บ้านนี้เมืองนี้มีปัญหาถกเถียงเรื่องการนับเลข นับเวลา มีเรื่องนิติศรีธนญชัย ตะแบงศาสตร์มีอิทธิพลในการนับ จนมีความกังวลในกลุ่มวิญญูชนว่าจะเป็นขบวนการวิปริตทำให้ประเทศไทยสิ้นความน่าเชื่อถือในด้านนิติรัฐ นิติธรรม เป็นรัฐล้มเหลว
อันที่จริง จากหลายกรณี เราเป็น “รัฐล้มเหลว” โดยพฤตินัยนานแล้ว
คดีฉาวโฉ่ ลูกหลานมหาเศรษฐี ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เศรษฐกิจ รอดพ้นกฎหมาย ประจานให้เห็นทุกวันนี้ แม้แต่ผู้นำประเทศก็ทำเฉไฉไขสือ บื้อใบ้
ทำให้กฎหมายไร้อำนาจการใช้บังคับเพราะเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและรับผิดชอบถูกสงสัยว่าเป็นเหยื่อของเงินก้อนใหญ่ ทำให้ลืมศักดิ์ศรีความเป็นคน
เรื่องท่านห้าวเป้งผู้นำรัฐบาลก็เช่นกัน เป็นเรื่องธรรมดาถ้านักกฎหมายเคารพเจตนารมณ์ของกฎหมาย เป็นมืออาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรมแท้จริง คงไม่เป็นปัญหา
เจตนารมณ์ของกฎหมายที่เขียนไว้ จะเป็นเจตนาของใครเพื่ออะไรตั้งแต่แรก ไม่มีใครยืนยันระบุว่า ห้ามบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี เพื่อไม่ให้รากงอก
หมายความว่านายอะไรก็แล้วแต่ จะกุมอำนาจในฐานะผู้นำรัฐบาลเกิน 8 ปีไม่ได้ เช่นอ้าง 3 ปีแรกเรียกตำแหน่งองค์รัฐาธิปัตย์ 5 ปีหลังเรียกตำแหน่งนายกฯ
อย่างนี้เรียกว่าศรีธนญชัยศาสตร์ หรือตะแบงศาสตร์ เอากันอย่างหน้าด้านๆ!
ถ้าจะเลี่ยงกฎหมาย ก็แต่งตำแหน่ง แยกทุก 2 ปี เรียกตำแหน่งต่างกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อยู่ได้อีกนานจนกว่าชาวบ้านจะทนไม่ได้ รวมพลเอาส้นถีบออกไป
อย่างที่มวลชนหลายกลุ่มพยายามจัดชุมนุมในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้
ปัญหาจะไม่มาก ถ้าไม่มีคนเสพติดอำนาจจนถอนตัวไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขี่หลังเสือ มีผลประโยชน์เชื่อมโยงเครือข่ายกลุ่มธุรกิจ นายทุนใหญ่ เพื่อผลตอบแทน
ท่านห้าวเป้งเองก็ประกาศเสียงดังฟังชัดว่าตนเองเป็นนายกฯ มาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 ในงานที่หนังสือพิมพ์แห่งหนึ่งจัดขึ้น ก็ยังไม่ยอมรับคำพูดของตัวเอง
ก็เป็นเหมือนกรณีคำมั่นสัญญาสารพัดที่ไม่เคยเป็นจริง ทั้งการปฏิรูป การปราบคอร์รัปชัน เป็นความล้มเหลว แต่อาศัยกฎหมายฉุกเฉินสกัดคนต่อต้าน
และเรื่อง 8 ปีนี่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องของท่านห้าวเป้งตามลำพัง แต่เป็นเรื่องของก๊วน 3 ลุง แต่ละคนก็มีเรื่องที่ต้องดูแลเครือข่าย ของใครของมัน บางครั้งก็ปีนเกลียวกันเอง
เป็นเรื่องของคนไม่อิ่มในอำนาจ ไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักประมาณตน ไม่รู้ขีดความสามารถ นึกว่าพวกตัวเองนั้นสำคัญจนชาติบ้านเมืองขาดไม่ได้
โดยไม่สำนึกว่าโพลและการสำรวจแต่ละครั้ง ได้แสดงว่าไม่มีใครเอาแล้ว!
