ถ้าบทการเมืองระหว่าง “พี่ใหญ่” กับ “น้องเล็ก” ไม่ใช่การแสดงแบบจัดฉากต่อเนื่อง ก็ต้องถือว่าลุงป้อมเป็นยอดคนผู้เสียสละให้ท่านห้าวเป้ง ประธานการประชุมเอเปกที่กรุงเทพฯ ทุกวันนี้ลุงป้อมยังอ้างว่า 3 ป. ยังรักกันดีเหมือนเดิม ตลอดกว่า 50 ปี
ความรักระหว่าง 3 ป. จะแนบแน่น ไม่เสื่อมคลายเช่นนั้นเลยหรือ ทั้งที่ในชีวิตจริงพี่น้องยังทะเลาะ ถึงขั้นฆ่ากันตายได้เพราะแย่งมรดก หรือผลประโยชน์ขัดกัน
ถ้าไม่มีอะไรกันจริง ต้องบอกว่าลุงป้อมใจกว้างยิ่งกว่าแม่น้ำ มีเมตตายิ่งกว่าพระเวสสันดรในชาดก เป็นผู้เสียสละ หวานอมขมกลืน แม้ต้องกลืนเลือดเพื่อน้อง
มีช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวถามว่า “ถ้าลุงตู่ไปอยู่พรรคใหม่ จะว่าอย่างไร” ลุงป้อมตอบว่า “ใครอยากจะไปไหนก็ไป” อีกวันบอกว่า “พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติก็เหมือนพรรคเดียวกัน ดูดกันไปดูดกันมา”
ชาวบ้านได้ฟังก็ต้องประเมินใหม่ ย้อนนึกถึงคำพูดของพวกวงใน อ้างว่า 3 ป. ไม่ทะเลาะกันจริง เล่นละครกันเพื่อแหกตาชาวบ้าน แบ่งบทกันเล่น
บางพวกก็บอกว่าทั้ง 3 ลุงเล่นกันคนละบท การเมืองมีทั้งแยกกันอยู่ รวมกันตี
ก็ต้องบอกว่าการเมืองไม่ใช่ล้ำลึกอย่างนั้น ถ้าเล่นเกมซ่อนเล่ห์ ก็ถือว่าเป็นการแหกตาต้มประชาชนเพื่อความอยู่รอดในอำนาจและผลประโยชน์ บ้านเมืองเสียหาย
ที่ผ่านมาในยุคการปรับ ครม.ล่าสุด มีจุดให้หวนนึกย้อนดูว่าลุงป้อมได้เป็นผู้ยอมเสียสละแท้จริงหรือไม่ เพราะไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร ลุงป้อมก็จะมีคำตอบมาตรฐานว่า “ก็ไอ้ตู่จะเอาอย่างนั้น แล้วจะให้ทำอย่างไร” ฟังดูเหมือนลุงป้อมไร้น้ำยา
เช่นกรณีการปลดผู้กองและอาจารย์แหม่ม ลุงป้อมช่วยอะไรไม่ได้จริง จนพรรคแตก ทุกวันนี้ลูกพรรคก็โดนดูดไม่หยุด ที่เหลือก็รอจังหวะจะเผ่นไปอยู่กับลุงตู่
ลุงตู่ยังอ้ำอึ้ง สงวนท่าที ไม่ยอมประกาศว่าจะไปอยู่พรรคใหม่ ซึ่งอยู่ในสภาพ “ขี้ใหม่หมาหอม” นักเลือกตั้งไร้หลักการ ผิวหน้าแข็งแรง หนีจากพรรคเดิมเข้าร่วม
คงนึกว่าพรรคใหม่จะขายได้ มี ส.ส. เกิน 25 คน ลุงตู่จะเป็นผู้นำรัฐบาล อ้างว่าการเป็นประธานเอเปก จัดงานได้สำเร็จ เป็นจุดกระชากการฟื้นตัวความนิยม
เป็นการประเมินหลอกตัวเอง หรือหลอกประธานเอเปกหรือเปล่า ก็ไม่รู้ เพราะท่านห้าวเป้งชอบฟังแต่ข่าวดี ไม่ชอบข่าวเชิงลบ เช่นการทำโพลแต่ละครั้ง ลุงตู่อยู่อันดับ 4-5 โน่น ตามหลังที่ว่า “ไม่รู้จะเลือกใคร” แค่งานเอเปกจะตีตื้นได้ง่ายหรือ
มองย้อนไปเรื่องลุงป้อมผู้เสียสละ ต้องนับว่าเป็นคนใจแข็ง อึดมาก กลืนเลือดหรือเปล่าก็ไม่บอก เมื่อตัวเองเป็นทั้งหัวหน้าพรรค รับภาระค่าใช้จ่ายในการหาเสียง
งานที่ได้คือตำแหน่งรองนายกฯ ลอยๆ ไม่ได้ควบกระทรวงไหนเลย ความรับผิดชอบก็มีแค่เรื่องดิน น้ำ ลม ไม่ได้คุมกระทรวงด้านความมั่นคง
