"โสภณ องค์การณ์"
ใครก็ตามที่คิดสโลแกน Amazing Thailand สมควรถูกยกย่องว่าเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ยอดเยี่ยม มองการณ์ไกล คำนี้สั้น ได้ใจ สามารถเป็นคำอธิบายได้สารพัดเหตุการณ์ในประเทศไทย ไม่ว่าจะมหัศจรรย์พันลึกอย่างไร ก็ยังดูเหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม พฤติกรรมของมนุษย์ในประเทศนี้ ระบบต่างๆ กระบวนการพิจารณาวาระสำคัญ รวมถึงยุทธศาสตร์ในการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดทางการเมือง นักกฎหมายระดับปรมาจารย์ได้แสดงให้ความพิสดารสารพัด
เอาเป็นว่าหลักการคิด ตีความทางกฎหมายที่ใช้กันอยู่ช่วงนี้ ไม่มีการสอนในมหาวิทยาลัยที่ไหนในโลก ทั้งโรงเรียนกฎหมายทั้งฮาร์วาร์ดและเยล ก็ยังสู้ไม่ได้
ที่นั่นไม่มีคำว่า “อภินิหารทางกฎหมาย” “ศรีธนญชัยศาสตร์” หรือเทคนิคเช่น “รูหมาลอด” ความแตกต่างระหว่าง “เจตนารมณ์ของผู้ร่างกฎหมาย” และ “เจตนารมณ์ของกฎหมาย” การเขียนนิทานบรรยายความให้ตุลาการอ่านจนเคลิ้ม
ปรมาจารย์ทางกฎหมาย หัวหงอก หัวเถิก หัวล่อน หัวดำ ต่างมีเทคนิคเฉพาะตัวในการตีความกฎหมาย เรื่องเดียวกันสามารถแตกหน่อประเด็นจากความคิดไปทางใดก็ได้ แล้วแต่ผู้มีอำนาจจะสั่งการให้ทำ
การเสียผู้เสียคน จนถึงขั้นเสียสุนัข จึงเกิดขึ้นได้ถ้าพลาดท่า!
กรณี 8 ปีกับชีวิตนายกรัฐมนตรีของลุงห้าวเป้งจึงเป็นเรื่องท้าทายหลักการ คุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม จิตสำนึกความเป็นคนปกติ และประเด็นอื่นๆ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ ความลื่นไหล สุดยอดความกะล่อนด้วยประสบการณ์ยาว
ความต้องการเอาตัวรอดจึงมีความพยายามทุกด้าน เสียงร่ำลือเกี่ยวกับความพยายามออกกำลังภายใน วิ่งเต้น พร้อมผู้รับผิดชอบหัวจ่ายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ธุรกิจมูลค่าหลายแสนล้านบาท จึงเป็นสิ่งที่ถูกเฝ้ามองว่าจริงเป็นจริงหรือไม่
นอกจากมีขบวนการวิ่งเต้นให้ท่านห้าวเป้งรอดแล้ว ยังมีเสียงร่ำลือถึงขบวนการฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการให้คนถูกสั่งพักงานจอดอยู่เพียงแค่นี้แหละ
ไปต่อไม่ได้แล้ว จากนั้นจะมีกระบวนการสรรหาผู้มาแทน ว่างั้น!
