รัสเซียใหม่...กับสงครามนิวเคลียร์!!!

เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตแวะไปแถวๆ อาณาบริเวณพื้นที่กว่านับแสนๆ ตารางกิโลเมตร แถบด้านตะวันออกของยูเครนและด้านตะวันตกของรัสเซีย หรือ 4 เขตพื้นที่ ที่เรียกว่า “Donetsk People’s Republic” (DPR) ซึ่งมีอาณาบริเวณตกประมาณ 26,500 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 2,198,000 คน พื้นที่ที่เรียกว่า “Lugansk People’s Republic”(LPR) เนื้อที่ประมาณ 26,700 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 1,390,000 คน หรือที่เรียกรวมๆ กันว่า “Donbass”รวมทั้งพื้นที่อีกประมาณ 28,500 ตารางกิโลเมตรของภูมิภาค “Kherson” และอีก 27,200 ตารางกิโลเมตรของภูมิภาค “Zaporozhye”หรือ “Zaporizhzhia”ที่กำลังเปิดโอกาสให้ผู้คนมา “ลงประชามติ”เริ่มตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว หรือเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ก.ย.ไปจนถึงวันอังคารสัปดาห์นี้ วันที่ 27 ก.ย.ว่าคิดอยากผนวกตัวรวมเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับประเทศรัสเซีย หรือกลายเป็น “รัสเซียใหม่”(Novorossiya) หรือไม่??? อย่างไร???...

คืองานนี้...ไม่ว่าคุณพ่ออเมริกาและบรรดาพันธมิตรตะวันตก รวมไปถึง“ตัวแทน” หรือ “ตัวตลก” อย่างรัฐบาลยูเครนจะออกมาประณาม ออกมาปฏิเสธกันในแบบไหน? อย่างไร? แต่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า อาจถือเป็นอีกช่องหนึ่ง ทางหนึ่ง ในการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งกรณี “วิกฤตยูเครน”ที่นับวันจะเกิด “ทางตัน”หรือแทบหาทางออก ทางไป แทบไม่เจอ อันเนื่องมาจากคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตก ท่านพยายามปิดช่อง ปิดทาง พยายาม “ล้มโต๊ะเจรจา”เพื่อหวังอาศัย “ตัวแทน”อย่างยูเครน กัดกร่อนทำลายกองทัพรัสเซียรวมทั้งประเทศรัสเซีย ชนิดให้ฉิบหายวอดวายลงไปต่อหน้า-ต่อตาให้จงได้ หรืออย่างที่นักคิด นักวิเคราะห์ชาวรัสเซียอย่าง “Vladimir Korinov” สรุปไว้ในข้อเขียน บทความ ชิ้นล่าสุดว่า...ถึงขั้นต้องการให้รัสเซียถูกทำลายไปตลอดชั่วนิรันดร์กาลและอย่างมิอาจฟื้นกลับคืนมาได้อีก (What they really want is for Russia to be destroyed. Forever! Irrevocably!) อะไรประมาณนั้น!!!

