xs
xsm
sm
md
lg

ศีลธรรมกับกฎหมาย : กติกาสังคมควบคู่กัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง



ศีลหมายถึงข้อห้ามมิให้กระทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น ส่วนธรรมหมายถึงสภาวะที่ดำรงอยู่ในธรรมชาติ

ศีลเกิดจากการคิดค้นของนักปราชญ์ ซึ่งเป็นผู้อยู่ในสังคมนั้น และนำมาใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการปกครองผู้คนให้อยู่ร่วมกันด้วยความสงบเรียบร้อย

ในสมัยโบราณที่สังคมมนุษย์ยังไม่เจริญ ทั้งในด้านวัตถุ และทางด้านจิตใจ ผู้นำทางสังคมในยุคนั้นก็คือพ่อมดหมอผีตั้งตนเป็นผู้วิเศษเหนือบุคคลธรรมทั่วไป

พ่อมดหมอผีได้บัญญัติกติกาสังคมขึ้นมาโดยอาศัยความศักดิ์สิทธิ์แห่งวิญญาณ ซึ่งมีทั้งการให้คุณ และให้โทษแก่มนุษย์

ดังนั้น บทบัญญัติของพ่อมดหมอผีเหล่านี้ จึงกลายเป็นลัทธิวิญญาณนิยม

ส่วนธรรมได้เกิดขึ้นจากการคิดค้นของศาสนาแห่งศาสนานั้นๆ ทั้งที่เป็นศาสนาประเภทเทวนิยม อันได้แก่ศาสนาพราหมณ์ เป็นต้น และอเทวนิยมได้แก่ ศาสนาพุทธ และศาสนาเชน โดยเฉพาะศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาได้บำเพ็ญเพียรจนได้ตรัสรู้เป็นสัมมาสัมพุทธคือ ได้บรรลุโลกุตรธรรมคือ มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 ด้วยพระองค์เอง

จากคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ปรากฏในธัมมนิยามสูตรที่ว่า ตถาคตจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นในโลกก็ตาม ธรรมะมีอยู่แล้วในโลกเพียงแต่ขาดผู้ค้นพบ เพราะฉะนั้นตถาคตเพียงผู้บอกสิ่งที่ได้ค้นพบ เปรียบเสมือนหงายของที่คว่ำให้คนทั้งหลายได้เห็นเท่านั้น ธรรมะจึงเป็นเกณฑ์แห่งธรรมชาติที่มีอยู่แล้ว มิใช่สิ่งที่มนุษย์คนใดคนหนึ่งสร้างขึ้นมา

ด้วยเหตุดังกล่าวแล้วข้างต้น ศีลธรรมที่ผู้คนในสังคมมนุษย์คือ ปฏิบัติอยู่ในส่วนของศีล จึงเป็นข้อห้ามที่บัญญัติขึ้นมา เพื่อเป็นกติกาปกครองสังคมให้เกิดความสงบเรียบร้อย

ส่วนธรรมคือ ความจริงหรือสัจจะที่มีอยู่ และถูกค้นพบแล้วนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้เกิดความสุขในหมู่ปุถุชน และนำไปสู่ความหลุดพ้นในหมู่อริยบุคคล 4 คู่ บุคคล 8 ตามนัยแห่งคำสอนของพุทธศาสนา

ต่อมาเมื่อโลกเจริญทางวัตถุมากขึ้น และจิตใจของผู้คนในสังคมเสื่อมลง เนื่องจากวัตถุนิยมและบริโภคนิยมครอบงำ การบัญญัติกฎหมายและนำมาบังคับใช้ควบคู่กับศีลธรรมจึงเกิดขึ้น

ดังนั้น กฎหมายจึงเป็นศีลธรรมที่ถูกเขียนขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรนั่นเอง ส่วนศีลธรรมก็เป็นกฎหมายอันเกิดจากสามัญสำนึกที่ต้องควบคู่กัน จึงจะได้ผลสมบูรณ์ในทางปฏิบัติ