ช่วงนี้มีเรื่องไม่เหมาะไม่ควร เช่นมีข่าวว่ามีความพยายามวิ่งเต้นเพื่อให้ท่านห้าวเป้งได้อยู่ต่อ การวิ่งเต้นในสังคมไทยเป็นเรื่องปกติ ยิ่งมีเงินก้อนใหญ่เป็นตัวช่วยด้วยแล้ว ก็ยิ่งง่าย มีคนชอบเงินถ้าไม่ต้องคิดเรื่องความถูกต้องดีงาม
เวลานี้ไม่มีใครบอกได้ว่าท่านห้าวเป้งจะรอดเพราะการตีความกฎหมายแบบพิสดาร พิลึกพิลั่น โดยอ้างปี และกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่
ถ้าอยู่รอด บ้านเมืองอาจไปไม่รอด เพราะไม่มีวิสัยทัศน์ใหม่ ความรู้ความสามารถอุดตัน ถ้าท่านห้าวเป้งไม่รอด นั่นแหละบ้านเมืองมีโอกาสอยู่รอด
บ้านเมืองจะได้บรรยากาศใหม่ จะเป็นลมหายใจของความหวัง หรือสถานการณ์อาจเลวร้ายกว่าเดิม ยังไม่มีใครบอกได้ ด้วยเหตุนี้ สถานภาพเดิม หรือ status quo คือให้ท่านห้าวเป้งอยู่ต่อ เป็นทางเลือกที่แคบ ไม่น่าเลือกที่สุด
ผลงานที่ผ่านมา 8 ปี เศรษฐกิจ โครงสร้างประเทศเสื่อมทรุด วิกฤตหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะ ศีลธรรม จริธรรม คุณค่าทางสังคม ไม่เหลือความน่าเชื่อถือ
ผู้กุมอำนาจรัฐไม่รู้สึกวิตกทุกข์ร้อนในความเสื่อมโทรมด้านความเป็นชาติ
ขบวนการ 3 ลุง ถูกประเมินว่าเป็นยุคที่มีการทุจริต คอร์รัปชันมากที่สุด มากกว่ายุคท่านเหลี่ยม เพราะยุคนี้มีเครือข่ายกว้างขวางกว่ามาก ในยุคท่านเหลี่ยมมีแค่คนเดียว กลุ่มทุนใหญ่ เจ้าสัวต่างๆ ขยับไม่คล่องตัว เหมือนผีโดนคาถาสกัด
แต่ยุค 3 ลุงเปรียบเหมือนมีปลาหมึกยักษ์ 3 ตัว มีหนวดยั้วเยี้ย ยื่นยาวออกไปหาเหยื่อทุกทิศ ทั้งยังมีบริวารเป็นเครือข่าย สร้างอิทธิพล ความมั่งคั่ง ความไร้อำนาจของการบังคับใช้กฎหมาย เป็นยุคที่องค์กรอิสระมีปัญหาความน่าเชื่อถืออย่างแรง
เป็นยุคที่เจ้าสัวใหญ่ มีอิสระเสรี ในการขยายกิจการอย่างเต็มที่ ไม่มีใครต้านได้ เป็นผลประโยชน์ของแต่ละกลุ่ม 3 ปลาหมึกต่างสร้างอิทธิพล ฐานความมั่งคั่งเพื่อต้องการอยู่นานด้วยเครือข่ายอำนาจ รับประกันความปลอดภัยบนหลังเสือ
เรื่องท่านห้าวเป้งกำลังจะอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จะชี้ไปทางไหนก็นำไปสู่ปัญหาต่อเนื่อง นี่ยังเป็นประเด็นสำคัญในการชี้ความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ส่งผลต่อมุมมอง สายตาของประชาคมโลก
กลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ เริ่มเดินเครื่อง จัดชุมนุมเพื่อเรียกร้อง ผลักดันท่านห้าวเป้งให้ยอมรับการสิ้นสุดของตำแหน่งนายกฯ แม้จะอ้างว่า “แล้วแต่ศาล” นั่นคือเจตนาที่จะอยู่ต่อในอำนาจพร้อมกับอีก 2 ลุงโดยไม่บอกว่าจะเกิดประโยชน์อะไร
แน่นอน ท่านห้าวเป้งต้องปกป้องตัวเองและฐานอำนาจที่ทำเนียบรัฐบาล ตำรวจประเมินว่าจะมีม็อบจำนวนพอสมควร แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะมากน้อยแค่ไหน ม็อบจุดติดหรือไม่ ช่วงนี้ชาวบ้านมีปัญหาเศรษฐกิจ ไม่อยากเข้าร่วมชุมนุม
นี่เป็นเกมแห่งอำนาจ ความอยู่รอดของชาติเป็นเดิมพัน ทุกวันนี้อยู่ในสภาพอ่อนแอ หลายปัญหาถูกซุกไว้ ถ้าก๊วน 3 ปลาหมึกยังอยู่ ดูอย่างไรบ้านเมืองก็รอดยาก