"โสภณ องค์การณ์"
ช่วงนี้การเมืองคึก นักเลือกตั้งมีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งแสวงที่ลงใหม่ มีแรงจูงใจเป็นกล้วยหรือปัจจัยอื่นใด แล้วแต่ข้อตกลง ทุกคนย่อมมีค่าตัว แตกต่างกันไป
ชาวบ้านเผชิญกับความทุกข์ยากลำบาก นักเลือกตั้งมีข้ออ้างไม่ต้องควักกระเป๋าช่วยเหลือ หรือเข้าพื้นที่ อ้างว่าเป็นคำสั่งห้ามของคณะกรรมการเลือกตั้ง
ห้ามแจกของ ห้ามทำกิจกรรมซึ่งถือได้ว่าเป็นการหาเสียง ทำบุญช่วยเหลืองานศพ งานบวช ขึ้นบ้านใหม่ต้องระวัง แม้จะเป็นจารีตประเพณี ธรรมเนียมปฏิบัติ
ถึงไม่มีข้อห้าม ก็ยังสงสัยอยู่ว่านักเลือกตั้งจะทุ่มแจกสิ่งของเครื่องใช้ ถุงยังชีพ น้ำดื่มกันมากน้อยแค่ไหน เพราะต้องใช้เงิน ถือว่าเป็นการลงทุนก็ไม่ผิด
นักเลือกตั้ง ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง แม้ต้องย้ายค่ายซึ่งจำเป็นสำหรับนักเลือกตั้งมีโอกาสที่จะได้รับเลือก นี่เป็นจังหวะสวยงามสร้างรายได้
ถ้าอยู่ในพรรคเดิม จะไม่มีเงินก้อน นอกจากเงินเดือนประจำที่มีในบางพรรค
แต่ถ้าย้ายค่าย โอกาสที่จะได้รับการตอบแทนระดับ 30 – 50 กิโล เป็นผลตอบแทนน่าจะดีกว่าอยู่ที่เดิม ถ้าใช้เงินเลือกตั้ง ลงเพียง 5-10 ล้านบาทก็พอ เก็บที่เหลือ ไม่ว่าจะชนะเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม กำไรทั้งขึ้น ทั้งล่อง
เศรษฐกิจเน่าตายซาก เงินหายากอย่างนี้ มีเงินเก็บสัก 20 กว่าล้าน ถือว่าเป็นโอกาสที่จะหาไม่ได้อีกแล้ว ถ้าชนะเลือกตั้ง ได้ตำแหน่งดี ก็ยิ่งสามารถเพิ่มลาภยศ
อย่างห่วยๆ ก็ขออยู่หน้าห้องรัฐมนตรี ไม่ต้องเป็นระดับเลขา หรือผู้ช่วยเลขา ขอรับหน้าที่จัดคิวสำหรับพวกเสี่ยผู้รับเหมาให้เข้าพบท่านรัฐมนตรีก็พออิ่มได้
ดังนั้น นักเลือกตั้งอาชีพจึงไม่คิดถึงประชาชนก่อนจะถึงช่วงหาเสียง ซึ่งเป็นฤดูกาลที่จำเป็นต้องตะลอนๆ ยกมือไหว้หมูหมากาไก่ นกในกรง เอาใจเจ้าของ
นักเลือกตั้งที่เคารพตัวเอง มีจิตสำนึกสูงอยู่บ้างก็จะไม่ทำเยี่ยงนั้น
นักเลือกตั้งมีราคาก็หวังจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีมีอันดับ มีโอกาสสร้างความมั่งคั่ง โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจ มีโครงการเยอะ แต่กระทรวงเกรดบี หรือซี ก็มีโอกาสเหมือนกัน ถ้ารู้จักหากินเป็น เอาเป็นว่าเก้าอี้รัฐมนตรีไม่ทำให้คนนั่งยากจน
เพียงแต่ต้องระวังอย่าให้ปากมันมากไป หรือทิ้งหลักฐานให้จับได้ หรือมีพฤติกรรมดูแล้วไม่ซื่อก่อนเข้ารับตำแหน่งแล้วโดนขุดคุ้ยจนสิ้นท่า
อย่างที่โดนกันอยู่ 2-3 คน ทำให้เก้าอี้ว่าง มีการแย่งกันทุกวันนี้
ดังนั้น นักเลือกตั้ง นักการเมือง จึงเป็นกลุ่มที่ชาวบ้านไม่ให้ราคา ต่างจากรัฐบุรุษซึ่งประเทศไทยขาดแคลนขั้นรุนแรง มีแต่นักหาโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์
มีคำพูดที่ชินหูว่า “รัฐบุรุษ” กับ “นักการเมือง” ต่างกันตรงที่นักการเมืองคิดถึงการเลือกตั้งครั้งถัดไป แต่รัฐบุรุษคิดถึงอนาคตของชาติ คิดถึงคนรุ่นถัดไป
หนักข้อกว่านั้นก็มีคำว่า “รัฐบุรุษคิดว่าตนเป็นคนของชาติ คนอุบาทว์นึกว่าชาติเป็นของตัวเอง” ดังนั้น จึงทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวก
คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ ชาติขาดตัวเองไม่ได้ นั่นเลย!