แต่ในปัจจุบัน ผู้คนในสังคมไทยเสื่อมถอยในด้านศีลธรรม จะเห็นได้จากการเกิดปัญหาสังคมในหลากหลายรูปแบบ มีตั้งแต่เสพยาเสพติด ลักเล็กขโมยน้อยไปจนถึงจี้ ปล้น ฆ่าชิงทรัพย์ และที่หนักที่สุดคือ ทำร้ายพ่อแม่ ผู้มีพระคุณ รวมไปถึงปัญหาวุ่นวายทางการเมือง ซึ่งล้วนแล้วแต่เกิดจากผู้ออกกฎหมาย และผู้รักษากฎหมายบังคับใช้กฎหมายขาดคุณธรรม และจริยธรรมทั้งสิ้น และที่เป็นเช่นนี้อนุมานได้ว่าเกิดจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. ผู้คนในปัจจุบันตกอยู่ภายใต้การครอบงำของวัตถุนิยม ซึ่งเป็นผลมาจากได้รับอิทธิพลจากประเทศตะวันตกผ่านทางการศึกษา และนำมาใช้โดยปราศจากการแยกแยะ อะไรเหมาะ อะไรไม่เหมาะกับประเทศไทย

และที่ยิ่งกว่านี้ก็คือ ผู้ที่จบการศึกษาจากประเทศตะวันตกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะที่กลับมาทำงานเป็นนักวิชาการตกเป็นทาสทางวิชาการ พยายามจะให้ประเทศไทยและคนไทยเป็นเสมือนประเทศตะวันตก และคนในโลกตะวันตกเข้าทำนองตัดตัวให้เข้ากับเสื้อ และตัดตีนให้เข้ากับรองเท้า แทนที่จะนำส่วนที่ดีจากประเทศตะวันตกมาประยุกต์ให้เข้ากับความมีความเป็นของคนไทย และประเทศไทย ในทำนองตัดเสื้อให้เข้ากับตัว และตัดรองเท้าให้เข้ากับตีน

2. การจัดการศึกษาของไทยในปัจจุบัน ให้ความรู้ แต่ไม่ให้การอบรมปลูกฝังคุณธรรมเท่าที่ควรจะเป็น เพื่อนำไปกำกับการใช้ความรู้ จึงทำให้ผู้จบการศึกษามุ่งแสวงหาวัตถุโดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม และนี่เองคือที่มาของการทุจริต คอร์รัปชันในทุกรูปแบบซึ่งมีอยู่ดาษดื่น ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน

3. ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ และประชากรส่วนใหญ่ของประเทศนับถือศาสนาพุทธ ทั้งมีวัดทางพุทธศาสนาอยู่ทั่วไปในประเทศไทย และมีพระภิกษุสงฆ์นับแสนรูป แต่พระภิกษุส่วนหนึ่งและอาจเป็นส่วนใหญ่ด้วย มิได้เป็นศาสนทายาทที่ดี โดยการศึกษาปริยัติให้รู้และเข้าใจถูกต้อง แล้วนำไปปฏิบัติให้เข้าถึงธรรม และนำไปสั่งสอนประชาชน แต่กลับไปทำในสิ่งที่ไม่ควรแก่สมณสารูปเช่น แข่งกันสร้างวัตถุมงคลเรี่ยรายขายศรัทธา จึงทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา และเข้าวัดน้อยลง นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้คนในสังคมไทยเสื่อมถอยทางด้านจิตใจ

เมื่อสังคมไทยเสื่อมถอย ทางด้านจิตใจและถูกกระแสวัตถุนิยมครอบงำ จึงกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว แสวงหาประโยชน์ทั้งทวนน้ำ และตามน้ำ เมื่อมีโอกาสเปิดให้ทำ และนี่เองที่ทำให้นักการเมืองหรือแม้ข้าราชการประจำ ทุจริต คอร์รัปชัน ดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น