รองนายกฯ ที่เป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลได้กระทรวงสำคัญนั่งหมด ทั้งค่ายสะตอ ค่ายกัญชา ป๋าดอน และเสี่ยรองนายกฯ คุมกระทรวงพลังงาน
งานลุงป้อมไม่มีเนื้อ มีแต่เรื่องน้ำ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นอัน ไม่ได้คุมกระทรวงอะไร
หรือท่านห้าวเป้งหวังดีว่าพี่ใหญ่อายุเยอะ เดินเหินไม่สะดวก ไม่อยากให้รับงานหนักเกินไป ทั้งที่เคยรับงานรักษาการนายกฯ ก็ทำได้น่าประทับใจแฟนคลับลุงป้อม
เห็นเช่นนี้แล้ว ก็น่าคิด ว่าทำไมลุงป้อมไม่ได้คุมตำรวจ ทหาร เหมือนก่อนหน้านี้ มีปัญหาอะไร ท่านห้าวเป้งต้องรวบหมด หรือที่ผ่านมามีน้องลุงป้อมไปจุ้นจ้าน
คำพูดเรื่องแยกทางกันตั้งพรรค บางครั้งลุงป้อมก็พูดทำให้คนสับสน เหมือนทำลับ ลวง พราง บางจังหวะดูเหมือนหงุดหงิด มีอารมณ์ เก็บความในใจไว้ไม่อยู่
บางครั้งก็เงียบ เดินผ่านผู้สื่อข่าวถามจี้ แต่ไม่ยอมปริปาก
หรือช้ำในหัวอกจนพูดไม่ออก ถ้าจะยอมรับว่าแตกแยกกันก็จะเป็นเรื่องราวใหญ่โต ต้องรักษาสภาพอย่างนี้ไว้ คนการเมืองด้วยกันมองออกว่าน่าจะแตกกันจริง
ถ้าไม่จริง ทำไมลุงป้อมทนกับสภาพโดนย่ำยี เหมือนมีคนกินบนเรือน ขี้รดบนหลังคาก็ยังยอม ลุงป้อมทำให้ทุกอย่าง แต่ถูกกระทำเหมือนมีคนเนรคุณลุงป้อม
แต่ก็ยังมีประเด็นคนอยากจะรู้ ทำไมลุงป้อมทนอยู่ในการเมือง เป็นหัวหน้าพรรค เนื้อไม่กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แถมยังอุ้มกระเตงให้คนมีอำนาจ ทั้งที่ลุงป้อมสังขารก็ร่วงโรย เดินกระย่องกระแย่ง แถมยังมีเรื่องช้ำใจ บริวารโดนรังแก
มาถึงการอยากอยู่ต่อในอำนาจ บริวารก็โดนดูด จะเหลือกี่คนก็ยังไม่รู้ ทำให้คนสงสัยว่าลุงป้อมหมดบารมี เป็นไม้ล้ม คนข้ามได้ หรือเป็นต้นไม้ใหญ่ ใบร่วงโกร๋น นกกาแวะมาขี้เยี่ยวใส่ แล้วบินจากไปเพราะไม่มีร่มไม้ใบบัง ทำรังก็ไม่ได้
ผลจะชัดเมื่อมีการเลือกตั้ง คิดบัญชีกันแล้ว พรรคไหนได้เท่าไหร่ ใครจะมีโอกาสได้ตั้งรัฐบาล พรรคลุงป้อมจะได้กี่คน ถ้าจำเป็นต้องจับมือกับพรรคคนดูไบ ร่วมกันตั้งรัฐบาล มี ส.ว.บางส่วนเป็นตัวช่วยได้จริงหรือไม่
พรรค “ขี้ใหม่หมาหอม” จะมีพลังได้ ส.ส.มากถึง 25 เสียงหรือไม่ ถ้าได้ จะตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคกัญชาหรือพรรคอะไร เพราะพรรคคนดูไบและก้าวไกลไม่เอาด้วย
พรรคคนดูไบจะได้ ส.ส.ชนะแบบแลนด์สไลด์ตามที่หวังเริ่ดหรือไม่
การเมืองน้ำเน่าบ้านเราเป็นแบบด้อยพัฒนา นักเลือกตั้งไร้หลักการ จิตสำนึก คุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม และยางอาย อยู่ไปแต่ละวันนึกถึงแต่เรื่องเลือกตั้ง ไม่มีใครเสนอแก้ปัญหาที่บ้านเมืองเป็นทุกข์ด้วยหนี้สารพัดในยุคท่านห้าวเป้ง
ดูแล้ว อนาคตมืดมน ไร้ทางออก เป็นการเมืองที่คนดีไม่มีโอกาสได้เป็นใหญ่