นักเลือกตั้งจะต้องเป็นนักสร้างภาพให้ชาวบ้านประทับใจ คนบ้องตื้นจึงเป็นเหยื่อของสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่อยู่ในคราบของสัตว์โลกไร้เดียงสาน่ารัก
เรามีทั้งจำอวดการเมือง ลีลาลูกเล่นน่าคลื่นไส้ ตลกคาเฟ่ยังดูมีราคามากกว่าพวกร้อยลิ้นกะลาวน ลิ้นตะหวัดถึงใบหู โกหกแหกตาชาวบ้านเอาตัวรอดไปวันๆ
ทุกวันนี้ชาวบ้านจึงได้ยินแต่ข่าวนักเลือกตั้งดิ้นรน วิ่งเต้นแทบขาขวิด หาที่ลง ย้ายพรรคที่มีโอกาสให้ตัวเองได้ลาภลอย ขายตัว ขายความจงรักภักดีชั่วคราวให้ผู้ประมูลในราคาสูงสุด ถ้าไม่ได้ตามที่เรียกร้องก็หาที่ลงใหม่
บ้านเราจึงมีพรรคการเมืองมากกว่าร้อย ไม่ใช่ว่าต่างอุดมการณ์หรือแนวนโยบายต่างกัน เป็นเพียงแยกกันหาทางเป็นใหญ่ หาผลประโยชน์ ทั้งที่ความเป็นจริงมีไม่กี่พรรคที่ชาวบ้านเลือกเข้ามา
ที่ผ่านมา จึงมีพรรคที่มี ส.ส. หลุดเข้ามาเพียงคนเดียว ผ่านการปัดเศษ กรรมวิธีพิลึก หลายมาตรฐาน บางรายไม่เสียงไม่ถึง 4 หมื่นก็ได้เป็น ส.ส. เดินยืดแล้ว
มองดูหน้าตานักเลือกตั้งแล้ว ต้องบอกว่าบ้านเมืองดูไร้อนาคต ก๊วน 3 ป. อยู่มานานกว่า 8 ปี บ้านเมืองมีแต่เสื่อมโทรมเชิงโครงสร้างแทบทุกด้าน โดยเฉพาะคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ความไร้ยางอาย เป็นรัฐล้มเหลวในกระบวนการยุติธรรม
ระดับหนี้ครัวเรือน การทุจริต ติดอันดับโลก สร้างวิกฤติตัดอนาคตของชาติ
ชาวบ้านได้เห็นการชุมนุม ปั่นราคา อวดความสามารถในการดูดคนจากพรรคอื่น เชี่ยวชาญในการทุ่มเงินตกปลาในบ่อเพื่อน ประกาศจะได้ ส.ส. มาก เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล บางคนวาดฝันหวานว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี
พุทโธ่! สยบต่อทอปบูต ทรยศประชาชน มุ่งแต่หาผลประโยชน์ มีแต่เรื่องฉาวโฉ่ คอร์รัปชั่น แก้ปัญหาอดอยากปากแห้ง นักเลือกตั้งอย่างนี้หรือจะทำงานเพื่อบ้านเมือง
มีปัญหาก็ฟ้องประชาชน ขอความเห็นใจ อ้างว่าโดนพฤติกรรมป้ายสี เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น ชาวบ้านมองแล้วได้แต่ปลงตก ชาตินี้บ้านเมืองคงไม้พ้นเวรกรรม
ระบบการเมือง เลือกตั้งบ้านเราใช้เงิน ระบบเครือข่ายหัวคะแนน เป็นตัวตัดสิน คนดี ใจซื่อมือสะอาดจึงไม่มีโอกาสเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง
คนดียังเสี่ยงกับการเป็นเหยื่อขบวนการใส่ร้ายป้ายสี คนมีความรู้จึงไม่สามารถฝ่าด่านนักเลือกตั้งอาชีพเข้ามาได้ นักรัฐประหารที่อ้างว่าทำเพื่อชาติ ยังต้องกวาดต้อนพวกหลังลาย มีชนักปักหลัง ประวัติมัวหมองโดยแบล็กเมล์มาเป็นฐานอำนาจ
ดูแล้ว กว่าจะให้ก๊วน 3 ป. สิ้นอำนาจ ก็ยังยาก เมื่อนักเลือกตั้งมุ่งผลประโยชน์พร้อมที่จะสยบต่อทอปบูต ทั้งๆ ที่ไม่เหลือราคาให้ประชาชนศรัทธาแล้ว
เลือกตั้งไปก็เท่านั้น อาจเพียงเปลี่ยนกลุ่มมาหาผลประโยชน์ โกงกินต่อเนื่อง แค่ 8 ปี ออกบัตรคนจนได้ถึง 20 ล้านคน ไม่ห่วยโหล่ยโท่ยจริงๆ คงทำไม่ได้