ปิดฉากสัปดาห์นี้...ขออนุญาตว่ากันเรื่องแบบเบาๆ-สบายๆ อย่างน้อย...ก็เพื่อให้สอดคล้องกับ “วัย” และ “สุขภาพ” ของอันตัวข้าพเจ้าเอง ที่ค่อนข้างจะไปแหล่-มิไปแหล่ จนอาจแทบไม่ได้รู้สึกยินดี-ยินร้ายกับการสาดบ้องข้าวหลามยักษ์ใส่กันและกันของบรรดานักรบในแนวรบ ในสมรภูมิต่างๆ มากมายสักเท่าไหร่นัก นั่นคือเรื่องของ “ดิน-ฟ้า-อากาศ” อันถือเป็นความเป็นไปตาม “ธรรมชาติ” ที่บรรดามวลมนุษย์ไม่ว่าชาติไหน ภาษาไหน เผ่าพันธุ์ไหน ย่อมมีอันต้องพานพบ ต้องเผชิญหน้าอย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...
โดยเฉพาะความหนาว ความเย็น ที่กำลังใกล้เข้ามาเยือนบรรดาพวกฝรั่งมังค่าในอีกไม่ใกล้-ไม่ไกลนับจากนี้ หรือนับจาก “ฤดูใบไม้ร่วง” ตั้งแต่ช่วงปลายๆ เดือนกันยาฯ (22 ก.ย.-21 ธ.ค. 2022) ไปจนถึง “ฤดูหนาว” (22 ธ.ค. 2022-21 มี.ค. 2023) อันจะยืดเยื้อยาวนานและทารุณโหดร้ายไปถึงขั้นไหนต่อขั้นไหนก็ยังยากจะจินตนาการได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...น่าจะ “เอาเรื่อง” อยู่พอสมควรทีเดียว ไม่เช่นนั้นรองผู้นำเยอรมนีและรัฐมนตรีเศรษฐกิจ อย่าง “นายRobert Habeck” ท่านคงไม่คิดจะออกมาเตือนๆ บรรดาชาวเยอรมันทั้งหลายเอาไว้ก่อนล่วงหน้า หรือเมื่อช่วงวันศุกร์ (10 มิ.ย.) ที่ผ่านมานี่เองว่า อาจเป็น “ฤดูใบไม้ร่วงแห่งความยากลำบาก” และ “ความหนักหนา-สาหัสแห่งฤดูหนาว” เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!
คืออาจด้วยเหตุที่บรรดาพวกฝรั่งยุโรปทั้งหลาย ซึ่งเคย “พึ่งพา” พลังงานจากรัสเซียในการช่วยให้เกิดความอบอุ่น ไม่ถึงกับต้องหนาวตาย แข็งตายมาโดยตลอด ระดับเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณความต้องการทั้งมวลในยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเยอรมนีที่เคยถึงขั้นเห็นดี-เห็นงามกับการต่อ “ท่อแก๊ส” ที่เรียกว่า “Nord Stream1-Nord Stream 2” จากรัสเซียมาส่งให้ถึงปากประตูหน้าบ้านตัวเองมาโดยตลอด แต่ด้วยเหตุเพราะหลังๆ นี้...ด้วยการตัดสินใจแบบ “Colony” หรือแบบไม่ได้มี “Sovereign Decisions” หลงเหลือติดปลายนวมเอาไว้บ้างเลย ก็แล้วแต่จะไปคิดๆ เอาเองก็แล้วกัน การตัดสินใจคิดจะเลิกซื้อถ่านหิน ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ที่เคยช่วยสร้างความอบอุ่นตลอดเท่าที่ผ่านมา ภายในสิ้นปีนี้ให้จงได้ รวมทั้งยังคิดเลิกซื้อแก๊สจากรัสเซียโดยถ้วนทั้งหมดนับจากปี ค.ศ. 2024 เป็นต้นไป เลยทำให้บรรดาฝรั่งเยอรมนีและฝรั่งยุโรปทั้งหลาย ย่อมมีสิทธิหนาวตาย แข็งตาย หรือต้องเยี่ยวแล้วเด็ดปัสสาวะทิ้งกันไปเป็นรายๆ มากบ้าง-น้อยบ้าง ไปตามสภาพ...