เราจึงได้เห็นนักกฎหมายระดับเซียนเหยียบเมฆ และเหนือชั้นกว่านั้นคือเซียนขี่นกกะเรียน แสดงความเห็นทางกฎหมายโดยใช้หลักการพิสดาร บางครั้งชาวบ้านมองว่านั่นเป็นความหน้าด้านพื้นฐานตามสัญชาติญาณของผู้นิยมรับใช้อำนาจเผด็จการ
คดีของลุงห้าวเป้งจึงมีเดิมพันสูง นอกจากเป็นเรื่องอนาคตของท่านผู้นำถูกศาลสั่งพักงานแล้ว ยังเป็นประเด็นความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม ความน่าเชื่อถือของตุลาการผู้เกี่ยวข้อง และความน่าเชื่อถือของระบบนิติรัฐ นิติธรรมด้วย
เรื่องวิ่งเต้นย่อมสร้างผลกระทบต่อตุลาการที่กำลังพิจารณาตามหลักฐานเหตุผลที่ทุกฝ่ายนำเสนอ ยังมีความพิสดารที่เกิดขึ้นได้ในสังคมไทย นั่นคือ “เอกสารหลุด” เริ่มด้วยบทบรรยายความของท่านเซียนมีชัย เจ้าตำราหมกเม็ด
เนื้อหามีความพิสดารหวังจูงใจตุลาการ ยกแม่น้ำทั้ง 5 และข้อเท็จจริงเป็นองค์ประกอบให้เหตุผลว่าท่านห้าวเป้งควรถูกให้นับว่าเริ่มต้นเป็นนายกฯ ปี 2560
ซึ่งมีประเด็นขัดแย้งกับมติการประชุมครั้งที่ 500 ในเรื่องนี้ ถึงท่านเซียนและพวกมีความเห็นไปอีกอย่างซึ่งจะทำให้ท่านห้าวเป้งจอดป้ายในเดือนสิงหาคมปีนี้ การเปลี่ยนความคิด มุมมองทางกฎหมายไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับท่านเซียนมีชัย
ท่านรับหน้าที่ใน คสช. ตั้งแต่เริ่ม เป็นนักแต่งรัฐธรรมนูญมืออาชีพ
การเปลี่ยนแนวคิด จุดยืนในเรื่องเดียวกันได้ง่าย แสดงว่ามีแรงจูงใจ แต่อาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ ทำนองสี่เท้ายังรู้พลาด เซียนยังรู้พลั้ง
ท่านเซียนอ้างข้อผิดพลาด แต่ไม่บอกว่าเอกสารที่หลุดมานั้นเป็นของจริงหรือไม่ เมื่อไม่ปฏิเสธก็ถือได้ว่าเป็นของจริง แต่ก็ยังมีความพิสดาร เอกสารเซียนมีชัยหลุดยังไม่ทันข้ามวัน ก็มีบันทึกการประชุมครั้งที่ 501 ให้เห็นว่ามีการรับรองถูกต้อง
ท่านเซียนมีชัยเป็นประธานที่ประชุมทั้ง 2 ครั้งด้วย และปฏิเสธไม่ได้ว่าความผิดพลาดไม่มี และไม่มีการแก้ไข จะเป็นการให้การเท็จหรือไม่ แล้วแต่การพิจารณาของผู้มีอำนาจ ตามภาษาชาวบ้านเรียกว่าโกหกธรรมดา นึกว่าคนอื่นไม่มีหลักฐาน
เอกสาร “หลุด” 2 ครั้ง เกี่ยวกับเรื่องเซียนมีชัย อีกไม่นานก็มีคำให้การของท่านห้าวเป้ง “หลุด” อีก มีข้ออ้างเหตุผลอย่างนั้นอย่างนี้ ชาวบ้านอ่านแล้วเพลินยิ่งกว่านิทานอีสปตอนหมาป่าหาเรื่องลูกแกะ หรือหนูน้อยหมวกแดงผจญแม่มด
ถ้าจะให้สวยก็ต้องเป็นเรื่องพรานป่าทำขวานหลุดมือตกน้ำขณะตัดต้นไม้ หวังจะได้ขวานทองนั่นเลย มีบางตอนนิยายประโลมโลกท่านห้าวเป้งมีลูกอ้อน พร้อมคำประกาศว่าไม่เคยทำอะไรเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มใด ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์
ถึงตอนนี้มีนักอ่าน นักศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองต้องหยุด บางรายใช้มือจี้เอวและหัวร่อเอิ๊กอ๊าก สลับกับร้องไห้ไม่เลิก บางรายแอบไปข้างรั้ว อ้วกไม่หยุด
บางส่วนเชื่อว่าเขียนโดยนักกฎหมาย แต่บางตอนท่านอาจอยากแทรกผลงานเพื่อโน้มน้าวใจตุลาการให้เชื่อว่าท่านเป็นคนดี รักชาติ ทุ่มเททำงานมิรู้ท้อหรือเหนื่อย
นั่นกลายเป็นจุดด้อย เปราะบาง แสดงให้เห็นความด้อยเดียงสา จิตตก สภาวะใจว้าวุ่น ขาดสมาธิย่อมเกิดความผิดพลาดได้ การเล็งผลเลิศจึงเป็นจุดถ่วงได้เช่นกัน
ดูชะตาฟ้าแล้ว น่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง นั่นหมายถึงจุดจบของคณะ 3 ป ฟอร์เอฟเวอร์ ชะตาคนมิสู้ฟ้าลิขิต ความหวังที่จะได้เป็นประธานที่ประชุมเอเปกอาจเป็นความฝันสลาย อย่างว่านั่นแหละ บุญมีแต่วาสนาไม่ถึง
น่าจะเป็นยุคลมเปลี่ยนทิศ ฟ้าเปลี่ยนสี ราหูดับ อะไรอย่างนั้น ฮ่า!