณยังคงสื่อสารและแสดงความเห็นทางการเมืองกับมวลชนของเขาเสมอมา
เมื่อไม่กี่วันก่อนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่า จะทำทุกวิถีทางพร้อมกำชับ ที่จะขอตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้ หรือไม่ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง ดังนั้น คนที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศไม่สมควรที่จะต้องพูดมาก
แน่นอนพล.อ.ประยุทธ์หมายถึงทักษิณนั่นแหละ แต่พล.อ.ประยุทธ์จะทำอย่างนั้นจริงไหม ผมคิดว่าไม่หรอก เพราะถ้าพล.อ.ประยุทธ์จะทำเขาต้องทำมานานแล้วไม่ใช่มาพูดในวันที่กำลังจะพ้นวาระ และลึกๆ พล.อ.ประยุทธ์ก็รู้ว่าเขาไม่สามารถทำอะไรทักษิณได้ แต่ต้องการเอาใจแฟนคลับของเขาที่เกลียดทักษิณในเวลาที่จะใกล้เลือกตั้งเท่านั้นเอง
ทักษิณวางตัวอุ๊งอิ๊งลูกสาวของตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน เพราะนี่เป็นสายเลือดที่เขารักมากที่สุด และต้องการแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าเขาจะถูกจัดการอย่างไรจากผู้มีอำนาจในประเทศไทย อย่างไรก็ยังมีคนรักเขา และถ้าเขาจะสนับสนุนใครขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีเขาก็สามารถทำได้โดยง่าย เห็นกันมาแล้วว่าเขาผลักดันน้องสาวยิ่งลักษณ์ที่ไม่ประสีประสามาเป็นนายกรัฐมนตรีในชั่วข้ามคืน และการผลักดันลูกสาวของตัวเองขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายเย้ยหยันผู้มีอำนาจในประเทศนี้ว่าจะคิดกำจัดเขานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ตอนนี้ทักษิณคาดหวังว่าพรรคของเขาจะแลนด์สไลด์นั่นหมายความว่า พรรคเพื่อไทยจะได้รับการเลือกตั้งถึง 250 คนขึ้นไป ซึ่งผมคิดว่ายังเป็นไปได้ยาก อุปสรรคของทักษิณก็คือ พรรคก้าวไกล เพราะมีฐานมวลชนที่ทับซ้อนกัน ถ้าพรรคก้าวไกลได้มากเท่าใดพรรคเพื่อไทยก็จะได้น้อยลงเท่านั้น
เมื่อไม่กี่วันก่อนปิยบุตร แสนกนกกุล ผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคก้าวไกลบอกว่า พรรคเพื่อไทยชูคำขวัญ “แลนด์สไลด์” ย่อมทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ต้องการเปลี่ยนรัฐบาล ไม่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์อีกต่อไป แม้พวกเขาอาจเอาใจช่วยพรรคก้าวไกลอยู่ แต่ก็พร้อมที่จะเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะเห็นว่า มีความเป็นไปได้มากกว่าที่พรรคเพื่อไทยจะชนะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากไม่เทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย สุดท้าย เราจะไม่ได้เปลี่ยนรัฐบาล ไม่ได้เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี
ปิยบุตรยอมรับว่าสถานการณ์แบบนี้มวลชนฝั่งเดียวกันจะทิ้งพรรคก้าวไกลไปเลือกตั้งในเชิงยุทธศาสตร์เพื่อหวังจะให้พรรคของทักษิณชนะเพื่อล้มพล.อ.ประยุทธ์ให้ได้ แต่ด้านลึกปิยบุตรคงต้องการปลุกแฟนของก้าวไกลนั่นแหละว่า ถ้าคิดแบบนี้พรรคกาวไกลจะได้ส.ส.น้อยลง ดังนั้นต้องลงให้พรรคไม่ใช่ลงให้เพื่อไทย
ส่วนตัวผมเคยแสดงความเห็นไปแล้วว่า พรรคเพื่อไทยนั้นน่าจะได้ส.ส.อย่างเก่งก็ 200 คนบวกลบเท่านั้นไม่น่าจะแลนด์สไลด์ได้ แต่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลนั้นน่าจะมีเสียงส.ส.รวมกันเกิน 250 คน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้จะปิดทางให้ฝั่งรัฐบาลปัจจุบันกลับมาเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก เพราะถ้าจะให้ส.ว.มาโหวตให้เป็นรัฐบาลต่อก็จะเป็นได้เพียงรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่บริหารประเทศไม่ได้