เพราะการคิดจะปฏิเสธพลังงานทั้งมวลจากรัสเซีย อันเป็นสิ่งที่มีอยู่ มีจริง และมีเป็นอันดับ 2 อันดับ 3 ของโลก โดยหันไปแย่งซื้อพลังงานจากที่อื่นๆ มาเป็นตัวชดเชย หรือทดแทนนั้น ย่อมมีแต่ก่อให้เกิด “ความขาดแคลน” และทำให้ราคาพลังงานในโลกมีแต่สูงขึ้นๆ เฉพาะแค่ในประเทศเยอรมนีทุกวันนี้ระดับราคาพุ่งพรวดๆ พราดๆ ไปกว่าปีที่แล้วถึง 38.3 หรือเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต่างไปจากประเทศซีกโลกภาคเหนือทั้งหลายที่มีแต่ต้องเผชิญกับความหนาว ความเย็น นับแต่ฤดูใบไม้ร่วงไปจนฤดูหนาวอันยาวนาน อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้เลย การพร้อมอก-พร้อมใจปฏิเสธพลังงานจากรัสเซีย หรือการ “แซงชั่นรัสเซีย” ตามแรงกดดันของ “ประมุขโลก” อย่างคุณพ่ออเมริกา ที่ปัจจุบันต้องซื้อน้ำมันเติมรถ เติมรา ราคาถึง 5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หรือระดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้วในทุกวันนี้ อันนี้นี่แหละ...ที่เลยทำให้เรื่อง “ดิน-ฟ้า-อากาศ” หรือเรื่องของฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาวคราวนี้ จึงเป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจมิใช่น้อย ว่าด้วยความเป็นไปตาม “ธรรมชาติ” เหล่านี้ มันจะนำไปสู่ฉากเหตุการณ์แบบไหน? อย่างไร? ในอนาคตเบื้องหน้าได้มั่ง...
คือถ้าลองย้อนกลับไปยังอดีต...เมื่อสัก 300 กว่าปีที่แล้ว หรือช่วงที่ยังไม่ได้มีการต่อท่อแก๊ส ท่อน้ำมัน ส่งผ่านกันไป-กันมาเหมือนเช่นทุกวันนี้ ด้วยความหนาวอันสุดแสนจะโหดร้ายทารุณ ที่เคยอุบัติขึ้นมาในช่วงปี ค.ศ. 1709 หรือช่วงที่เรียกๆ กันว่า “The Great Frost” ที่หนาวชนิด “แข็งกันเป็นแท่งๆ” ไปทั่วทั้งยุโรป ระดับอุณหภูมิในอังกฤษติดลบไปถึง 12 องศาเซลเซียส ฝรั่งเศสลบ 15 องศาเซลเซียส เล่นเอาชาวฝรั่งเศส “แข็งตาย” ไปถึง 600,000 กว่าคน เมื่อช่วงปี ค.ศ. 1710 หรือชาวเยอรมันนับพัน-นับหมื่น ต้องอพยพหนีหนาวจากเทือกเขา “Palatinate” ลงมาอยู่ในยุโรปภาคกลางจนตราบเท่าทุกวันนี้ ฯลฯ ในช่วงจังหวะนั้นนั่นแหละ...ที่ว่ากันว่าพวกฝรั่งสวีเดน ภายใต้การนำของพระเจ้า “ชาร์ลส์ที่ 12” ท่านเกิดเปรี้ยวมือเปรี้ยวไม้ อยากจะบุกไปกระทืบหมีขาวรัสเซีย ที่อยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้า “ปีเตอร์มหาราช” (Peter the Great) ไม่ต่างอะไรไปจากผู้นำสวีเดนและฟินแลนด์ ที่คิดจะสมัครเข้าเป็น “สมาชิกนาโต” ในทุกวันนี้ จนเกิดสงครามที่เรียกขานกันในนาม “The Great Northern War” ในช่วงเมื่อกว่า 300 ปีที่แล้ว หรือระหว่างปี ค.ศ. 1700-1721 นั่นเอง...
แต่ว่ากันว่า...ด้วยเหตุเพราะ “ความหนาวว์ว์ว์” นั่นแหละ ที่ทำให้บรรดาทหารสวีเดนของพระเจ้า “ชาร์ลส์ที่ 12” ซึ่งแม้จะกระเหี้ยนกระหือรืออยากรุมเหยียบ รุมกระทืบหมีขาวรัสเซียถึงขั้นไหน แต่เมื่อดันไม่ได้คำนึงถึงเรื่องความเป็นไปของสภาพ “ดิน-ฟ้า-อากาศ” ให้ละเอียดประณีตและถ้วนถี่ เลยมีอันต้อง “หนาวตาย” หรือ “แข็งตาย” เป็นท่อนๆ ไปภายในวันเดียว หรือคืนเดียวถึง 2,000 นายเป็นอย่างน้อย ต่างไปจากทหารรัสเซียของพระเจ้า “ปีเตอร์” ที่คุ้นเคย คุ้นชินกับความหนาวและเตรียมตัว-เตรียมใจมาแล้วเป็นอย่างดี เลยยังสามารถรักษาศักยภาพและประสิทธิภาพต่างๆ เอาไว้ได้ ดังนั้น...เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนของปีดังกล่าว ทหารรัสเซียเลยกลายเป็นฝ่ายพิชิตทหารสวีเดนซะอยู่หมัด ในสมรภูมิ “Poltava” หรือทำให้ผู้ที่อยากจะรุมกระทืบผู้อื่น กลายเป็นผู้ที่ต้องถูกกระทืบกันไปซะแทนที่ ถึงขั้นต้องเสียหมา เสียสุนัข เสียรังวัด หรือต้อง “แพ้สงคราม” ไปในท้ายที่สุด...
เรื่องของ “ความหนาวว์ว์ว์” ไม่ว่าคราวโน้นหรือคราวนี้...มันเลยเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ใคร คงหนีไม่พ้นต้องหยิบเอามาใช้เป็นข้อคิด เป็นเครื่องสะกิดใจ ไว้ซะแต่เนิ่นๆ จะเอาแต่ไปคิดตาม ทำตามความปรารถนาและความต้องการของผู้อื่น หรือผู้ที่พยายามยุแยงตะแคงรั่ว แบบชนิดแทบไม่เหลือ “Sovereign Decisions” ติดปลายนวมเอาไว้มั่งเลย คงไม่น่าจะเข้าท่ากันสักเท่าไหร่นัก ยิ่งช่วงหน้าหนาวคราวนี้ ปีนี้-ปีหน้า หรืออาจต่อเนื่องไปอีก 3 ปี หน่วยงานหรือองค์กรที่เฝ้าพินิจติดตามความเคลื่อนไหวทางด้านสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศ อย่างองค์กรที่มีชื่อเรียกสั้นๆ ย่อๆ ว่า “NOAA” (National Oceanic and Atmospheric Administration) เขาเพิ่งจะนำเสนอรายงานชิ้นล่าสุด ถึง “ปรากฏการณ์” บางอย่างในแถบมหาสมุทรด้านใต้ ที่เรียกๆ กันว่า “ENSO” หรือ “El Nino Southern Oscillation” หรือปรากฏการณ์การแกว่งไกวของสภาวะอากาศแบบที่ถูกเรียกขานกันในนาม “El Nino” อันมีความสัมพันธ์แบบแยกไม่ออกจากสภาวะอากาศที่เป็นไปในลักษณะตรงกันข้าม หรือที่รู้จักกันในนาม “La Nina” โดยจะด้วยการกระทำปฏิกิริยาระหว่างกันและกันอีท่าไหนต่อท่าไหนก็แล้วแต่ ว่ากันว่า...โอกาสที่จะเกิดอาการหนาวว์ว์ว์หนัก หนาวว์ว์ว์นาน ในแถบซีกโลกภาคเหนือ ไม่ว่าตั้งแต่แถบอะแลสกา ตะวันตกของแคนาดา อเมริกาตอนเหนือ ไปจนตลอดทั่วทั้งยุโรป ฯลฯ ชนิดต้องแข็งแล้ว แข็งอีก หรือโด่ไม่รู้ล้มนับตั้งแต่ปีนี้ ไปจนอีก 3 ปีข้างหน้า ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ!!!
ยิ่งถ้าหากบรรดาฝรั่งยุโรป ฝรั่งอเมริกา...ดันคิดจะมาเลิกซื้อถ่านหินรัสเซีย น้ำมันรัสเซีย แก๊สรัสเซีย ฯลฯ นับจากนี้เป็นต้นไปให้จงได้ อันนี้...ยิ่งย่อมมีโอกาส “ตาย...กับ...ตาย” หรือแข็งโด่ แข็งเด่ เป็นท่อนไม้ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น แม้ว่าแต่ละราย แต่ละประเทศ จะพยายามหันมาปลุก หันมากระตุ้น ให้ผู้คนในประเทศตัวเองกล้าสู้ กล้าเผชิญหน้ากับความหนาว ความเย็นกันในลักษณะใดก็ตามที อย่างเช่นประเทศเยอรมนี ที่พยายามโหมรณรงค์ให้ชาวเยอรมันหันมา “ประหยัดพลังงาน” ด้วยกรรมวิธีต่างๆ เพื่อที่จะเป็นอิสระไปจากการ “พึ่งพา” พลังงานรัสเซีย รวมทั้งเป็นการช่วยโลกทั้งโลก หรือช่วยกอบกู้ ฟื้นฟูสภาวะอากาศให้ดีขึ้นๆ ไปตามลำดับ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ...ไม่ว่าจะฝรั่งยุโรป หรือฝรั่งอเมริกาช่วงนี้ ไม่ใช่แค่ต้องเผชิญกับความหนาว ความเย็น ที่กำลังจะมาเยือนเท่านั้น ยังหนีไม่พ้นต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ เจอกับภาวะข้าว-ปลา-อาหารที่ไม่เพียงแต่ “แพง...แสน...แพง” ยังแถมขาดแคลน อันเนื่องมาจากการ “แซงชั่นรัสเซีย” แบบชนิดเอาเป็น-เอาตายซะอีกด้วย ดังนั้น...สุดท้ายแล้ว!!!ใครจะทนมือ ทนตีน ทนหนาว ทนหิว ทนทุกสิ่งทุกอย่างได้มาก-น้อยไปกว่ากัน คงประมาณหน้าหนาวคราวนี้นี่แหละ ที่พอใช้เป็นเครื่องวัดตัดสินได้ว่า ใครหมู่-ใครจ่า-และใครสารวัตรกันแน่...