ดังนั้น...การเปิดฉาก เปิดโอกาส ให้เกิดการลงประชามติของผู้คนใน 4 เขตพื้นที่ ที่กองทัพรัสเซียลุยเข้าไป “ปฏิบัติการทางทหาร”ในยูเครนมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่าคิดจะหันมารวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับประเทศรัสเซีย หรือจะยอมปล่อยให้พวก “นาซีใหม่” ในยูเครนกระทำย่ำยี กระทำการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” กันนับเป็นหมื่นๆ ศพ เหมือนเมื่อครั้งที่ผ่านมาหรือไม่? อย่างไร? อันนี้...ต้องถือเป็นทางออก ทางไป ที่ค่อนข้างจะ “เนียน” อยู่พอสมควร คืออย่างน้อยก็ยังพอมี “ความชอบธรรม” และมี “กฎหมาย”รองรับอยู่บ้างไม่มาก-ก็น้อย ไม่ถึงกับโหด ไม่ถึงกับเถื่อนมากมายจนเกินไป และนั่นยังพอช่วยให้เกิด “เงื่อนไข”และ “ข้ออ้าง” ในการปกป้อง คุ้มครอง พื้นที่ ดินแดน และประชากร ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียหรือกลายเป็น “รัสเซียใหม่” ไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์ ว่าถ้าหากใคร? หรือมนุษย์หน้าไหน? ต่อหน้าไหน? ก็ตามคิดจะแตะต้องพื้นที่ ดินแดน และประชากร ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียไปเรียบร้อยแล้ว โอกาสที่จะต้องเจอกับการตอบโต้ด้วย “สรรพาวุธทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่มีของรัสเซีย...รวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์อีกด้วย” ดังที่ผู้นำรัสเซียประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน”และอดีตผู้นำ หรืออดีตประธานาธิบดี “ดมิตรี เมดเวเดฟ”ออกมาพูดจาว่ากล่าวในทำนองเดียวกัน เมื่อช่วงวันพฤหัสฯ (22 ก.ย.) ที่ผ่านมา ย่อมเป็นไปได้ไม่ยากส์ส์ส์...

หรือพูดง่ายๆ ว่า...การลงประชามติของ 4 เขตพื้นที่ดังที่กล่าวไปแล้ว อาจถือเป็น “กุญแจสำคัญ” ในการหาทางคลี่คลายวิกฤตยูเครนที่ถูกคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตกปิดทางออก ทางไป จนแทบหาข้อยุติ หาจุดลงตัว แทบไม่ได้ มีแต่ต้องรอให้แต่ละฝ่ายฉิบหายวายวอดกันไปข้าง ดังนั้น...การเร่งระดมพลบางส่วน (partial mobilization) ของกองทัพรัสเซียจำนวนประมาณ 300,000 นาย หรือ 1 เปอร์เซ็นต์ของกองทัพรัสเซียทั้งมวล รวมทั้งการประกาศว่าพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ ตามหลักนิยมทางทหารของรัสเซียเพื่อปกป้อง คุ้มครอง พื้นที่ ดินแดนและประชากรของตัวเอง จึงคงไม่ได้มุ่งที่จะก่อ “สงครามนิวเคลียร์” หรือ “สงครามที่ไม่มีผู้ชนะ...มีแต่แพ้ไปด้วยกันทุกฝ่าย” แต่น่าที่จะมุ่งไปสู่จุดมุ่งหมายดังที่รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย “นายเซอร์เกย์ รียาคอฟ” (Sergei Ryabkov) ได้พยายามอธิบายเพิ่มเติมเอาไว้เมื่อช่วงวันศุกร์ (23 ก.ย.) ที่ผ่านมานั่นแหละว่า... “รัสเซียไม่ต้องการสร้างภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ต่อใครๆ แต่อย่างใด แต่มุ่งที่จะกระตุ้นให้ตะวันตกรู้จักยับยั้งชั่งใจต่อความเสี่ยงในการแทรกแซงต่อปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน และเป็นการกระตุ้น...อย่างแรง!!! ต่อสหรัฐอเมริกา ให้หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย...”