แต่อุ๊งอิ๊งจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีไหมผมคิดว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้าอุ๊งอิ๊งจะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นจะต้องรวบรวมเสียงของสองสภาให้ได้มากถึง 376 คน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรวบรวมเสียงส.ส.อย่างเดียวให้ได้ 376 คนต้องการเสียงของส.ว.มาช่วยด้วย ผมคิดว่าอาจจะมีส.ว.เทมาสนับสนุนด้านนี้บ้างถ้าหากฝั่งนี้ชนะเสียงส.ส.มาเกิน 250 คน แต่ก็คงกระปริบกระปรอยยังไม่น่าจะมากพอที่จะได้ถึง 376 เสียง
ถ้าฝั่งของพรรคเพื่อไทยสามารถรวบรวมเสียงได้เกิน 250 เสียง แต่ฝ่ายของส.ว.งดออกเสียง เพราะรู้ว่าถ้าไปโหวตให้ฝั่งรัฐบาลก็เป็นได้แค่รัฐบาลเสียงข้างน้อย ตรงนี้ก็จะเกิดเดทล็อกทันทีเพราะทำอย่างไรก็โหวตนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ยังไม่รู้เลยว่า ถ้าทำอย่างนี้แล้วจะมีทางออกอย่างไร จะไปหานายกรัฐมนตรีคนนอกตามบทเฉพาะกาลก็ต้องใช้เสียงสองสภา 500 คน ซึ่งถ้าฝั่งเพื่อไทยถืออยู่เกิน 250 คนอีกฝั่งก็ไม่มีวันได้เสียงถึง 500 คนอีก นั่นจะเป็นสมการที่ยุ่งขิงมาก
อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้ส.ว. 250 คนก็แบ่งเป็นหลาบฝ่าย คือฝ่ายของพล.อ.ประยุทธ์ ฝ่ายของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และยังมีฝ่ายที่เป็นตัวของตัวเองอีกจำนวนหนึ่ง ว่ากันว่า ฝ่ายของพล.อ.ประวิตรนั้นมีส.ว.อยู่ในมือประมาณ 70 คน ถ้าทักษิณอยากได้เสียงของส.ว.ก็ต้องเจาะผ่านพล.อ.ประวิตร ที่ใครที่ติดตามการเมืองต่างเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐของพล.อ.ประวิตรนั้นมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะไปร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
แต่ถามว่าการถือแต้มต่อส.ว. 70 เสียงไว้ในมือของพล.อ.ประวิตรและถ้าพรรคพลังประชารัฐมีส.ส.เกิน 25 เสียงที่ทำให้พล.อ.ประวิตรเป็นตัวเลือกนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตรจะไม่ใช้อำนาจนี้ต่อรองเพื่อขอเป็นนายกรัฐมนตรีหรือ แล้วทักษิณจะมีทางเลือกไหมเพราะทำอย่างไรก็ไม่สามารถรวบรวมเสียงสองสภาได้ถึง 376 คน
ผมจึงไม่คิดว่า พรรคเพื่อไทยของทักษิณจะสามารถรวบรวมส.ส.ได้ 376 คนขึ้นไปเพื่อจัดตังรัฐบาลได้หากไม่พึ่งพาเสียงส.ว.ของพล.อ.ประวิตร ดังนั้นยังไม่เชื่อว่า เราจะมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่ออุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร แต่อุ๊งอิ๊งอาจเป็นรัฐมนตรีหรือรองนายกฯ เพื่อบ่มเพาะให้ปีกกล้าขาแข็งกว่านี้
แต่โอกาสของอุ๊งอิ๊งยังมีไหมก็ต้องตอบว่ายังมี ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหากส.ว.ชุดนี้หมดวาระลงไปแล้วในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 นั่นหมายความว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปจากนี้จะใช้เสียงของส.ส.เท่านั้น ส.ว.ที่จะมาจากการเลือกตั้งในอนาคตนั้นจะไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้อีก โอกาสของอุ๊งอิ๊งและพรรคเพื่อไทยน่าจะเกิดขึ้นตอนนั้น ถ้าคนจำนวนมากในประเทศยังรักและศรัทธาทักษิณอย่างที่เป็นอยู่
ถึงวันนั้นเราก็จะมีนายกรัฐมนตรีที่สืบสายเลือดจากตระกูลชินวัตรชื่ออุ๊งอิ๊ง แพทองธารอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ใช่ในยุคที่ส.ว.แต่งตั้งยังมีอำนาจอยู่
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan