ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล (Citizen data sciences)
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
กรณีพิพาทจนเกิดสงครามระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเมื่อคราว ร.ศ.112 นั้น จนทำให้ต้องจ่ายค่าปฏิกรณ์สงครามให้ฝรั่งเศสราวสามล้านฟรังค์ โดยใช้เงินถุงแดงและเงินเรี่ยไรบริจาคจากพระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง และประชาชน อีกมากนั้น อันเป็นการใช้จ่ายทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เพื่อกอบกู้ชาติบ้านเมือง
มูลเหตุนั้นมีมายาวนานต่อเนื่องนับแต่ฝรั่งเศสเข้ายึดครองเวียดนามได้ และหมายมั่นจะขยายเขตอาณานิคมเข้ามาในแหลมอินโดจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศลาวในปัจจุบัน ความขัดแย้งระหองระแหงระหว่างไทยกับฝรั่งเศสมีมาแต่กรณีกบฎเจ้าอนุวงศ์ และต่อมาสงครามปราบฮ่อ ที่เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) เป็นแม่ทัพยกพลขึ้นไปปราบฮ่อที่แคว้นหัวพันห้าทั้งหกและแคว้นสิบสองจุไท ซึ่งฝรั่งเศสคิดว่าอาณาบริเวณดังกล่าวอยู่ในอาณานิคมอินโดจีนของตน
ชนวนใหญ่ที่ฝรั่งเศสก่อให้เกิดสงครามคือการเข้ายึดเมืองคำม่วนที่เป็นเขตปกครองของไทย และพยายามขับไล่เจ้าเมืองคือพระยอดเมืองขวาง (ขำ ยอดเพ็ชร์) โดยกองกำลังทหารนำโดยมงซิเออร์ลูซ ได้บังคับให้พระยอดเมืองขวาง เจ้าเมืองคำม่วนออกจากพื้นที่ พระยอดเมืองขวางเป็นข้าหลวงในสังกัดของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือ ได้ต่อสู้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการรักษาแผ่นดินไทยเอาไว้ มีทหารทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายฝรั่งเศสบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนหนึ่ง ทำให้ฝรั่งเศสถือเป็นเหตุอันไม่พอ และไปยึดหัวเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออกเอาไว้ในปกครองของตนคือเมืองจันทบุรีและเมืองตราด
คดีพระยอดเมืองขวางที่ฆ่านายทหารญวณและเวียดนามเสียชีวิตไปนั้น สร้างความไม่พอใจให้กับทางฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก กระบวนการศาลยุติธรรมไทยได้ตัดสินว่าพระยอดเมืองขวางไม่ผิด แต่ฝรั่งเศสไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย และต้องการใช้สิทธิสภาพนอกอาณาเขต โดยจัดตั้งศาลร่วมระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเพื่อตัดสินคดีพระยอดเมืองขวาง ซึ่งทางการไทยก็ไม่ร่วมมือ ไม่ยอมส่งพระยอดเมืองขวางไปขึ้นศาลดังกล่าว แต่ปัญหานี้ท้ายที่สุดไทยก็ต้องยอม ศาลที่จัดตั้งขึ้นโดยฝรั่งเศสตัดสินพิพากษาว่าพระยอดเมืองขวางมีความผิดจริงต้องโทษจำคุก และทำให้ท้ายสุดพระยอดเมืองขวางก็ต้องไปเข้าคุกของฝรั่งเศส
วันที่ 21 มีนาคม ร.ศ.112 ฝรั่งเศสได้ส่งเรือ Lutin เข้ามาจอดทอดสมออยู่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่ออวดแสดงแสนยานุภาพ ได้เข้ามาขอเจรจาและเรียกร้องให้สยามยอมรับเขตแดนญวน (เวียดนาม) ว่ารวมถึงฝั่งซ้ายลำน้ำโขงทั้งหมด (หรือประเทศลาวในปัจจุบันทั้งประเทศ) แต่ไทยไม่ยินยอม
ในช่วงเวลาเดียวกันผู้สำเร็จราชการอินโดจีนของฝรั่งเศสได้ส่งนายออกุสต์ ม. ปาวี ซึ่งเป็น Vice Consul ประจำเมืองหลวงพระบางมาเป็นกงสุลประจำกรุงเทพมหานครเพื่อเจรจาต่อรองรักษาผลประโยชน์ของฝรั่งเศส โดยตรง ฝรั่งเศสได้เอาเรือรบเข้ามาในอ่าวไทย เพื่อปิดปากอ่าวไทย และเกิดการสู้รบกันระหว่างฝรั่งเศสกับทหารเรือไทย บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา ทางทหารเรือไทยได้ชักรอกยกโซ่ที่อยู่ใต้ท้องน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นมาขวางกลางลำน้ำ มิให้เรือรบของฝรั่งเศสเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ เกิดการยิงต่อสู้กัน มีการบาดเจ็บล้มตายทั้งฝั่งไทยและฝรั่งเศส
หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสระดมรายงานข่าวว่าฝ่ายไทยระดมยิงเรือรบฝรั่งเศสได้รับความเสียหายหนักดังภาพด้านล่างนี้



ไทยแม้จะพยายามสู้รบแต่ด้วยอุปกรณ์และอาวุธยุทโธปกรณ์ไม่ทันสมัยเทียมเท่าฝรั่งเศสก็ต้องล่าถอยและทางกรุงเทพมหานครก็สั่งให้หยุดรบชั่วคราวก่อน ในระหว่างนั้นออกุสต์ ม. ปาวี ได้เรียกร้องค่าปฏิกรณ์สงครามเป็นเงินสามล้านฟรังก์ เพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้ฝรั่งเศส ทั้งๆ ที่ฝรั่งเศสเป็นผู้ที่รุกรานเราก่อน ค่าปฏิกรณ์สงครามมากขนาดนี้ฝรั่งเศสเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าไทยจะมีเงินตราต่างประเทศเก็บไว้มากขนาดนั้น จึงเป็นข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ไทยเสียเปรียบมากที่สุด แต่เป็นด้วยพระวิสัยทัศน์อันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ได้ทรงเก็บหอมรอมริบพระราชทานเงินถุงแดงไว้เป็นทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จึงทำให้เราสามารถมีเงินเพียงพอที่จะชำระได้ในทันที ทำให้เรารอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกามาได้ กระนั้นไทยก็ยังต้องเสียดินแดนคือฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงทั้งหมด และเมืองจันทบุรีและตราด สองหัวเมืองชายทะเลตะวันออกไปในคราวนี้
เงินเหรียญปีกนกเม็กซิโกในถุงแดงนั้นเก่าเก็บคร่ำคร่า ถุงผ้าเปื่อยเมื่อขนขึ้นเรือรบฝรั่งเศส ทหารฝรั่งเศสต้องนำถังไม้มาถ่ายบรรจุเงินค่าปฏิกรณ์สงครามดังกล่าววางเรียงรายบนดาดฟ้าเรือรบดังภาพด้านล่างนี้

การเสียดินแดนดังกล่าวทำให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสียพระทัยและไม่ทรงยอมเสวยพระโอสถถึงกับทรงคิดจะตรอมพระทัยตายเลยทีเดียว ได้พระราชนิพนธ์อินทรวิเชียรฉันท์ลงมาลาพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพารดังนี้
เจ็บนานนึกหน่ายนิตย์ มะนะเรื่อง บำรุงกาย
ส่วนจิตต์บ่มีสบาย ศิระกลุ้มอุราตรึง
แม้หายก็พลันยาก จะลำบากฤทัยพึง
ตริแต่จะถูกรึง อุระรัดและอัตรา
กลัวเป็นทวิราช บตริป้องอยุธยา
เสียเมืองจึงนินทา บละเว้นฤวางวาย
คิดใดจะเกี่ยงแก้ ก็บ่พบซึ่งเงื่อนสาย
สบหน้ามนุษย์อาย จึงจะอุดแลเลยสูญ
ด้วยทรัพย์สินพระมหากษัตริย์คือเงินถุงแดงที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเก็บหอมรอมริบและพระราชทานไว้ให้พระมหากษัตริย์ในภายภาคหน้า และด้วยพระปรีชาญาณในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช ผู้ทรงยอมผ่อนหนักเป็นเบา พึงสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตไว้ ทำให้ชาติไทยยังดำรงเอกราชมาได้จึงตราบทุกวันนี้

สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล (Citizen data sciences)
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
กรณีพิพาทจนเกิดสงครามระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเมื่อคราว ร.ศ.112 นั้น จนทำให้ต้องจ่ายค่าปฏิกรณ์สงครามให้ฝรั่งเศสราวสามล้านฟรังค์ โดยใช้เงินถุงแดงและเงินเรี่ยไรบริจาคจากพระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง และประชาชน อีกมากนั้น อันเป็นการใช้จ่ายทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เพื่อกอบกู้ชาติบ้านเมือง
มูลเหตุนั้นมีมายาวนานต่อเนื่องนับแต่ฝรั่งเศสเข้ายึดครองเวียดนามได้ และหมายมั่นจะขยายเขตอาณานิคมเข้ามาในแหลมอินโดจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศลาวในปัจจุบัน ความขัดแย้งระหองระแหงระหว่างไทยกับฝรั่งเศสมีมาแต่กรณีกบฎเจ้าอนุวงศ์ และต่อมาสงครามปราบฮ่อ ที่เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) เป็นแม่ทัพยกพลขึ้นไปปราบฮ่อที่แคว้นหัวพันห้าทั้งหกและแคว้นสิบสองจุไท ซึ่งฝรั่งเศสคิดว่าอาณาบริเวณดังกล่าวอยู่ในอาณานิคมอินโดจีนของตน
ชนวนใหญ่ที่ฝรั่งเศสก่อให้เกิดสงครามคือการเข้ายึดเมืองคำม่วนที่เป็นเขตปกครองของไทย และพยายามขับไล่เจ้าเมืองคือพระยอดเมืองขวาง (ขำ ยอดเพ็ชร์) โดยกองกำลังทหารนำโดยมงซิเออร์ลูซ ได้บังคับให้พระยอดเมืองขวาง เจ้าเมืองคำม่วนออกจากพื้นที่ พระยอดเมืองขวางเป็นข้าหลวงในสังกัดของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือ ได้ต่อสู้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการรักษาแผ่นดินไทยเอาไว้ มีทหารทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายฝรั่งเศสบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนหนึ่ง ทำให้ฝรั่งเศสถือเป็นเหตุอันไม่พอ และไปยึดหัวเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออกเอาไว้ในปกครองของตนคือเมืองจันทบุรีและเมืองตราด
คดีพระยอดเมืองขวางที่ฆ่านายทหารญวณและเวียดนามเสียชีวิตไปนั้น สร้างความไม่พอใจให้กับทางฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก กระบวนการศาลยุติธรรมไทยได้ตัดสินว่าพระยอดเมืองขวางไม่ผิด แต่ฝรั่งเศสไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย และต้องการใช้สิทธิสภาพนอกอาณาเขต โดยจัดตั้งศาลร่วมระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเพื่อตัดสินคดีพระยอดเมืองขวาง ซึ่งทางการไทยก็ไม่ร่วมมือ ไม่ยอมส่งพระยอดเมืองขวางไปขึ้นศาลดังกล่าว แต่ปัญหานี้ท้ายที่สุดไทยก็ต้องยอม ศาลที่จัดตั้งขึ้นโดยฝรั่งเศสตัดสินพิพากษาว่าพระยอดเมืองขวางมีความผิดจริงต้องโทษจำคุก และทำให้ท้ายสุดพระยอดเมืองขวางก็ต้องไปเข้าคุกของฝรั่งเศส
วันที่ 21 มีนาคม ร.ศ.112 ฝรั่งเศสได้ส่งเรือ Lutin เข้ามาจอดทอดสมออยู่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่ออวดแสดงแสนยานุภาพ ได้เข้ามาขอเจรจาและเรียกร้องให้สยามยอมรับเขตแดนญวน (เวียดนาม) ว่ารวมถึงฝั่งซ้ายลำน้ำโขงทั้งหมด (หรือประเทศลาวในปัจจุบันทั้งประเทศ) แต่ไทยไม่ยินยอม
ในช่วงเวลาเดียวกันผู้สำเร็จราชการอินโดจีนของฝรั่งเศสได้ส่งนายออกุสต์ ม. ปาวี ซึ่งเป็น Vice Consul ประจำเมืองหลวงพระบางมาเป็นกงสุลประจำกรุงเทพมหานครเพื่อเจรจาต่อรองรักษาผลประโยชน์ของฝรั่งเศส โดยตรง ฝรั่งเศสได้เอาเรือรบเข้ามาในอ่าวไทย เพื่อปิดปากอ่าวไทย และเกิดการสู้รบกันระหว่างฝรั่งเศสกับทหารเรือไทย บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา ทางทหารเรือไทยได้ชักรอกยกโซ่ที่อยู่ใต้ท้องน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นมาขวางกลางลำน้ำ มิให้เรือรบของฝรั่งเศสเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ เกิดการยิงต่อสู้กัน มีการบาดเจ็บล้มตายทั้งฝั่งไทยและฝรั่งเศส
หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสระดมรายงานข่าวว่าฝ่ายไทยระดมยิงเรือรบฝรั่งเศสได้รับความเสียหายหนักดังภาพด้านล่างนี้
ไทยแม้จะพยายามสู้รบแต่ด้วยอุปกรณ์และอาวุธยุทโธปกรณ์ไม่ทันสมัยเทียมเท่าฝรั่งเศสก็ต้องล่าถอยและทางกรุงเทพมหานครก็สั่งให้หยุดรบชั่วคราวก่อน ในระหว่างนั้นออกุสต์ ม. ปาวี ได้เรียกร้องค่าปฏิกรณ์สงครามเป็นเงินสามล้านฟรังก์ เพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้ฝรั่งเศส ทั้งๆ ที่ฝรั่งเศสเป็นผู้ที่รุกรานเราก่อน ค่าปฏิกรณ์สงครามมากขนาดนี้ฝรั่งเศสเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าไทยจะมีเงินตราต่างประเทศเก็บไว้มากขนาดนั้น จึงเป็นข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ไทยเสียเปรียบมากที่สุด แต่เป็นด้วยพระวิสัยทัศน์อันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ได้ทรงเก็บหอมรอมริบพระราชทานเงินถุงแดงไว้เป็นทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จึงทำให้เราสามารถมีเงินเพียงพอที่จะชำระได้ในทันที ทำให้เรารอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกามาได้ กระนั้นไทยก็ยังต้องเสียดินแดนคือฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงทั้งหมด และเมืองจันทบุรีและตราด สองหัวเมืองชายทะเลตะวันออกไปในคราวนี้
เงินเหรียญปีกนกเม็กซิโกในถุงแดงนั้นเก่าเก็บคร่ำคร่า ถุงผ้าเปื่อยเมื่อขนขึ้นเรือรบฝรั่งเศส ทหารฝรั่งเศสต้องนำถังไม้มาถ่ายบรรจุเงินค่าปฏิกรณ์สงครามดังกล่าววางเรียงรายบนดาดฟ้าเรือรบดังภาพด้านล่างนี้
การเสียดินแดนดังกล่าวทำให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสียพระทัยและไม่ทรงยอมเสวยพระโอสถถึงกับทรงคิดจะตรอมพระทัยตายเลยทีเดียว ได้พระราชนิพนธ์อินทรวิเชียรฉันท์ลงมาลาพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพารดังนี้
เจ็บนานนึกหน่ายนิตย์ มะนะเรื่อง บำรุงกาย
ส่วนจิตต์บ่มีสบาย ศิระกลุ้มอุราตรึง
แม้หายก็พลันยาก จะลำบากฤทัยพึง
ตริแต่จะถูกรึง อุระรัดและอัตรา
กลัวเป็นทวิราช บตริป้องอยุธยา
เสียเมืองจึงนินทา บละเว้นฤวางวาย
คิดใดจะเกี่ยงแก้ ก็บ่พบซึ่งเงื่อนสาย
สบหน้ามนุษย์อาย จึงจะอุดแลเลยสูญ
ด้วยทรัพย์สินพระมหากษัตริย์คือเงินถุงแดงที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเก็บหอมรอมริบและพระราชทานไว้ให้พระมหากษัตริย์ในภายภาคหน้า และด้วยพระปรีชาญาณในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช ผู้ทรงยอมผ่อนหนักเป็นเบา พึงสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตไว้ ทำให้ชาติไทยยังดำรงเอกราชมาได้จึงตราบทุกวันนี้