ด้วยเหตุนี้...ก็คงไม่ถึงกับต้อง “หูแหก-ตาแหก” อะไรมากมายนัก โดยเฉพาะต่อความเป็นไปได้ของ “สงครามนิวเคลียร์”ที่นับวันจะถูกพูดถึง อ้างถึงความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าโดยฝ่ายอเมริกัน รัสเซีย หรือแม้แต่เลขาธิการสหประชาชาติ “นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส”(Antonio Guterres) ที่ออกมาสรุปเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ว่า... “เรากำลังเผชิญกับช่วงเวลาอันตรายจากอาวุธนิวเคลียร์อย่างสูงสุดแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนนับจากยุคสงครามเย็นเป็นต้นมา”เพราะถ้าหากบรรดาประเทศตะวันตก ที่กำลังกรอบเป็นข้าวเกรียบเมืองเพชรอยู่ในทุกวันนี้ ไม่ว่าด้วยปัญหาวิกฤตพลังงาน เงินเฟ้อ ไปจนถึงเศรษฐกิจถดถอยกันเป็นประเทศๆ รวมทั้งคุณพ่ออเมริกา ได้เกิดความตระหนักถึง “ความเสี่ยง”ในอันที่จะเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย โอกาสที่สถานการณ์ในยูเครนจะกลายเป็นตัวก่อให้เกิด “สงครามโลกครั้งที่ 3”หรือ “สงครามนิวเคลียร์”ก็น่าจะมีโอกาส “ลดความเข้มข้น”ลงไปตามลำดับ...

หรืออย่างที่ผู้เชี่ยวชาญด้านรัสเซียในเมืองจีน “นายCui Heng” ผู้ช่วยวิจัยแห่งศูนย์ “The Center for Russia Studies”ของมหาวิทยาลัย “East China Normal University” เขาได้ให้ความเห็นเอาไว้กับสื่อทางการของจีน “Global Times” เอาไว้นั่นแหละว่า... “แม้ว่าการลงประชามติของ 4 พื้นที่ในยูเครนคราวนี้ จะทำให้ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนถูกยกระดับจากสงครามตัวแทนระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ไปสู่ความขัดแย้งโดยตรงระหว่างรัสเซียกับตะวันตก แต่ความเข้มข้นของความขัดแย้งน่าจะลดลงไปตามลำดับ” เพราะในบรรดาประเทศตะวันตกที่คิดจะขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย หรือกะจะเอาให้ตายกันไปข้าง!!! น่าจะไม่ได้มีอยู่มากมายสักเท่าไหร่ หรือไม่ได้เป็น “เอกภาพ” เพราะเพียงแค่ต้องเจอกับผลกระทบจากการแซงชั่นพลังงานรัสเซียในทุกวันนี้ ก็แทบทำเอาอียูทั้งอียู กลายเป็น “อีย้วย” ไปแล้วไม่รู้จะกี่รายต่อกี่ราย...

แม้แต่คุณพ่ออเมริกาก็ตาม...แค่เจอกับ “ปัญหาภายใน” ไม่ว่าด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เผลอๆ โอกาส “แตกดังโพละ” เอาง่ายๆ การลงประชามติ 4 เขต 4 พื้นที่ในยูเครนเพื่อนำไปสู่ความเป็น “รัสเซียใหม่”และการประกาศห้ามแตะต้องพื้นที่ดินแดนและประชากรของรัสเซียทั้งเก่า ทั้งใหม่ ชนิด “แตะเธอเมื่อไหร่...โลกแตกแน่!!!”ด้วยการอาศัยศักยภาพแห่งความเป็นประเทศนิวเคลียร์เป็นเครื่องยืนยัน การันตี จึงถือเป็นความพยายามหาทางออก ทางไป จากการถูกปิดช่อง ปิดโอกาสจากความพยายาม “ล้มโต๊ะเจรจา”โดยคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตก ในกรณีความขัดแย้งยูเครน หรือถือเป็น “หมาก” อีกตาหนึ่ง ของนักเล่นหมากรุมและหมากล้อมตัวฉกาจ อย่างประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน”นั่นแล...

ส่วนคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตก จะขยับหมากไปช่องไหน ตาไหน นับจากนี้เป็นต้นไป ก็คงต้องขึ้นอยู่กับ “ปัญหาภายใน” ของแต่ละประเทศ รวมทั้งสภาวะแวดล้อมของ “โลกทั้งโลก”ที่นับวันจะเต็มไปด้วย “ขั้วอำนาจใหม่ๆ”ผลุบๆ โผล่ๆ ขึ้นมาให้เห็น อย่างเป็นที่ประจักษ์ ชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที!!!